"อี้ แทนคุณ" แจ้งความ "ทนายธรรมราช" ไลฟ์บิดเบือนมติมหาเถรฯ

เมื่อเวลา 12.40 อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับทนายธรรมราช สาระปัญญา ดำเนินคดีตามข้อหาใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์



โดย อี้ แทนคุณ กล่าวว่า ตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับทนายธรรมราชใน 2 กรณีกับพนักงานสอบสวน บก.ปอท. กรณีแรกเป็นเรื่องที่ทนายธรรมราชให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลายครั้ง อ้างว่า มติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในเรื่องที่ระบุว่าหลักคำสอนเชื่อมจิตไม่มีในพระไตรปิฎกนั้น เป็นเพียงแค่ความเห็นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้ง ๆ ที่มติดังกล่าวได้รับการพิจารณาจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งคณะกรรมการมหเถรสมาคมแล้ว จึงมีสถานะเทียบเท่ากับกฎหมายของสงฆ์ การที่ทนายธรรมราช ออกมาบอกว่าเป็นเพียงแค่ความเห็น จึงเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์



กรณีที่ 2 เป็นกรณีที่ทนายธรรมราชโพสต์รูปภาพที่ส่อไปในทางล้อเลียนศาสนาอิสลาม รวมทั้งโพสต์ข้อมูลทำนองว่า หากมีศาสนสถานเกี่ยวกับศาสนาดังกล่าวที่ไหน ก็จะก่อให้เกิดความขัดแย้งเช่นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมองว่าเรื่องดังกล่าวนั้นก่อให้เกิดความแตกแยกทางศาสนาและทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม จึงถือเป็นการนำเข้าข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งตนมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการที่จะกล่าวหาและพาดพิงศาสนาอื่น เพราะเนื่องจากประเทศไทยนั้นทุกศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่พฤติกรรมของทนายคนดังกล่าวนั้นก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม โดยในสัปดาห์หน้าจะมีตัวแทนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดทนายธรรมราชด้วย



อี้ แทนคุณ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้ตั้งทีมทนายความมากกว่า 7 สาย ในการเป็นวอลรูมเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของทนายคนดังกล่าว หากพบพฤติกรรมไหนที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและผิดกฎหมาย ก็จะแจ้งความดำเนินคดีทันที รวมทั้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งหนังสือไปยังรัฐสภา เพื่อเร่งรัดให้สภาทนายความ ดำเนินการตรวจสอบและถอดถอนทนายธรรมราชจากการเป็นทนายความ ด้วยพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม และเรียกร้องให้สภาทนายความ ทำงานด้วยความรวดเร็วกับเป็นธรรม ไม่ใช่นำข้อเท็จจริง ที่ถูกร้องเรียนไปมอบให้ทนายฝ่ายตรงข้าม เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการแจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาท จะอ้างว่าเพื่อให้ทนายคนดังกล่าวได้รับฟังข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ ซึ่งมองว่าไม่เป็นประโยชน์



ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีที่ทนายธรรมราชเตรียมแจ้งความกลับตนในกรณีที่พาดพิงเรื่องยักยอกทรัพย์ลูกความนั้น อี้ แทนคุณเปิดเผยว่า ยินดีให้ทนายธรรมราช แจ้งความดำเนินคดีกลับ แต่ตนยืนยันว่า มีผู้เสียหายในเรื่องนี้ โดยผู้เสียหายรายนี้ถูกทนายคนดังกล่าวยืมรถไปใช้และค้างชำระหนี้ จนถูกไฟแนนซ์มายึดบ้านได้รับความเสียหาย



ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามต่อไปว่า แล้วในกรณีที่ทนายธรรมราชถูกทำร้ายร่างกายมีความคิดเห็นเช่นไร อี้ แทนคุณ มองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการใช้ความรุนแรงซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม แต่มองว่ายังคงมีเรื่องของปัญหาความรุนแรงทางระบบที่ล่าช้าต่อการตรวจสอบทนายธรรมราช ทำให้เกิดปัญหาสังคมซ้ำซากตามมา พร้อมทั้งยังระบุอีกว่า การที่พวกตนนำเรื่องราวต่าง ๆ มาแจ้งความแทนผู้เสียหายไม่ใช่มีเรื่องของวัตถุประสงค์แฝง แต่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ต้องตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลที่กระทำการผิดกฎหมายหรือก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมที่ต้องเอาผิดและดำเนินคดี เป็นบรรทัดฐาน พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายว่า "ถ้าใจร้อน นอนที่แคบ แต่ถ้าปากแซ่บ นอนกองพื้น"