หนุ่มหลอนยา มองเห็นป้าพิการวัย 67 เป็นปอบ ใช้จอบทุบหัวดับคามุ้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. 67 ร.ต.ท.ศุภชัย หน่อทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง ได้รับแจ้งเหตุหญิงสูงอายุ ถูกหลานชายฆ่าเสียชีวิต อยู่ในบ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแม่ไก่ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง


ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง อยู่กลางสวนป่าต้นสัก ที่ชั้นบนพบว่ามีสุนัข เพศผู้ ตัวสีขาว นอนเฝ้าศพที่นอนตายอยู่ภายในมุง ที่หูมุงขาดมาตกลงมาทับพันที่บริเวณศีรษะของผู้เสียชีวิต และมีคราบเลือด บริเวณหัวเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา นางสาวประเทือง อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ

และพบหลานชายที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นาย ประทานพร อายุ 32 ปี เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็เดินมาเล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นผู้ฆ่าป้าวัย 67 ปีตาย โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองนอนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับป้า และป้าได้เรียกตนเองบอกว่าหิว ตนเองหันไปเห็นเขาจ้องมองดูตนเองบอกว่าหิว เป็นปอบแน่เลย มองมาจะกินตนเอง เลยไปหยิบมีดที่ใช้ฟันหญ้ามากระหน่ำฟันจนด้ามมีดหักงอ และกลัวว่าไม่ตาย จึงได้ลงใต้ถุนไปหยิบจอบมาทุบหัวอีก และนอนอยู่ในบ้านดังกล่าวจนกระทั่งเช้าวันนี้ ได้เกิดหิวข้าวจึงเดินไปขอข้าวแม่ที่อาศัยอยู่บ้านญาติ กินข้าวเสร็จแล้วก็บอกแม่ว่า ฆ่าป้าตายแล้ว

ด้าน นางสาวประทัน อายุ 58 ปี แม่ของนายประทานพร ผู้ก่อเหตุ และเป็นน้องสาว นางสาวประเทือง ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ลูกชายพิการแขนซ้ายเป็นโปลิโอมาตั้งแต่เด็ก โดยอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับนางสาวประเทือง ผู้เสียชีวิต ด้วยกัน 2 คน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แต่ลูกชายอาละวาดชอบทำร้าย เมื่อขอเงินไม่ได้ก็ขู่ทำร้ายตลอด จึงไปอาศัยอยู่บ้านญาติ ซึ่งจะคอยนำข้าวปลาอาหารมาให้ลูกชายและพี่สาว เมื่อเช้าที่ผ่านมา ลูกชายมากินข้าวที่บ้านและบอกว่าฆ่าป้าตายแล้ว บอกว่า ป้าจะกินหนู จึงมาดูที่บ้านเกิดเหตุ พบเสียชีวิตจริง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด และคุมตัวลูกชายไปสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมาย

ด้านนายธวัช ภู่ระหงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแม่ไก่ เล่าให้ฟังว่า นายประทานพรมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอาละวาดเป็นประจำ โดยเข้ามาว่ากล่าวตักเตือน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปหลายครั้ง



ส่วนทางด้าน นางสาว พร วัย 47 ปี หลานคนตาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ยินเสียป้า และนายประทานพร ผู้ก่อเหตุ ทะเลาะกัน และเสียงก็เงียบหายไปในคืนวันที่ 5 ที่ผ่านมา แต่ไม่กล้าเข้าไปดู เนื่องจากกลัวถูกทำร้ายจากผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีพฤติการเสพยาและชอบทำร้ายแม่เป็นประจำ จนอยู่บ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ ส่วนชาวบ้านบางคนก็บอกว่า แม่ชอบตามใจลูก เมื่อก่อเหตุทำร้ายชาวบ้านมาช่วย ก็เข้าข้างลูกบอกทนได้จนชาวบ้านเอือมระอา

ด้าน นางสาวตูน พี่สาว บอกว่า น้องชายชอบทำร้ายแม่ และขู่เอาเงินเป็นประจำ เมื่อไม่ได้ก็ทำร้ายจนไม่มีใครอยู่ในบ้านได้ และยังเผารถจักรยานยนต์ที่อีกด้วยเมื่อไม่ได้ดั่งใจ