เพจ 'กฤษอนงค์' ปิดแล้ว หลังโพสต์แถลง เพื่อนสนิทหอบของเยี่ยม ลั่นเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์เสมอ

เพื่อนสนิท กฤษอนงค์ หอบเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ เข้าเยี่ยม เผยตนคือเพื่อนสนิทผู้ซื่อสัตย์ ไม่ใช่แฟนหรือผู้ถูกจ้างงาน - แอดมินเพจกฤษอนงค์ แถลงจากแม่ของลูก ร้องขออย่าให้ความผิดของตน กลายเป็นภาระหนักอึ้งบนบ่าของลูก ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ล่าสุด เพจกฤษอนงค์ปิดแล้ว


เมื่อวันที่ 17 พ.ย.67 เวลา 12.07 น. มีชายคนหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนสนิทของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ทราบชื่อคือ นายเตียง ได้เดินทางมายังอาคารกองบังคับการปราบปราม เพื่อติดต่อขอเยี่ยม น.ส.กฤษอนงค์ พร้อมนำกาแฟ 2 แก้ว และน้ำเปล่า 2 ขวด มามอบให้ โดยบอกกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ เพียงแค่ว่า "ตนนำกาแฟมาเยี่ยม เพราะพัชกินแต่กาแฟ ไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ"


ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง ชายคนดังกล่าวได้ออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วกลับเข้าไปในห้องควบคุมตัวอีกรอบ ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้งได้ ซึ่งจากที่สังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่หลังจากนั้นจะพบว่ามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้เดินเข้าไปในอาคาร แล้วไปคุยกับชายคนดังกล่าว เป็นเวลาประมาณ 5 นาทีเศษ โดยทั้งคู่พยายามที่จะหลบมุมผู้สื่อข่าวคุยบริเวณหลังฉาก ก่อนจะติดต่อกับตำรวจเพื่อขอเข้าไปในห้องควบคุมตัวอีกครั้ง


กระทั่งเวลา 13.02 น. ชายคนดังกล่าวได้เดินออกมาจากห้องควบคุมตัว โดยพยายามที่จะเดินหนีการพูดคุยกับสื่อมวลชน บรรดาสื่อมวลชนจึงวิ่งเข้าไปสอบถามพูดคุยกับชายคนดังกล่าวถึงการมาเยี่ยม น.ส.กฤษอนงค์ ชายคนดังกล่าวระบุเพียงแค่ว่า "พี่พัชยังโอเคอยู่ครับ" ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อไปว่า เจ๊พัชมีอาการเครียดไหม ชายคนดังกล่าวบอกว่า "เครียดนิดหน่อยครับ" ส่วนประเด็นที่ว่ามีการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการต่อสู้หรือไม่ ชายคนดังกล่าวบอกเพียงแค่ว่า "ไม่ใช่ ตนมาเยี่ยมเฉย ๆ" พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ตนไม่ใช่ทนายความ จึงไม่ทราบเรื่องการต่อสู้และการประกันตัว พี่พัชไม่ได้ฝากข้อความอะไร ตนแค่มาเยี่ยมเท่านั้น ปกติพี่พัชกินแต่กาแฟเลยเอากาแฟมาเยี่ยม ไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ และพี่พัชกินข้าวไม่ได้"


เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าแล้วชายคนดังกล่าวมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ๊พัช ชายคนนั้นบอกเพียงแค่ว่าตนแค่มาเยี่ยมพี่พัชเฉย ๆ และปฏิเสธว่ามีความสัมพันธ์แบบญาติ ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้ถามอีกว่า ในขณะที่จับกุมที่บ้านพัก ชายคนดังกล่าวทราบเรื่องหรือไม่และทำไมชายคนดังกล่าวถึงอยู่ที่บ้านขณะจับกุม ชายคนดังกล่าวบอกเพียงแค่ว่า "ครับ แค่นี้นะครับ" ก่อนจะเดินหนีวงนักข่าวออกไป


ส่วนผู้หญิงคนที่มาเยี่ยมเจ๊พัชในตอนหลังนั้น ปรากฏว่าได้แยกตัวออกไปในขณะที่กำลังถูกสัมภาษณ์ ทั้งนี้ ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวได้เดินออกมานั้น พบว่าได้ถือถุงกล่องข้าว 2 กล่อง ซึ่งเป็นข้าวกล่องที่ทางตำรวจได้สั่งเอาไว้เป็นมื้อเช้าและมื้อเที่ยงกลับออกมาด้วย


ต่อมาเวลา 16.00 น. นายเตียง ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปราม อีกครั้ง เพื่อเยี่ยม น.ส.กฤษอนงค์ ในรอบเย็น โดยในช่วงเย็นนายเตียงได้นำ น้ำ นม ขนมปัง หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัว ซึ่งเป็นความต้องการของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่เป็นคนให้นายเตียงนำสิ่งของเหล่านี้มาส่งให้ พร้อมบอกว่า น.ส.กฤษอนงค์ สภาพร่างกายตอนนี้ใบหน้าซีดเซียว น่าจะนอนไม่หลับ และไม่ยอมรับประทานอาหาร น่าจะเกิดจากความความเครียด ซึ่งความกังวลของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่กังวลมากที่สุดยังคงเป็นลูก จึงไม่อยากให้โยงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของคดีความ รวมถึงคนรอบข้างของ น.ส.กฤษอนงค์ ด้วยเช่นกัน


โดยยืนยันว่าในส่วนของคดีความ ตนเองไม่รับรู้ในส่วนตรงนี้ และ น.ส.กฤษอนงค์ ไม่ได้ฝากข้อความอะไรผ่านตนมา ซึ่งเรื่องของคดีความอยากจะให้เป็นเรื่องของทนายความเป็นหลัก และที่ผ่านมาหลายคนก็สงสัยว่าตัวนายเตียงเป็นใคร เพราะเห็นอยู่กับ น.ส.กฤษอนงค์ ตลอด นายเตียง ชี้แจงว่า ตนเองเป็นเพื่อนสนิทของ น.ส.กฤษอนงค์ เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ยืนยันไม่ได้เป็นแฟนหรือบอดี้การ์ด รวมถึงไม่ใช่คนที่ถูกจ้างงานมา ของ น.ส.กฤษอนงค์ ซึ่งกังวลว่าหลายคนจะเข้าใจผิด จึงอยากจะชี้แจงในประเด็นนี้


นอกจากนี้ นายเตียง ยังเปิดเผยอีกว่า ปกติแล้วตนกับ น.ส.กฤษอนงค์ มักจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด ไปไหนก็มักจะไปด้วยกัน อย่างวันที่ น.ส.กฤษอนงค์ ถูกจับกุมตัว ตนก็ได้ไปเยี่ยมไปหา น.ส.กฤษอนงค์ เป็นปกติ ก็พูดคุยกินข้าวกัน ก่อนที่ชุดจับกุมจะเข้ามาจับกุมตัว น.ส.กฤษอนงค์ ไป


พร้อมฝากไปถึงสื่อมวลชนว่าควรจะนำเสนอข่าวให้เป็นกลาง และนำเสนอข่าวอยู่บนข้อเท็จจริง อยากให้วิเคราะห์ให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องของตนที่ถูกเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก นายเตียง ยังคงยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนกับ น.ส.กฤษอนงค์ เป็นเพียงแค่ "เพื่อนที่ซื่อสัตย์เสมอ" เท่านั้น


ขณะที่ เพจ กฤษอนงค์ เจ๊พัช ทางแอดมินได้โพสต์ข้อความว่า "คำแถลงจากแม่ของลูก.. กฤษอนงค์เชื่อว่า มนุษย์ทุกคนมีโอกาสที่จะพลั้งเผลอหรือทำผิดพลาดได้ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกการกระทำย่อมมีผลตามมา เช่นเดียวกับหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่สอนให้เราเข้าใจในเรื่องกรรมและผลของกรรม


ในฐานะแม่คนหนึ่ง กฤษอนงค์มีหน้าที่ปกป้องลูกจากผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่กระบวนการทางกฎหมายยังไม่ได้ข้อยุติ แต่สิ่งที่รู้สึกเจ็บปวดที่สุด คือการที่การชี้แจงความจริงกลับกลายเป็นเหมือนการถูกลากออกไปประหารกลางสี่แยกทางความคิดของสังคม


กฤษอนงค์พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกสิ่งที่ควรรับ แต่ขอร้องให้ความผิดพลาดของกฤษอนงค์ไม่ถูกนำไปเป็นภาระให้ลูกที่ต้องเผชิญ เด็ก2คนสมควรได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตอย่างปกติ ไปโรงเรียนโดยไม่ต้องเผชิญกับสายตากล่าวโทษหรือความอับอายจากการกระทำของผู้เป็นแม่


กฤษอนงค์ไม่ปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้น แต่ขอร้องให้ทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรม ให้ศาลท่านเป็นผู้ตัดสินอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่สื่อหรือความเห็นของสังคมที่ตัดสินล่วงหน้า เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อลูกและครอบครัว


กฤษอนงค์ยินดีที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำ และขอร้องให้ทุกท่านหยุดการสร้างบาดแผลต่อครอบครัวของกฤษอนงค์ผ่านการวิพากษ์วิจารณ์โดยปราศจากข้อเท็จจริง นำคลิปที่ท่านมีทั้งร้อยคลิป พันคลิปก็ตาม ให้กระบวนการยุติธรรม ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์


ในฐานะแม่ กฤษอนงค์ขอร้องให้ลูกได้รับโอกาสที่จะเติบโตในสังคมที่ยังให้ความเมตตา กรุณาอย่าให้ความผิดของแม่ต้องกลายเป็นภาระหนักอึ้งบนบ่าของเด็กบริสุทธิ์ 2 คน ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในเรื่องนี้ ด้วยความเคารพในสิทธิและความเป็นธรรม"


ก่อนทิ้งท้ายข้อความว่า .Admin ซึ่งหมายถึงแอดมินเป็นผู้โพสต์ พร้อมข้อความระบุว่า "เพจฯนี้จะปิดอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ 18 พฤศจิกายน 2567"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/NexUF6hdk6w