สังคม

อ้างทะเลาะกับแฟน ‘เทสลา’ หัวร้อนปาดบนทางด่วน เผยยืมรถเขามาขับ เครียดเข้า รพ.หลังเป็นข่าว

โดย nattachat_c

18 พ.ย. 2567

553 views

เจอแล้ว ! เทสล่าขาวหัวร้อน เจ้าของรถเผยสาเหตุปาดบนทางด่วน อ้างทะเลาะกับแฟนที่นั่งมาด้วย จึงขับแซงเบรกกะทันหันเพื่อประชด ไม่ได้มีปัญหากับคู่กรณี ยันไม่ได้ดื่มสุรา หรือมีอาการมึนเมา เครียดกระแสโจมตีจนเข้า รพ. ส่วนตัวรถ ได้ยืมมาจากคนที่ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองด้วยกันมาขับ ฝากขอโทษ จะไม่ทำอีก


จากกรณี เพจ ควายหลุดถนน V1 ได้เผยแพร่คลิปที่บันทึกได้จากกล้องหน้ารถ เป็นเหตุการณ์รถไฟฟ้ายี่ห้อเทสล่า สีขาว ขับรถด้วยความเร็ว และอันตราย จากการที่อยู่เลนซ้ายสุด และพยายามปาดเข้าเลนขวาอย่างกะทันหัน แต่รถทางขวาไม่ยินยอม หลังจากนั้น มีการแซงขึ้นมาอยู่ด้านหน้าก่อนเบรกกะทันหันหลายครั้ง ถอยหน้า ถอยหลัง จอดแช่อยู่นาน เพื่อเป็นการยั่วยุ


ต่อมา งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน 2 กก.2 บก.จร. ได้ตรวจสอบพบเหตุการณ์เกิดขึ้นบนทางพิเศษศรีรัช บริเวณทางร่วมก่อนทางลงพหลโยธิน 1 (ต่างระดับมักกะสัน) เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 เวลาประมาณ 21.35 น. ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย


โดยได้เรียกผู้โพสต์คลิป, ผู้ครอบครองรถ (ประกอบธุรกิจ เต็นท์รถมือสอง) เข้าให้ปากคำแล้ว ซึ่งได้นำเอกสารมาแสดงตัวตั้งแต่วันเกิดเหตุ ส่วนคนขับรถ เป็นคนละคนกับเจ้าของรถ


พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 (สน.ทางด่วน 2) เผยว่า พนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์ประสานไปยังคนขับรถยี่ห้อเทสล่า สีขาว ขณะเกิดเหตุแล้ว สอบถามเบื้องต้น เจ้าตัวยังไม่ได้ระบุถึงสาเหตุ โดยเจ้าตัวระบุว่า เป็นผู้ร่วมทำธุรกิจกับผู้ครอบครองรถเทสล่าคันดังกล่าว และยอมรับว่า เป็นคนขับรถขณะเกิดเหตุจริง


ด้าน พ.ต.ท.กฤษณ์ธนา จันเทศ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน 2 เผยว่า รถคันเทสล่าต้องยึดเป็นของกลางในคดีไว้ก่อน เนื่องจากเป็นรถที่ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งตำรวจได้ประสานไปตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว โดยคนขับรถแจ้งว่า จะนำรถมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ได้สอบปากคำคนขับรถเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดการสอบสวน หรือคำให้การ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน จากนี้ ก็จะดำเนินคดีกับคนขับรถตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43(6) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ต่อไป


พ.ต.ท.ทศพร กลีบแก้ว รอง ผกก.2 บก.จร. ในฐานะรองโฆษก กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมสอบถามข้อมูลจากทางทนายความ เปิดเผยว่า ทางเจ้าของรถมอบหมายทนายนำรถดังกล่าวมอบให้ตำรวจตรวจสอบ เนื่องจากรถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยที่อาจใช้ในการกระทำความผิดปรากฎในคลิปตามภาพ ส่วนการดำเนินคดีจะเป็นในส่วนของพนักงานสอบสวนดำเนินการ สอบถามเบื้องต้น คนขัยรถกล่าวว่าเครียดเรื่องแฟนบอกทางในรถ ทั้งนี้ ทางทนายจะติดต่อนัดคู่กรณีเข้ามาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง


วานนี้ (17 พ.ย. 67) เวลา 15.00 น. ทนายความของเจ้าของรถเทสล่า สีขาว และเป็นทนายความคนขับรถเทสล่า ได้นำมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 เพื่อเป็นของกลางในคดี โดยให้ญาติเจ้าของรถเป็นคนขับมาจอดอยู่นอกรั้ว สน.ทางด่วน 2 เพื่อหลบเลี่ยงสื่อ ก่อนที่ทนายจะนำเอกสารเข้าไปคุยกับพนักงานสอบสวน และส่งมอบรถ ส่วนเจ้าของรถ และคนขับรถ ไม่ได้มาด้วย


ทนายความ กล่าวว่า ทางเจ้าของรถรู้สึกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากนัดคู่กรณีเข้ามาเพื่อขอโทษ โดยวันนี้ มอบหมายทนายมาเพื่อเข้าพบ ในส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุนั้น เนื่องจากทะเลาะกับคนในรถ บอกทางไม่เคลียร์ ประกอบกับคู่กรณีมาจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว “ยืนยันไม่ได้ดื่มสุรา หรือมีอาการมึนเมา แต่เจ้าของมีอาการเครียดมาก ถึงขั้นมีบุคคลภายนอกไปตามแฮ็กเฟซบุ๊กของเขา ขอให้ว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย”


คืบหน้า วานนี้ (17 พ.ย. 67) ทีมข่าวได้คุยกับคนขับรถเทสล่า วันเกิดเหตุ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า รู้สึกผิดมาก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียใจมาก สาเหตุที่มีเหตุการณ์ในคลิปเนื่องจากตนขับรถมาตามเส้นทางปกติ และมีปากเสียงกับแฟน ซึ่งนั่งมาในรถด้วยกัน ทำให้มีอารมณ์ชั่ววูบ ขณะนั้น รถคู่กรณีบีบแตรใส่ ซึ่งตนมีอารมณ์อยู่แล้วจึงประชดแฟน ท้าทายแฟนว่าจะให้รถชนเลยมั้ย ด้วยการขับรถตามคลิปที่ปรากฏ ยืนยันไม่ได้โกรธ หรือแค้นคู่กรณี (เจ้าของกล้องหน้ารถ)


ส่วนรถเทสล่า สีขาว ที่นำมาขับไม่ใช่รถของตน แต่เป็นของคู่ค้าหรือคนที่ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองด้วยกัน ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถ ตนขอยืมมาใช้ หลังจากเกิดเหตุตนไม่เคยดูคลิปที่แชร์ตามเน็ตจนจบ เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่ตนเองทำ ผลกระทบทำให้ธุรกิจเสียหาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงทางสังคมไปหมดแล้ว ทำให้ตนตระหนักว่าไม่ควรทำในสิ่งนั้นอีก


หลังเกิดเหตุตนได้เข้าให้การกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ยินดีน้อมรับทุกข้อกล่าวหา เพราะทำผิดจริง ๆ ทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ที่ผ่านมาไม่เคยขับรถหัวร้อนแบบนี้


ยอมรับว่า มีอาการเครียดจนกินอะไรไม่ได้ หมดแรง ไม่ได้นอน มีคนเอาเบอร์จากหน้าเพจ โทรมาด่าพ่อล่อแม่ ด่าครอบครัว จนตนเองต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ตนก็น้อมรับ


ตนเองควรจะมีสติมากกว่านี้ อยากจะขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคู่กรณีด้วย มันแย่มาก


ส่วนเจ้าของรถ หลังทราบเรื่องก็ตำหนิตน ไม่พอใจกับสิ่งที่ตนทำ อย่างไรก็ตามตนอยากนำรถไปส่งมอบให้กับตำรวจด้วยตนเอง แต่ไปไม่ไหวจริง ๆ เพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาล


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EfQlaVxuDL8


คุณอาจสนใจ