สังคม
'ทนายบอสพอล' ยันมีหลักฐานโอนเงิน 10 ล้าน นักร้องสาว ก. - 'กฤษอนงค์' ปัดรีดทรัพย์ ลั่น! ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟ
โดย nattachat_c
22 ต.ค. 2567
218 views
ทนายความ ‘บอสพอล’ เปิดอักษรย่อนักร้องสาว ก. มือตบทรัพย์ เผยจ่าย 10 ล้านหนึ่งก้อน ก่อนขอเพิ่มอีก 4 แสนเป็นค่าเอกสาร แลกไม่แจ้งความ ปคบ. เข้าข่ายธุรกิจขายตรง ด้าน ‘กฤษอนงค์’ ปัดรีดทรัพย์บอสพอล 10 ล้านบาท คาดเป็นการคุยที่ตนเองเป็นคนกลางประสานให้ผู้เสียหาย 89 คน จนเกิดการพูดคุยโทรศัพท์ จบที่เจรจาไกล่เกลี่ย 8 ล้านกว่า ยันโอนตรงเข้าผู้เสียหายและกองทุน ไม่ใช่ตนเอง แจงส่วนแบ่ง 20% ผู้เสียหายให้เอง
วานนี้ (21 ต.ค. 67) เข้าสู่วันที่ 11 แล้ว ที่ บก.ปคบ. รับแจ้งความจากผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป โดยนับตั้งแต่วันที่ 10 - 21 ตุลาคม 2567 เฉพาะที่ บก.ปคบ. สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 2,963 ราย มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 983 ล้านบาท ส่วนมูลค่าความเสียหายของกลุ่มเหยื่อที่ลงทุนกับ ดิ ไอคอน กรุ๊ป ทั่วประเทศ ตอนนี้ มูลค่าความเสียหายพุ่งไปกว่า 1,615 ล้านบาทแล้ว
ขณะที่ ทรัพย์สินที่ตำรวจสอบสวนกลางอายัดไว้จากบอสทั้ง 18 คน มูลค่าประมาณ 225 ล้านบาท ได้แก่
- รถยนต์ 30 คัน
- บ้านและที่ดิน 3 แปลง
- เงินสด 7,524,000 บาท
- ทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ เช่น นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนเนม 151 รายการ ปืน 2 กระบอก
ล่าสุด ปปง. มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบทรัพย์สินของ 18 บอส ดิ ไอคอน กรุ๊ป ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แล้ว
ต่อมา วานนี้ (21 ต.ค. 67) เวลา 16: 50 น. ตำรวจ ปคบ. สามารถอายัดรถหรูของ 'บอสพอล' เพิ่มอีก 1 คันเป็นรถ รุ่น LAMBORGHINI HURACAN EVO สีเขียว มูลค่า 22 ล้านบาท นำเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แล้วถ้าหากรวมรถคันล่าสุดตำรวจสามารถอายัดรถบอสพอลได้ทั้งหมด 9 คัน และรถของกลางในคดีดิไอคอน รวมทั้งหมดจะมี 30 คัน
ซึ่ง LAMBORGHINI HURACAN EVO หายไป หลังจาก 'บอสพอล' ถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งตำรวจตามหามานานหลายวันแล้ว ต่อมา ตำรวจได้รับการติดต่อจากญาติว่า พบรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนลาดพร้าว-วังหิน หน้าบริเวณวัดลาดพร้าว
ต่อมา ทีมทนายความของบอสพอล ได้เดินทางเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองได้รับการประสานมาจากทางญาติของบอสพอล ยืนยันว่าไ ม่รู้ว่าบุคคลที่ประสานมานั้นเป็นใคร ซึ่งตนเองอยู่บริเวณใกล้ที่สุด เพราะว่าความอยู่ที่บริเวณศาลอาญารัชดา จึงได้เดินทางมาเพื่อนำทรัพย์สินมาส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนเองไม่ทราบว่า มีการไปจอดรถทิ้งไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปเอารถมา ส่วนมูลค่ารถนั้น ตนเองไม่ทราบว่ามีราคาเท่าไหร่ มีหน้าที่แค่เพียงมาเป็นพยาน และส่งมอบรถคืนเท่านั้น ในฐานะทีมทนายความของ 'บอสพอล'
ทั้งนี้ ในวันนี้ (22 ต.ค. 67) ผู้ต้องหาหญิง ซึ่งก็คือ 'บอสผู้หญิง' 7 คน จะสามารถออกมาเยี่ยมญาติได้ เนื่องจากครบ 5 วัน ในการกักตัวโควิด ส่วน 'บอสผู้ชาย' 11 คน ซึ่ง 'บอสพอล' เข้าเรือนจำช้าไป 1 วัน และ 'บอสผู้ชาย' 10 คน ยินดีที่จะกักตัวพร้อมกัน จึงทำให้การเยี่ยมญาติจะช้ากว่า 'บอสผู้หญิง' 1 วัน
ทั้งนี้ วานนี้ (21 ต.ค. 67) ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ 'บอสพอล' นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้บริหาร บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีดิไอคอน ยังไม่มีโอกาสได้เยี่ยมบอสพอลเนื่องด้วยติดปัญหาทางเอกสาร
ซึ่งขณะนี้ ทนายความของทุกผู้ต้องหารวมทั้งบอสดารา ผนึกรวมเป็นทีมเดียวกันแล้ว เพื่อจะได้ประสานข้อมูลทางคดีแต่หลัก ๆ
ทั้งนี้ ตอนนี้ ทนายวิฑูรย์เป็นทนายให้ 10 บอส คือ
- บอสพอล
- บอสปัน
- บอสหมอเอก
- บอสโซดา
- บอสโอม
- บอสแม่หญิง
- บอสสวย
- บอสป็อป
- บอสวิน
- บอสปีเตอร์ (มีทนายความทำอยู่ แต่ญาติอยากให้ทางตนดูร่วมด้วย)
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ได้กล่าวถึงการที่ ปปง. เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงิน ว่า คดีนี้ ข้อหาหลักคือฉ้อโกงประชาชน ถ้าหลุดจากข้อหานี้ได้ ก็จะหลุดจากข้อหาฟอกเงินด้วย ขอยังไม่เปิดแยงทางการต่อสู้ ส่วนเรื่องการยื่นประกัน ยังไม่ยื่น เพราะบรรยากาศยังไม่ดี ยื่นไปก็โดนถอนอยู่ดี
ตอนนี้ อยากให้ผู้เสียหายออกมาเยอะ ๆ มาแบบทีเดียวจะได้ส่งฟ้องคดีเดียว แต่ถ้าทยอยออกมา จะต้องมีสำนวนอีกคดี ซึ่งไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
ทั้งนี้ ทนายวิฑูรย์ ได้กล่าวว่า จุดประสงค์ที่ตนเองตั้งใจเข้าไปพบบอสพอล เพื่อหารือเรื่องงานของบริษัทและคดีความ แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ ในส่วนของบอสพอล ได้ฝากให้ทนายความของบอสปีเตอร์-นายกลด เศรษฐนันท์ เป็นธุระแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างตนกับบอสพอล ซึ่งขณะนี้ทนายความของทุกผู้ต้องหารวมทั้งบอสดาราผนึกรวมเป็นทีมเดียวกันแล้วเพื่อจะได้ประสานข้อมูลทางคดี
นอกจากแนวทางต่อสู้ทางคดีทีมทนายจะช่วยกันพิจารณาสภาพจิตใจของลูกความตนเองว่าเป็นอย่างไร อยู่กันได้หรือไม่ ส่วนของบอสพอลยังแข็งแรงดี พูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มตามปกติไม่น่ากังวล แต่บอสวิน น่าเป็นห่วงที่สุดในกลุ่ม เพราะป่วยเป็นโรคมะเร็ง ต้องได้รับการรักษา ทนายจึงต้องหาทางขอประกันตัวออกมาให้ได้ก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่ ระหว่างนี้ หาก สคบ.เพิกถอนใบอนุญาติบริษัทจะเป็นอะไรหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ บอกว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา บอสพอลยังให้การ สคบ. ไม่จบ แต่ทาง ตร.ปคบ. เข้ามาจับเสียก่อน ซึ่งตรงนี้ ยังต้องให้การเพิ่ม
ทั้งนี้ ถ้าหากยกเลิกใบอนุญาตตลาดตรงของบริษัทฯ ตนฟ้องแน่นอน เพราะตามกฎหมาย บอสพอลยังให้การไม่จบ โดยทางบริษัทต้องให้ปากคำจนเสร็จสิ้นก่อนถึงเริ่มจะพิจารณาเพิกถอนได้ ต่อมา ถ้าดูแล้วน้ำหนักของการร้องเรียนมีมากกว่าสิ่งที่ทางเราชี้แจงจะเพิกถอนก็สามารถทำได้ตามขั้นตอน แต่ถ้าเกิดวันนี้ มาบอกว่าไม่ฟังข้อมูลเพิ่มเติมและตัดตรงนี้ และเพิกถอนเลย ก็มีเรื่องกันแน่ โดยจะมีการฟ้องตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทั้งนี้ ทนายวิฑูรย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักร้องเรียนตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้านบาท โดยเฉลยว่าบุคคลดังกล่าวคือนักร้องเรียนหญิง 'อักษรย่อ ก.' ก่อนจะบอกว่า “รู้กันอยู่แล้ว ไปเช็กก็รู้ว่าใคร”
ขณะเดียวกัน ตนเองทราบรายละเอียดเรื่องนี้ดีแบบลึก พร้อมมีพยานบุคคลยืนยัน โดยจ่ายไป 10 ล้านบาทเป็นก้อนเดียว และจ่ายอีกก้อนสุดท้าย 4 แสนบาทเป็นเงินสด โดยช่วงที่ตบทรัพย์เกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เดือนพฤษภาคม 2567 แต่ตนจำเดือนชัดเจนไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจ่ายไป 10 ล้านบาท เป็นก้อนเดียว เพราะไม่มีใครเขาแบ่งจ่ายกัน อีกทั้งในวงการตบทรัพย์ เขาจ่ายก้อนเดียวทั้งนั้น
แต่พอจ่ายไป 10 ล้านแล้ว ไม่จบ มีการมาขอเพิ่มอีก 4 แสนบาทเป็นเงินสด ซึ่งก้อนสุดท้ายนี้อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการเรื่องเอกสาร ค่าปริ้นท์งาน ค่าถ่ายเอกสาร ค่าเหนื่อย / และหากถามว่ามีคลิปเสียงหรือไม่ ยืนยันว่า มีคลิปเสียงดังกล่าวจริง
เมื่อถามว่านักร้องเรียนหญิง อักษรย่อ ก. คนดังกล่าวมีการข่มขู่บอสอย่างไรบ้าง ทนายความบอกว่า “ตอนนั้นผมเข้าไปฉี่ก่อน จึงไม่รู้” ก่อนจะเล่าว่าพฤติการณ์ตบทรัพย์เป็นแบบนักร้องทั่วไป มีการมาขู่ว่า “คุณไม่อยากเดือดร้อนใช่ไหม ไม่งั้นเอามา”
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าเรามีพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือ ทนายความ ระบุว่า ไม่ใช่แบบนั้น แต่อยากบอกว่าบางทีคนทำธุรกิจไม่ใช่คนแข็งแกร่ง อย่างลูกความผมบางรายเขาแข็งแกร่ง หากมีการรีดเอาทรัพย์ ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่จ่าย แต่บางรายเขาไม่อยากมีปัญหาเพราะอาจกระทบกับธุรกิจได้
เมื่อถามอีกว่าเหตุใดบอสพอลถึงกลัวนักร้องท่านนี้ ทนายความ บอกว่า ไม่ใช่แบบนั้น แต่คนเราทำธุรกิจ ไม่อยากมีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล หากมันจบได้ก็ให้จบมากกว่า
เมื่อถามว่า มีนักร้องคนอื่นนอกจากนักร้องเรียนหญิง ก. หรือไม่ ทนายความ หัวเราะ ก่อนบอกว่า “เดี๋ยวมันจะลาม บอกไม่ได้” ก่อนย้ำว่า ไม่ใช่นักการเมือง เพราะนักการเมืองเขาไม่ค่อยยุ่ง ขณะเดียวกันตนมีข้อมูลเพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่ามีนักร้องท่านอื่นมาตบทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหรือไม่ แต่ที่มีข้อมูลตอนนี้ นักร้องเรียนหญิง ก. ตบทรัพย์มากที่สุด ส่วนที่เหลือรายละเอียดอยู่กับตำรวจ
ด้าน เพจ บิ๊กเกรียน แฉเพิ่ม เป็นคลิปเสียงที่มีการดัดเสียง ออกมาเปิดเผย ความยาว 22 วินาที ในคลิป เป็นเสียงผู้หญิง พูดซ้ำ ๆ ว่า “ทุกอย่างคือเงินตกน้ำ” “นักข่าวไม่มี ไม่เสียตัง”
บิ๊กเกรียนเขียนข้อความกำกับว่า ช่วยโดยไม่แสวงหาผลประยชน์ พวกนี้มาแนวเดียวกัน ชอบอ้างสื่อตลอด ส่วนหนึ่งของผู้เสียหายได้ถ่ายเป็นคลิปเอาไว้ เพราะต้องถูกหัก% เป็นต่าใช้จ่ายให้สื่อมวลชนที่มาทำข่าว
ส่วนเพจ กฤษอนงค์ต้านโกง / กฤษอนงค์online / ศคอ.ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ โพสต์ข้อความระบุว่า ตบ ไม่ตบ มาฟังจากปาก พร้อมหลักฐานทุกมิคิ สังคมที่ยุติโดยธรรมต้องฟังให้รอบด้าน พร้อมค่ะ!!! พรุ่งนี้รับฟังพร้อมกัน (เปลี่ยนเป็นที่) โหนกระแส
วานนี้ (21 ต.ค. 67) คุณกฤษอนงค์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 3 บอกว่า ส่วนตัวไม่ได้ฟังคลิปเสียง แต่จากที่หลายคนพุ่งเป้าไปที่ตนเอง เนื่องจากว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้เสียหาย และอยู่ในกระบวนการของการช่วยเหลือแชร์ลูกโซ่มาตั้ง 19 ปี
ทั้งนี้ มองว่ากรณีตัวเลขเงินประมาณการคร่าว ๆ ตรงนี้ น่าจะเป็นตัวเลขของผู้เสียหายที่ตนเองดำเนินการดูแลผู้เสียหายชุดแรก ที่เจรจาไกล่เกลียกันคือ 89 คน ยอดอยู่ที่ประมาณ 8,000,000 กว่าบาท แต่เริ่มต้นผู้เสียหายเรียกร้องมา 15 ล้านบาท ซึ่งทางฝ่ายคู่กรณีขอเจรจาอยู่ที่ 8,000,000 บาท ซึ่งก็เจรจาตรงกับผู้เสียหายเอง และเงินก็จ่ายโดยตรงไปที่ผู้เสียหาย แต่เนื่องจากตัวเองเป็นคนประสานตรงกลาง ก็เลยเกิดการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ แล้วตนเองก็ไม่ได้ระมัดระวังในเรื่องของการถูกอัดเสียง ก็คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรที่มันนอกกรอบ เพราะเราเป็นสำนักงานกฎหมาย และมีทนายความอยู่ด้วย
และที่สำคัญตนเองก็รู้จักกับพอลเป็นการส่วนตัวตั้งแต่ต้น เป็น 10 ปี แต่ก็ไม่ได้สนิทกันเพราะตอนที่เค้าเป็นผู้จำหน่ายอิสระ เขาเป็นผู้นำที่เก่ง มีความสามารถ จนกระทั่งเปิดบริษัทเอง จนกระทั่งมีผู้เสียหายมาร้องอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งวันนึงมาถึงมีผู้เสียหายมาเต็มหน้าบ้าน ตนเองจึงได้สอบถามข้อมูล สอบข้อเท็จจริงจากผู้เสียหาย เลยเอาข้อมูลมา เพราะเขาบอกว่ารวมกันมาสองปีแล้ว ซึ่งมีกลุ่มผู้เสียหาย ทั้งกลุ่มเปราะบาง ผู้ติดเตียง มีคนบวชเป็นพระ ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือผู้เสียหายต้องได้เงินคืน และเกิดมาตรการการป้องกัน
ตนเองเลยโทรศัพท์หาพอล ต่อหน้าทนายความว่าผู้เสียหายมาหาตนเอง จะให้ทำยังไง ซึ่งพอลบอกว่าให้ฟังพอลด้วย แล้วพอลผิดอะไรผิดตรงไหน ตนเองจึงบอกว่ามีผู้เสียหาย ไม่คิดจะมาฟังเค้าบ้างไหม ถ้าเข้าใจผิดมันต้องแค่คนสองคน แต่นี่ 10 คน มี 9 คนที่บอกว่าเสียหาย อยากให้มาฟังด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน
โดยพอลประสานผ่านภรรยาเก่าของเขามาหาตนเอง ซึ่งยอมรับว่าก่อนหน้านี้ มีการเสนอจากฝ่ายของพอลว่า ไม่ให้ทำ จะเอายังไง เอาเท่าไหร่ ซึ่งตนเองก็บอกไปว่าจ่ายที่ตนเองมันก็ไม่จบอยู่ดี มันต้องไปเยียวยาผู้เสียหาย ก็เลยบอกให้มาฟังผู้เสียหายเองเลยเกิดการเจรจาคุยกันเป็นเดือน เคลียร์กับผู้เสียหายเค้าก็ได้นั่งฟังด้วยตัวเค้าเอง จนกระทั่งตกผลึกว่า มีการตกลง 50%
โดยเค้าจ่ายเงินสดโดยตรงไปที่ผู้เสียหาย บางส่วนโอนเข้ากองทุนกลุ่มเปราะบาง ที่เป็นกลุ่มออนไลน์ แล้วทางกองทุนก็โอนต่อโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ประมาณเดือนกรกฎาคม
ส่วนตัวไม่ได้ยินคลิป แต่ถ้าพุ่งเป้ามาที่ตนเอง ตนเองก็พร้อมชี้แจงมาก ยืนยันไม่ได้กังวล เพราะอยู่มาเป็น 19 ปี อยู่กับโจรมารู้ว่าโจรคิดอะไร ไม่เคยอัดเสียงใคร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าเค้าจะอัดเสียงตนเองก็แสดงว่าเขามีความผิด
ดังนั้น วันนี้ไม่ต้องมาถามว่าตัวเองมีคลิปไหม ตนเองไม่มี ตนเองมีแค่คลิปครั้งแรกครั้งเดียวที่อัดให้ผู้เสียหายฟังว่า เกิดการเจรจากับพอล แล้วทุกคนเห็นว่ายังไง มีแค่ครั้งเดียว ยืนยันไม่ได้กังวลใจพร้อมชี้แจง ถ้าวันนี้ สังคมให้ชี้แจง ตนเองก็พร้อม แต่ถ้ากระบวนการทางกฎหมายพร้อมอยู่แล้ว
ถามว่าตกใจไหม ตกใจ เพราะพ่อตกใจ แต่พ่อให้ประโยคนึงมาว่า “ทองแท้ ต้องไม่กลัวไฟ” มันต้องพร้อมที่จะรับกับไฟ ถ้าเราจะอยู่จุดนี้ เมื่อสอบถามว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังหรือมีใครกันแกล้งหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ
ส่วนประเด็นเรื่องส่วนแบ่ง 20% ที่ถูกกล่าวอ้างว่าจ่ายให้กับผู้ร้องเรียน ด้วยประเด็นนี้เจ้าตัวชี้แจงว่า ผู้เสียหายได้ถามว่าแล้วตนเองได้อะไรจากการช่วยเหลือ ซึ่งทางผู้เสียหายหลังจากได้เงินแล้วก็อยากจะสนับสนุนตนเอง โดยตนเองไม่ได้บังคับให้มีการโอน ไม่มีการพูดว่า ต้องโอนให้ตนเอง 20% แต่ที่ตนทราบคือมีแกนนำของผู้เสียหาย ที่มีการพูดคุยตกลงในกลุ่มผู้เสียหายว่าให้โอนสนับสนุน จึงให้โอนเงินผ่านกองทุนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี money game แชร์ลูกโซ่ ซึ่งเงินเหล่านี้ก็จะนำไปใช้ช่วยเหลือผู้เสียหายรายอื่นๆต่อไป
ส่วนที่ทนายความของบอสพอล มีการพูดว่านักร้องหญิงท่านนี้ มีการให้โอนเงิน 10 ล้านบาทเลย และมีการโอนอีก 400,000 บาท ตนเองอยากฝากบอกทนายความว่า ให้เอาหลักฐานมา ยืนยันว่าไม่มีหรอก 10 ล้านบาท และหากมีเอกสาร หรือหลักฐานอะไร ที่ทางทนายความเข้าใจตรง หรือไม่ตรง ก็สามารถมาสอบถามตนได้
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Pp_f_zsBVsw