สังคม

คดีมีโทษสูง! ตร.ค้านประกัน 18 บอส ‘ดิไอคอน’ - ผู้เสียหายลั่น ติดคุกเป็นสัจธรรม ทำอะไรได้อย่างนั้น

โดย petchpawee_k

17 ต.ค. 2567

390 views

หนุมานถล่มกรุงดิไอคอน! บุกจับ “บอสพอล-กันต์-แซม-มิน” พร้อมเครือข่าย ลุยจับรวม 18 หมาย  ข้อหาฉ้อโกงประชาชน-พ.ร.บ.คอมฯ ตำรวจคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีมีโทษสูง

วานนี้ (16 ต.ค.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “หนุมานถล่มกรุงดิไอคอน” รวบกลางวงเทวดา ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับทั้งหมด 18 หมายจับ ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ฐานความผิด 2 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ”

สำหรับ 18 หมายจับ ชุดแรกขณะนี้จับครบแล้วได้แก่ บอสพอล, บอสปัน, บอสปีเตอร์, บอสหมอเอก, บอสสวย ,บอสโซดา ,บอสโอม, บอสวิน, บอสแม่หญิง, บอสอูมมี่, บอสทอมมี่ , บอสป๊อป, โค้ชแล็ป, บอสจอย, บอสอ๊อฟ, กันต์ กันตถาวร, มิน พีชญา ,แซม ยุรนันท์


18.04 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถของกลางที่ตรวจยึดได้จากคดี The Icon Group 3 คัน ได้แก่ รถ Audi RS7 รถ porsche panamera รถตู้อัลพลาดสีขาว มาจอดที่หน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีรายงานว่าเป็นรถของนางสาวนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ บอสสวย

โดยภายในรถตู้อัลพลาดสีขาว มีคนรู้จักของนางสาวนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย นั่งมาด้วย นักข่าวพยายามถามญาติของบอสสวย ตอบคำถามสั้นๆ ตนเองไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนนักข่าวถามความรู้หรือไม่ว่าญาติของตนเองไปหลอกลงทุน ไปชักชวนลูกทีม เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัวบอสสวยหรือไม่ ญาติของบอสสวย ไม่ตอบคำถามใด ๆ มีรายงานว่าบอสสวย บอสป๊อป ถูกคุมตัวมาถึง บก.ปคบ.ก่อน

18.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว ‘แซม ยุรนันท์’ หนึ่งในผู้ต้องหามาถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยสวมหมวกแก๊ปและใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปภายในอาคารอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ได้คุมตัวไปสอบปากคำบนอาคาร โดยกันสื่อมวลชนอยู่ด้านล่าง

จากนั้น 18.27 น.ตำรวจคุมตัวบอสวิน นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ เข้ามาสอบปากคำที่ บก.ปคบ.จากนั้น 18.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยคุมตัวผู้ต้องหาเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยได้คุมตัวบอสหมอเอก (ใส่เสื้อสีขาว) มาถึงบก.ปคบ. และได้ถือกล่องเอกสารซึ่งเป็นหลักฐานทางคดี และเสื้อกราวน์สีขาวของหมอเอก พร้อมทั้งโปสเตอร์เปิดคอร์สของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เข้าไปภายในอาคารด้วย

18.34 น. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมิน ถูกคุมตัวมาถึงยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเจ้าหน้าที่พาเลี่ยงสื่อ ไม่ได้นำตัวเดินผ่านบริเวณจุดที่ตำรวจจัดให้สื่อเก็บภาพ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวถึงช่วงที่ไม่มีนักข่าวดักรอหน้าอาคาร จึงทำให้สื่อไม่เจอตัวและไม่สามารถบันทึกภาพ น.ส.พีชญา ได้ ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวขึ้นไปสอบปากคำที่ บก.ปคบ.

18.56 น. เจ้าหน้าที่คุมตัวบอสอ๊อฟ  และบอสจอย  เข้ามาสอบปากคำที่ บก.ปคบ. พร้อมกันนี้ได้ยึดรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ สีเหลือง ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นรถของใครบ้าง และพยานหลักฐานสำคัญ ซึ่งทั้งสองไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ได้แต่เดินก้มหน้าเข้าไปภายในอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่ตำรวจจัดระเบียบสื่อมวลชนเพื่อความเรียบร้อยในการทำข่าว โดยการพื้นที่ให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพไม่ให้เกิดความชุลมุน

ต่อมา 19.07 น.ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาอีกรายคาดว่าเป็นโค้ชแล๊ป พร้อมของกลางที่ตรวจยืดได้เข้าเข้ามากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะเดียวกันตำรวจได้นำรถหรู 2 คัน ยี่ห้อมัสแตง สีแดง และยี่ห้อปอร์เช่ สีแดง ที่ได้ตรวจยึดจากนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ มาจอดด้านหน้าอาคาร บช.ก.

19.29 น. ‘กันต์ กันตถาวร’ เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ พร้อมทนายความส่วนตัวมาถึงที่ บก.ปคบ. ทันทีที่ลงจากรถ ตำรวจได้นำตัวเดินเข้าไปภายในอาคาร โดยนายกันต์ ได้ยกมือไหว้สื่อมวลชนก่อนจะก้มหน้า  ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะพูดหรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ พร้อมกับมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่านายกันต์ เข้ามามอบตัวเองไม่ใช่การถูกจับกุม

20.00 น. ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน มาถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเจ้าตัวเดินก้มหน้ามีสีหน้าแววตาเคร่งเครียด น้ำตาซึมลักษณะเหมือนร้องไห้ จากนั้น ถูกคุมตัวขึ้นไปสอบปากคำที่ บก.ปคบ.

21.03 น. ตำรวจยืนยันจับผู้ต้องทั้ง 18 คน ครบแล้ว อยู่ระหว่างทยอยคุมตัวเข้ามาที่กองปราบฯ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ  เวลาเดียวกันนี้ตำรวจได้คุมตัว น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี่ และนายเชษฐณกัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ มาสอบปากคำ แจ้งข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง แสดงหมายจับและจับกุมตัวบอสพอล ที่ สคบ. จากนั้นตำรวจได้คุมตัวบอสพอล มายังบริษัทย่านรามอินทรา เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนถึงเวลาประมาณ 21.10 น. ตำรวจได้พาตัวบอสพอล ออกจากบริษัทไปยัง บก.ปคม. ซึ่งมีการขับรถของกลางเป็นรถตู้บริษัทติดโลโก้ The iCon ออกไปด้วย ทั้งนี้ในส่วนของอาคารใหญ่สุดของบริษัท ได้ปิดไฟที่โลโก้ ซึ่งปกติจะเปิดตลอดคืน และพบว่าพนักงานของบริษัทเฝ้าอยู่ 2 คนเท่านั้น

21.30 น. ตำรวจสอบสวนกลางคุมตัวบอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล มาถึงที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยตอนแรกเจ้าหน้าที่ได้จัดระเบียบกั้นพื้นที่ไว้เพื่อให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพโดนไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แต่ปรากฎว่าตำรวจชุดที่คุมตัวมาได้จอดรถอีกประตูก่อนที่จะถึงจุดที่สื่อมวลชนตั้งแถวไว้ ทำให้เกิดการกรูกันเข้าไปและเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย

โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามบอสพอล ว่ามีอะไรอยากจะพูดกับเสียหายหรือไม่ วันนี้ตกเป็นผู้ต้องหาแล้วยังมั่นใจในการสู้คดีหรือไม่ ยังมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้กระทำความผิดหรือไม่ เตรียมหลักทรัพย์ไว้ประกันตัวหรือไม่ กังวลหรือไม่ว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว โดยถามคำถามเป็นเวลาประมาณ 1 นาที แต่บอสพอล สีหน้าปกติยิ้มเล็กน้อย และไม่ได้ตอบคำถามใดๆ

จากน้้นเวลา 22.00 น. ตำรวจได้ทยอยคุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือได้แก่ นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) และนายกลด  เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์) น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกซิสนุพงศ์ (บอสโซดา) เข้ามาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง /พร้อมทั้งทยอยขนรถหรูของกลางที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหา มาจอดที่ บช.ก.

พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะ ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดี บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ที่ถูกออกหมายจับนั้นโดยในชั้นจับกุมพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้การประกันตัว รวมถึงในชั้นศาลพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเป็นคดีที่มีโทษสูงและมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งเมื่อครบกำหนดควบคุมตัว ก็จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป ซึ่งต้องเป็นภายในวันที่ 18 ตุลาคมนี้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำของกลางหลายอย่างมาเพื่อประกอบเป็นหลักฐาน และมีรถยนต์ของกลางที่ตรวจยึดได้หลายคันของผู้ต้องหาบางรายในคดีดิไอคอน อาทิ รถมัสแตงค์ สีแดง 1 คัน และปอร์เช่ คาเยนน์ สีแดง อีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถของนายกันต์ กันตถาวร

นอกจากนี้ก็ยังมีรถเบนซ์สีขาว อัลพาร์ดสีดำ ปอร์เช่ สีเหลือง และรถแมคลาเรน สีเหลือง 1 คัน และรถปอร์เช่สีเหลือง 1 คัน มีรายงานว่าเป็นรถของบอสปัน อีกทั้งยัง อายัดรถหรูหลายคันของผู้ต้องหา นำมาจอดที่หน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีทั้ง โรลสรอยส์, เบนท์ลี่, มายบัค,แมคราเลน, เฟอร์รารี่, พอร์ช และรถคลาสสิก ฟอร์ด มัสแตง รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยเขียนป้ายติดว่า “รถของกลาง“

---------------------------------------

ผู้เสียหายเกาะติดคุมตัว 18 บอส ผู้ต้องหาดิไอคอน ระบุ มาดูผลผลิตทรัพย์สินจากเงินเหยื่อ ชี้ ติดคุกก็เป็นสัจธรรม ทำดีอะไรได้อย่างนั้น เผยระบบหลังบ้านยังทำงานแม้บอสใหญ่ถูกจับ

วานนี้ (16 ต.ค.) หนึ่งในผู้เสียหายที่มาแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ คดีดิไอคอนกรุ๊ป และหลังจากเธอแจ้งความเสร็จก็ได้มาติดตามดูการควบคุมตัวของตำรวจที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 18 คน เข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสิบสวนกลาง


โดยผู้เสียหายรายนี้ เล่าให้ฟังว่า วันนี้ตนเองมาดูผู้ต้องหาที่ถูกจับ รวมถึงบอสที่เป็นดารา ซึ่งก็มองว่า การที่เราจะลงเซ็นต์อะไรถ้าจะเป็นพรีเซนเตอร์ ต้องอ่านทุกรายละเอียด แต่ถ้าตัดสินใจก็คงพิจารณาดีแล้ว และถ้าจะมาทำเป็นเครือข่าย กว่า 6 แสนรหัสแบบนี้ ก็ยิ่งต้องตรวจสอบให้ดี ไม่ใช่ว่า อีกช่องหนึ่งคุณพูดแบบหนึ่งอีกช่องพูดแบบหนึ่ง


และมองอีกว่าคงยังมีผู้เสียหายอีกเยอะที่ยังไม่ออกมา และความเสียหายน่าจะเยอะกว่านี้ ซึ่งถ้าทุกคนช่วยกันก็คงเป็นสิ่งที่ดี เป็นมนุษย์ด้วยกันต้องมีสัจธรรมจริยธรรม ไม่ใช่สักแต่พูดว่าจะพาไปสู่ชีวิตที่ดี เพราะหากเกิดขึ้นกับครอบครัวคุณจะรู้สึกยังไง


ส่วนกรณีหากบอสพอล ต้องติดคุกนั้น ก็เป็นสัจจธรรมอยู่แล้วทำอะไรได้อย่างนั้น ให้เวลาเขาได้เข้าไปคิดว่าถ้าเขาออกมาเขาจะแก้ตัวยังไงกับสังคม ซึ่งในวันนี้ตนเองเก็บรายละเอียดมาเป็นสัปดาห์ ถอนตัวมาเป็นสัปดาห์แล้ว ยิ่งมาเจอบอสใหญ่ออกรายการโหนกระแส หาความจริงไม่ได้


ส่วนการที่มารอดูการจับกุมคุมตัวมาหลังจากแจ้งความเสร็จ ก็อยากจะมาดูว่าผลผลิตของพวกเรามีอีกเยอะแค่ไหน ผลิตผลก็คือ พวกรถหรู ทรัพย์สิน ที่เป็นผลผลิตของพี่น้องที่โดนกระทำ ถ้าเขาเคลียร์ตรงนี้ได้อาจจะได้เงินคืนกันบ้าง ไม่ได้ต้องการทั้งหมด เพราะมีคนที่เสียหายมากกว่า “ทำดีก็ได้ดีทำไม่ดีก็รับผลไป สิ่งที่เขาทำผิดตั้งแต่ต้น เขาทำก็ต้องรับผลไป”


ส่วนตัวเปิดดีลเลอร์และทาวเวอร์ และก็ยอมรับด้วยว่า เหตุผลที่มาแจ้งความเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งในระบบและนอกระบบ เพราะบอสใหญ่ๆ เป็นผู้ต้องหาหมดแล้ว แต่ระบบหลังบ้านยังทำงานกันอยู่ จึงบอกไม่ถูกว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ซึ่งหากให้ตนเองมองจากรูปการณ์น่าจะไม่รอด เพราะยิ่งผู้เสียหายมากเท่าไร บอสยิ่งมากเท่าไร เมื่อเอามาบวกกันยังไงก็ไม่รอด แล้วตนเองเป็นผู้เสียหายทำมา 2-3เดือน ทำให้รู้สึกว่าถ้าเราไม่มาก็จะเป็นแพะไปด้วย


“ถ้าคุณอยากได้เงินอยากได้ยอด คุณจะดีกับเราถ้าเราหมดผลประโยชน์กลับไม่แจ้ง สิ่งที่เราไม่รู้ยังมีอีกเยอะ เราต้องทำขนาดไหนเราต้องเข้าไปอยู่ในองค์กรที่เราถึงจะรู้ได้ เลยต้องมาหาความจริงที่นี่”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/NudSdUcpSIU


คุณอาจสนใจ

Related News