สังคม

หนุ่มหึงโหดลวงแฟนเก่าขึ้นรถ มัดมือ-เท้า อ้างจะหนีไปกับชู้ พลเมืองดีแจ้ง ตร. สกัดจับทันควัน

โดย petchpawee_k

21 พ.ย. 2567

101 views

หนุ่ม 29 หึงโหด ควงเพื่อน ฉุดแฟนเก่าขึ้นรถ ก่อนสั่งเพื่อนจับมัดมือ-เท้า เอาเทปปิดปาก ขับมาถึงกลางทางพบประตูหลังรถเปิด พลเมืองดีเห็นหญิงหญิงชูมือที่ถูกมัด กรีดร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนพลเมืองดีบีบแตรลั่น ช่วยเจรจา สุดท้ายไม่เป็นผล ฝ่ายชายตบ “เมียจะหนีไปกับชู้” ก่อนจนมุมตำรวจสกัดจับในที่สุด ฝ่ายหญิง เผย แฟนเก่าขอเจอครั้งสุดท้าย พอหลงเชื่อลงมาถูกฉุดทันที ระบุ สภาพจิตใจตอนนี้แย่มาก หวาดกลัวไม่กล้าออกไปไหน ด้านตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา ต้องหารับสารภาพทั้งหมดในชั้นสอบสวน

วานนี้ (20 พ.ย.67) เวลา 16.33 น. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Thirasak Sp” โพสต์คลิปลงในกลุ่ม “ แจ้งข่าวสารคนราษฎร์บูรณะบูรณะ”  ซึ่งเป็นคลิปเหตุการณ์สุดระทึกบนนแถวๆวัดทุ่งครุ  จากคลิปจะเห็นว่าเก๋งสีบรอนด์ทะเบียน  กรุงเทพมหานคร  ตอนแรกประตูรถหลังด้านซ้ายเปิดแง้มออกเล็กน้อย พร้อมกับมีอวัยวะบางอย่างของคนโผล่อออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้อง พอเจ้าของคลิปขับรถเข้าไปใกล้เรื่อยๆเห็นได้เป็นมือของหญิงสาวถูกมัด พยามชูมือร้องขอความช่วยเหลือ  ซึ่งในคลิปเจ้าของคลิปบรรยายว่ามีคนถูกมัดมือ  ซึ่งรถหลายคันที่ขับตามๆมาขณะนั้นต่างบีบแตรช่วย และเจ้าของรถผู้บันทึกคลิปได้ตะโกนบอกผู้สัญจรบนถนนว่ารถคันหน้าจับผู้หญิง


พอคนถ่ายคลิปยิ่งขับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ เห็นได้ชัดชัดเจนว่าหญิงคนดังกล่าวนอนหงาย หัวห้อย อยู่เบาะหลัง มือถูกมัดขณะที่ประตูถูกแง้มออก และรถเคลื่อนไปบนถนนต่อเนื่อง บางช่วงเจ้าตัวตะโกนสุดเสียงขอความช่วยเหลือว่า “ช่วยด้วยพี่ เขาจับตัวหนูมาค่ะพี่” จังหวะนี้เก๋งคันดังกล่าวพยายามขับแซงและขับเร็วขึ้นเพื่อหนี เจ้าของรถคนถ่ายคลิปพยายามตะโกนบอกคนแถวนั้นให้ขับตามและช่วยแจ้งตำรวจ

ขณะที่อีกคลิปผู้ถ่ายคลิป ขับตามเข้าไปใกล้ๆเก๋งบรอนด์ และเห็นชัดๆ พร้อมกับถามว่า “เป็นะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องมัดมืมัดเท้าเขา”  โดยชายเสื้อดำ ที่อยู่เบาะหลังเป็นคนมัดมือมัดเท้า ทราบในเวลาต่อมาว่า ชื่อ นายปิติภูมิ  อายุ 28 ปี เป็นเพื่อนของแฟนเก่าฝ่ายหญิง ซึ่งแฟนเก่าฝ่ายหญิงคือชายคนขับ ชื่อนายรัฐพงศ์ อายุ 29 ปี  โดยเพื่อนแฟนเก่าตอบว่า “เขาจะหนีไปกับชู้” ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ และบอกว่า เลิกกันไปแล้ว แล้วเขาก็มาจับตัวหนู  ก่อนแฟนเก่าจะขับรถไปต่อ ท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

ขณะที่พลเมืงดีก็เกลี่ยกล่อมให้คุยกันดีๆ แต่ไม่เป็นผล ก่อนที่แฟนเก่าของฝ่ายหญิงจะจอดรถ ลงจากรถ มาอุ้มฝ่ายหญิงยัดกลับเข้าไปในรถพร้มบอกว่า “เมียผมมันหนีไปอยู่กับชู้”

ต่อมาศูนย์วิทยุ สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งเหตุว่าทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเบื้องต้นว่าตามรายงาน ขณะนั้น พบว่า มีหญิงสาว 1 ราย ถูกชาย 2 ราย ทำร้ายร่างกายภายในรถ ทราบในเวลาต่อมาผู้ต้องหาคือ ประกอบด้วย ผู้ต้องหา ที่ 1 นายรัฐพงศ์ อายุ 29 ปี (คนขับ แฟนเก่าฝ่ายหญิง) และผู้ต้องหาที่ 2 นายปิติภูมิ  อายุ 28 ปี (คนมัดมือมัดเท้า นั่งเบาะหลัง เป็นเพื่อนฝ่ายชาย แฟนเก่าหญิงสาว)  ส่วนหญิงสาวผู้เสียหาย คือ น.ส.ดารณี อายุ 26 ปี

โดยพฤติการณ์พบว่า เวลาประมาณ 16.33 น. ศูนย์วิทยุ สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ เบื้องต้นว่าตามรายงานพบว่า มีหญิงสาว ถูกชายจำนวน 2 คน  ทำร้ายร่างกายภายในรถ ขณะนั้นไม่ทราบอาวุธ  รถยนต์มาจากทางวัดทุ่งครุ มุ่งหน้าทางแยกทุ่งครุ  

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ประกอบด้วย พ.ต.ท.สุมิตร นานนท์ สว.จร.สน.ทุ่งครุ ได้สกัดรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทุ่งครุ  เมื่อหยุดรถยนต์ดังกล่าวได้พบว่ามี นายปิติภูมิ  เป็นผู้ขับขี่  และมี นายรัฐพงศ์ นั่งโดยสาร และ พบนางสาวดารณี หญิงผู้เสียหาย ในลักษณะที่มีการใช้เชือก มัดแขนและมัดขา ปิดปากด้วยเทปปิดปาก นั่งอยู่บริเวณเบาะโดยสารด้านหลัง  จึงได้ทำการช่วยเหลือหญิงดังกล่าวและได้พร้อมจับตัวผู้ก่อเหตุมายัง สน.ทุ่งครุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน นายพลกฤษณ์ อายุ 47 ปี พลเมืองดี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นตนขับรถออกจากบ้านพักเพื่อที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนสวนกุหลาบบริเวณเลียบทางด่วนทุ่งครุ ขณะเกิดเหตุบริเวณหน้าวัดทุ่งครุ เขตกรุงเทพฯ ตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง มาจากทางด้านหลัง ข้างขวา จึงหันไปดู ก่อนพบรถเก๋งคันดังกล่าวมีผู้หญิง ร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นจึงสังเกตพบว่าที่ข้อมือผู้หญิงถูกมัดด้วยเชือกผ้า ใกล้กันมีผู้ชายนั่งประกบเคียงข้างมาด้วย ตนจึงตะโกนให้รถจักรยานยนต์ที่ตามหลังมา เข้าช่วยจากนั้นตนเองได้บีบแตรรถยนต์ตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลือ กระทั่งมาถึงบริเวณ ใต้ทางด่วนทางแยกไฟแดง ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวและหยุดรถคันดังกล่าวไว้

ขณะบรรยากาศที่ สน.ทุ่งครุ ภายหลังนำตัว 2 ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดี รวมทั้งพา น.ส.ดารณี ที่สภาพถูกเชือกมัดแขนและขา ถูกปิดปากด้วยเทป นั่งอยู่บริเวณเบาะโดยสารด้านหลัง มายังโรงพัก ซึ่งเจ้าตัวยังอยู่ในอาการหวาดผวาร้องไห้   โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยแก้สก็อตเทปที่มัดมือมัดเท้าอยู่ ช่วงนี้ได้ยินเสียงแฟนเก่าของนางสาวดารณี พูดด้วย ทำนองว่า “บอกแม่เขาแล้ว ว่าจะพามาอยู่ที่บ้าน”  ขณะที่ฝ่ายหญิงโต้กลับทันทีว่าไปบอกตอนไหน??

ขณะที่นางสาวดารณี หลังจากให้ปากคำตำรวจเบื้องต้นเสร็จ ก่อนไปตรวจร่างกายที่ รพ. เจ้าตัวบอกกับนักข่าวสั้นๆ เพียงว่า  เจ็บตรงบริเวณข้อมือ ข้อเท้า และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ต่อมานางสาวดารณี เปิดเผยทางโทรศัพท์กับทีมข่าว ภายหลังตรวจร่างกาย ว่า หลังจากตรวจร่างกายมีแค่ฟกช้ำบางส่วนโดยเฉพาะแขนและขาทั้งสองข้าง ขณะเดียวกันมีรอยแผลบริเวณหน้าด้วยเล็กน้อย  ส่วนบริเวณที่ถูกมัดตรงเท้าบวมและช้ำเล็กน้อย

นางสาวดารณี เล่าย้อนเหตุการณ์ว่า ในช่วงบ่ายนายรัฐพงศ์ อายุ 29 ปี (คนขับ แฟนเก่าฝ่ายหญิง) โทรศัพท์มานัดเจอและบอกว่าจะให้อะไรบางอย่างก่อนล่อเราลงไป โดยบอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว ไม่ติดต่อกันอีกแล้วขอคุยแค่แป๊บเดียว ตนจึงเชื่อใจและเดินออกจากหอ ยังไม่ถึงหน้าปากซอยหอพักด้วยซ้ำ ปรากฏว่าถูกฉุดขึ้นรถ และพอผลักขึ้นรถ ตนก็ถูกมัดมือมัดเท้าทันที โดยคนที่มัดคือเพื่อนของแฟนเก่า คือชายใส่เสื้อสีดำ ชื่อ นายปิติภูมิ  

ส่วนเหตุการณ์บนรถ ตนไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรเลย เพราะแฟนเก่าเปิดเสียงเพลงดังมากเพื่อกลบเสียงร้องขอความช่วยเหลือของตน ได้ยินเพียงประโยคที่แฟนเก่าบอกเพื่อนว่า “มัดเลยๆ” หมายถึงว่าแฟนเก่าสั่งให้เพื่อนเป็นคนมัดมือมัดเท้าตนเอง ส่วนแฟนเก่าเป็นคนขับรถ ซึ่งได้ทำการฉุดมาจากแถวๆหอพักย่านประชาอุทิศ 90 แต่พอฉุดขึ้นมาก็ไม่ได้บอกว่าจะพาไปจุดไหน

เมื่อถามว่าส่วนตัวได้มีการพยายามร้องขอชีวิต หรือไม่  นางสาวดารณี กล่าวว่า ทั้งร้องขอชีวิตและร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่โดนฉุดเลย แต่ปรากฏว่าเพื่อนของแฟนเก่าเอาสก็อตเทปปิดปาก พร้อมยืนยันว่า คนที่มัดมือมัดเท้า และปิดปากเป็นเพื่อนของแฟนเก่า

เมื่อถามว่าสิ่งที่แฟนเก่าทำเป็นการพยายามง้อขอคืนดีหรือไม่ นางสาวดารณี บอกว่า ไม่ใช่การง้อ แต่เป็นการบีบบังคับ

นอกจากนี้ เธอยังเล่าถึงความสัมพันธ์กับแฟนเก่าคร่าวๆว่า คบกันมาแล้ว 3 ปี ตอนคบกันไม่เคยมีเหตุการณ์ทำร้ายกันแบบนี้ ส่วนสาเหตุที่เลิกกันบอกได้เพียงแค่ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

นางสาวดารณี ยังกล่าวอีกว่า สภาพจิตใจตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวมาก แย่มาก ยังไม่กล้าออกไปไหนเลย ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอฝากไปยังผู้ก่อเหตุทั้งสองว่าไม่ยอมแน่นอนขอให้รับผลกรรมที่ทำไว้

ส่วนเรื่องทางคดี จากการสอบสวนทราบว่า นายรัฐพงษ์นั่งโดยสารมากับ เพื่อนคือนายปิติภูมิ ส่วน น.ส.ดารณี เป็นแฟนเก่าของนายรัฐพงษ์ โดยหลังจากน.ส.ดาริณีได้บอกเลิกคบกับนายรัฐพงษ์ ทำให้นายรัฐพงษ์เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากฝ่ายหญิงมีแฟนใหม่ จากนั้นนายรัฐพงษ์ได้ทำทีโทรให้ฝ่ายหญิงลงมารับของ บอกว่าจะเอาของไปให้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในซอยจัดสรรตาเบิ่ม 4 ถนนประชาอุทิศ 90 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

พ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก สน.ทุ่งครุ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า  ฝ่ายชายที่เป็นแฟนเก่า ให้การว่าเบื้องต้นอยากพาฝ่ายหญิงไปคุยด้วยเท่านั้น ส่วนเหตุใดถึงมัดมือมัดเท้านั้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ขอให้ได้ เนื่องจากเป็นพฤติการณ์ในสำนวน ส่วนฝ่ายหญิง ยังไม่ได้มีการสอบปากคำเนื่องจากว่ามีอาการบาดเจ็บมีรอยแผลมีอาการฟกช้ำจึงส่งไปตรวจโรงพยาบาลก่อน ค่อยเรียกสอบปากคำที่โรงพักอีกครึ่งหนึ่ง

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันหนวงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และร่วมกันข่มขืนใจ โดยทั้ง 2 คนยอมรับตลอดข้อกล่าวหาในชั้นพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าสาเหตุคาดว่าเกิดจากความหึงหวงของฝ่ายชายที่ถูกฝ่ายหญิงบอกเลิก เนื่องจากฝ่ายหญิงได้คบหากับชายคนใหม่


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Jd6htzSF_10



คุณอาจสนใจ

Related News