สังคม

สลดรับเปิดเทอม รถบรรทุกดินเสยท้ายรถสองแถวนักเรียน เด็กดับ 2 สาหัส 1

โดย passamon_a

31 ต.ค. 2567

134 views

รถบรรทุกดินเสยท้ายรถสองแถวนักเรียน ดับ 2 สาหัส 1 ญาติทำพิธีเชิญวิญญาณ ชาวบ้านเผยเป็นจุดอันตรายแต่ไม่มีไฟแดง วงจรปิด 3 ตัว แต่ใช้การไม่ได้ทั้งหมด


เมื่อช่วงเย็น วันที่ 29 ต.ค.67 เกิดอุบัติเหตุรถสองแถวรับส่งนักเรียน ที่กำลังเลี้ยวขวาเข้าถนนสายรอง ถูกรถบรรทุกดินที่วิ่งมาในทางตรงพุ่งชนท้าย จนนักเรียนที่ยืนอยู่ท้ายรถกระเด็นตกจากรถ 3 คน ทำให้ ด.ญ.สุนิศา อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 และนางสาวศรัญรัตน์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนักเรียนชายชั้น ม.6 อีกคน บาดเจ็บสาหัส ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ โดยเหตุเกิดบริเวณถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ทางแยกเข้าสวนนก ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์


ซึ่ง นายเมธี อายุ 30 ปี คนขับรถบรรทุกดิน อ้างว่า ตนเองมาทางตรง จึงไม่ใช่ฝ่ายผิด ส่วน นายเหลือ อายุ 77 ปี คนขับรถสองแถวรับส่งนักเรียน อ้างว่า ขับรถพ้นทางแล้ว แต่รถบรรทุกดินมาชนท้าย และปรากฏว่า หลังจากเกิดเหตุ นายเหลือขับรถคันเกิดเหตุไปที่อู่ซ่อมรถ หวังจะซ่อมลบหลักฐาน และไม่ยอมไปพบเจ้าหน้าที่


เมื่อวันที่ 30 ต.ค.67 นางสาวศรัญญา อายุ 32 ปี แม่ของนักเรียนหญิง วัย 16 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต เล่าว่า โรงเรียนเพิ่งจะเปิดเทอมได้แค่ 2 วัน ก็มาเกิดอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่ครอบครัวติดใจสงสัยคือ นายเหลือ คนขับรถสองแถว ที่ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ทั้งที่ตนกับนายเหลือ รู้จักกันมานานตั้งแต่ตนยังเล็กและบ้านอยู่ไม่ห่างกัน ทำให้ครอบครัวกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ได้รับการเยียวยา  


ส่วน นางสาวประครอง แม่ของนักเรียนหญิง วัย 13 ปี ที่เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนแม่เห็นภาพลูกสาวนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างถนน แม่รับไม่ได้ น้องเคยบอกแม่ว่าอยากเป็นครู แม่ก็พยายามทำงานเก็บออมเงิน เพื่อจะส่งเสียให้น้องได้เรียนครูตามที่น้องฝันไว้ แต่ไม่คิดเลยว่าน้องจะมาจากไปเร็วแบบนี้ หลังเกิดเหตุไม่มีใครมาสอบถามเยียวยาเลย ทั้งฝ่ายรถบรรทุกและรถสองแถว แถมคนขับรถสองแถวก็หายตัว ติดต่อไม่ได้อีก  


เดิมนายเหลือขับรถสองแถวรับส่งผู้โดยสาร แต่ระยะหลังหันมารับส่งนักเรียนแทน ในแต่ละวันจะมีนักเรียนขึ้นรถของนายเหลือ 20-30 คน ผู้ปกครองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ตนอยากฝากถึงผู้ที่ขับรถรับส่งนักเรียน ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง เด็ก ๆ ยังมีอนาคตสดใส อย่าให้เกิดความสูญเสียแบบนี้อีกเลย


ต่อมา ช่วงบ่าย วันที่ 30 ต.ค.67 ญาตินิมนต์พระไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณในจุดเกิดเหตุ โดยมีเพื่อนนักเรียนมาร่วมพิธี ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตต่างถามหาความรับผิดชอบของคนขับรถทั้ง 2 คัน ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายผิดกันแน่


ล่าสุด นายเหลือ คนขับรถสองแถวรับส่งนักเรียน ออกมาเปิดเผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เพราะรถบรรทุกดินไม่ยอมชะลอความเร็ว โดยก่อนถึงแยก ตนเปิดไฟเลี้ยวตามระยะที่กฎหมายกำหนดแล้ว และยังเปิดไฟหน้าใส่รถสิบล้อให้ชะลอความเร็ว แต่รถสิบล้อกลับไม่สนใจ ไม่ยอมเบาคันเร่ง และพุ่งชนท้ายรถของตน


นายเหลือ อ้างว่า ตนเองขับรถมานานกว่า 30 ปี รู้ระยะห่าง รู้ความเร็วของรถดี ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ไปพบตำรวจและยังไม่ไปพบญาติผู้เสียชีวิต เพราะกำลังยุ่ง ยอมรับว่าเอารถไปจอดอู่จริง เพื่อเตรียมซ่อม


ด้าน นายเดชา อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.สะแกซำ กล่าวว่า บริเวณที่เกิดเหตุ มีอุบัติเหตุเป็นประจำ เพราะเป็นทาง 2 เลน เป็นบริเวณโค้ง และจุดนี้ไม่มีสัญญาณไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง


พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ เรียกนายเหลือ คนขับรถสองแถวมาสอบสวน โดยนายเหลือยอมรับว่าเอารถไปเข้าอู่จริง แต่ยังยืนยันว่าตนไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด เพราะรถสิบล้อไม่ชะลอความเร็ว ทั้งที่รู้ว่าตนเลี้ยวเข้าไปจนจะมิดคันอยู่แล้ว


หลังให้ปากคำ นายเหลือให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง บอกว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตั้งใจขับรถดีมาโดยตลอด หลังจากนี้จะไม่ขอขับรถอีก เพราะลูกหลานมาขอร้องให้หยุด เนื่องจากตนอายุมากแล้ว


ส่วนญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า บริเวณสี่แยกจุดที่เกิดเหตุนี้ เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาแก้ไข นอกจากสี่แยกจุดนี้จะเป็นมุมอับแล้ว ยังไม่มีสัญญาณไฟ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่ติดไว้จำนวน 3 ตัว ใช้การไม่ได้ทั้งหมด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาให้โดยเร็ว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/RZ0sBbzD9K4

คุณอาจสนใจ

Related News