สังคม

'ชัยชนะ' เดือด! ลูกสาวถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็น DSI รีดเงินสูญ 6.5 แสน

โดย nattachat_c

31 ต.ค. 2567

17 views

กระตุกหนวดเสือ! ลูกสาวชัยชนะ' ปธ.กมธ.ตำรวจ ถูกหลอก วิดิโอคอลอ้างเป็นดีเอสไอ รีดเงินสูญ 6 แสน ประณามพฤติกรรมเลวทราม จี้ ผบ.ตร-นายกฯ แก้ปัญหา คอลเซ็นเตอร์ด่วน


วานนี้ (30 ต.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บุตรสาวคนโตของตนที่กำลังศึกษาอยู่ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รีดเงินกว่า 600,000 บาท ว่า มีบุคคลที่แอบอ้างชื่อร้อยตำรวจเอกอดิศักดิ์ สอนบัว ว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทรศัพท์มาที่บุตรสาว แจ้งว่ามีคดีความ และอย่านำเรื่องนี้ ไปบอกพ่อแม่หรือญาติพี่น้อง และบอกว่ามีหนทางในการช่วยเหลือโดยให้โอนเงินเพื่อช่วยเหลือคดี และให้พูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์


โดยบุตรสาวได้โอนเงินครั้งแรก 56,000 บาทในเวลาประมาณ 08:00 น หลังจากนั้นก็มีการเปิดวิดีโอคอลพูดคุย อีกฝ่ายใส่ชุดเป็นตำรวจ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีการบอกถึงคดีความว่าเป็นอย่างไร


หลังจากนั้น ก็ได้ให้โอนเงินครั้งที่ 2 บุตรสาวก็ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกกับตนว่าต้องจ่ายค่าเทอม ซึ่งตนได้ให้บุตรสาวส่งใบเสร็จการจ่ายค่าเทอมมา เพราะความจริงจะต้องจ่ายเดือนมกราคม แต่เนื่องจากบุตรสาวเป็นคนตั้งใจเรียน และไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีในด้านการเงิน ตนก็ได้โอนเงินชำระค่าเทอมผ่านไปยังบุตรสาว


หลังจากนั้น บุตรสาวก็ได้โอนเงินต่อไปไปให้เก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านบัญชีม้า 100,000 บาท 2 ครั้ง ครั้งละแสนรวม 200,000 บาท หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินไปแล้ว 3 ครั้ง ก็ได้กล่อมให้บุตรสาวกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปหาเงิน ไม่เช่นนั้นจะทำให้คุณพ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะแบล็คเมลรูปที่วิดีโอคอลกันไว้ บุตรสาวจึงได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเอาเงินที่คุณยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 650,000 บาท


ทั้งนี้ การกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทำต่อเด็ก และเป็นบุตรของบุคคลสาธารณะในสังคม และใช้วาทะในการข่มขู่นักศึกษาเหล่านี้ ว่าถ้าไม่กระทำตามคุณพ่อคุณแม่จะเสียชื่อเสียงและจะนำรูปที่มีส่งให้มหาวิทยาลัย ทำให้เด็กเกิดความกลัว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น บุตรสาว ก็ได้โทรมาหาตนเอง และเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ได้ให้บุตรสาวแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช


นายชัยชนะ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย ซึ่งจริง ๆ แล้ว วันนี้รัฐบาล หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปรับตามเรื่องเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ตนยังมีความโชคดีอยู่ว่าเขาไม่มาหลอกนำพาบุตรสาวของตนไปดำเนินคดีแล้วมีการกักขังไว้เหมือนที่คนอื่นโดน เพราะปัจจุบันก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่ ต้องยอมรับว่าเด็กหลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ถึงกระบวนการการกระทำแบบนี้ ก็จะโดนหลอกลวงแบบนี้อยู่บ่อย ๆ


พร้อมกันนี้ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายชัยชนะได้เปิดหลักฐานการพูดคุยระหว่างบุตรสาวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผ่านแออพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีเนื้อหาการรายงานความเคลื่อนไหวของบุตรสาวอยู่ตลอดและมีการข่มขู่ ตนยังมีความโชคดีที่บุตรสาวตัดสินใจบอกตนเองและแจ้งความดำเนินคดี


ทั้งนี้ เรื่องเหล่านี้ถ้าเราไม่จริงจังในการแก้ไข ตนไม่ทราบว่าคนไทยจะต้องสังเวยกับเรื่องแบบนี้ อีกนับเท่าไหร่ และบัญชีม้าทั้ง 3 บัญชี บุตรสาวได้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อเช็กเส้นทางทางการเงินว่า หลังจากโอนเข้าแล้วเส้นทางการเงินนี้ไปที่ไหน ซึ่งบัญชีม้าเหล่านี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะรับเงินกว่า 600,000 บาท เห็นแค่ค่าจ้างหมื่นสองหมื่น ดังนั้น ต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ถึงตัวการใหญ่ให้ได้ แล้วเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาโทรกลับก็ไม่ติด ส่วนห้องไลน์เมื่อบุตรสาว ดึงตนเองเข้าไปในกลุ่มผู้ที่แอบอ้างเป็น DSI ก็ได้ออกจากไลน์ไปทันที และติดต่อไม่ได้อีกเลย


ผมขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่เร่งรัดปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสตช.ต้องมีนโยบายปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะไม่ใช่แค่ลูกสาวตนคนเดียวที่ถูกกระทำ เหยื่อทุกคน ก็ต้องได้รับความเป็นธรรมในคดีเหล่านี้ ผมในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรก็จะนำเรื่องนี้ เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเพราะที่ผ่านมาตนก็ยังพิจารณาเรื่องแบบนี้อยู่มาก สุดท้ายไม่คิดว่าสิ่งที่เราดำเนินการช่วยเหลือสังคมอยู่และปราบปรามอยู่วันนี้จะมาเกิดขึ้นกับลูกสาวของตน เพราะกระทบกระทั่งจิตใจลูกสาวร้องไห้ หลังจากนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลสภาพจิตใจ


และผมขอประณามพฤติกรรมคนเหล่านี้ว่าเลวทรามมาก ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ มีคดีจริงๆ หากท่านมีคดีจริงๆ ขอให้ไปที่โรงพักสถานีตำรวจหรือหน่วยงานราชการอย่าไปหลงเชื่อกับคำพูดทางโทรศัพท์อย่าโอนเงินให้เขา เพราะข้อเท็จจริงไม่มีแบบนี้แน่นอน รวมถึงการลงทุนก็ขออย่าไปหลงเชื่ออย่าไปเกิดความโลภ ขอวิงวอนประชาชนเรื่องเหล่านี้อย่าหลงเชื่อ" นายชัยชนะกล่าว


ส่วนแนวทางการแก้ไขตนแนะนำว่า กสทช. จะต้องตัดเบอร์ทั้งหมด ที่ไม่ได้ลงทะเบียนซิมบ๊อก และต้องกำหนดว่าต่างด้าวสามารถใช้ได้คนละไม่เกินกี่เบอร์ รวมถึงบุคคลที่มีเงินเข้าเกินต้องไปตรวจสอบภาษีดูว่า มีการลงทะเบียนธุรกิจหรือมีรายได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องอายัดบัญชีเหล่านี้ ถ้าไม่เริ่มตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก็ปราบปรามไม่ได้ รวมถึงกลุ่มคนจีนทั้งหลายที่กระทำเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่มีคนไทยร่วมด้วยตนบอกไว้เลยว่าควรหยุดพฤติกรรมหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ ฆ่าเพื่อนมนุษย์ เป็นบาปเป็นกำสิ่งที่คุณสร้างไว้มันหนีไม่พ้น อาจจะมีความสุขในวันนี้แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัว ญาติของคุณจะรู้สึกอย่างไร


ส่วนนอกจากพฤติการณ์หลอกโอนเงินยังมีพฤติการณ์อื่นอีกหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่กลุ่มนี้ก็ทำคือแก๊งคลอเซ็นเตอร์คุยกับบุตรสาวของตนและขู่นำภาพที่คุยไปเผยแพร่ซึ่งถ้า มีภาพเหล่านี้เผยแพร่ออกไป ตนก็จะแจ้งความกับผู้ที่แชร์ภาพและเผยแพร่และเผยแพร่


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/bJREbjzcc3Y


คุณอาจสนใจ

Related News