ชาวบางบาลโวย ชลประทานทำคันกั้นน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าทุ่ง แต่มาท่วมบ้านชาวบ้านแทน

ชลประทานเร่งทำคันป้องน้ำรับมือเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าทุ่ง ทำชาวบ้านโวยขอให้แบ่งเบาน้ำช่วยคนบางบาล ป้าจิ๋มอยู่กับหลานพิการสุดทน บ่นเบื่อหนุนบ้านหนีน้ำถึงหลังคาต้องยอมทิ้งบ้านขนของหนี ส่วนป้าสนองต้องลอยคอดำน้ำงมก้านธูปจมน้ำ ออกไปตากแดดส่งขายหาเงินซื้อตุนอาหาร

ชาวบ้านตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กังวลต่อสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยาที่เร่งระบาย จนทำให้น้ำขึ้นสูงอีกเป็นเมตร โดยพบว่าชลประทานได้นำรถแบ็คโฮจำนวน 2 คัน ระดมรถบรรทุกขนดินเข้ามาเสริมคันดินป้องกันน้ำบนถนนคันคลองชลประทาน ช่วงตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สูงกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร เพื่อรับมือเขื่อนเจ้าพระยาที่เร่งระบายน้ำอยู่ในขณะนี้

หากไม่ทำคันน้ำจะทะลักเข้าท่วมทุ่งบางปะหัน บางบาลและถนนเลียบคันกั้นน้ำ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่นอกคันกั้นน้ำส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจ ตำหนิชลประทานจะเก็บกักน้ำให้ท่วมชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำเดือดร้อนไปถึงไหน ทุกวันนี้ลำบากกันทุกครัวเรือน บ้านแต่ละหลังถูกน้ำท่วมสูง หลายหลังต้องหนุนบ้านหนีน้ำไว้อยู่อาศัย ถนนทางเข้าออกหมู่บ้านจมน้ำไปหมดแล้วใช้เรือเพียงอย่างเดียวหรือไม่ต้องลอยคอเดินลุยน้ำออกสู่โลกภายนอก จึงอยากให้ชลประทานแบ่งเบาน้ำปล่อยเข้าทุ่งบ้าง เพื่อช่วยชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้

ป้าปราณี สาระสัย หรือป้าจิ๋ม อายุ 63 ปี บ้านถูกน้ำท่วมมิดพื้น เดินลุยน้ำมานานหลายวันจนเท้าเป็นแผลและกลายเป็นโรคน้ำกัดเท้า ป้าจิ๋มพักอาศัยอยู่กับหลานชายพิการ ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ป้าหลานต้องช่วยกันยกสิ่งของเครื่องใช้ให้สูงหนีน้ำ แออัดยัดเยียดอยู่ในบ้าน แล้วหนุนพื้นบ้านหนีน้ำสูงเกือบติดหลังคาสังกะสี ไว้ใช้เป็นที่หลับนอน พักผ่อน ส่วนครัวจมอยู่ในน้ำใช้วิธีหนุนเตาแก๊สลุยน้ำทำกับข้าว ทั้งคู่ไม่ยอมทิ้งบ้านไปไหนถึงแม้จะลำบากสักเพียงใดด้วยที่เป็นห่วงทรัพย์สินในบ้านและรักบ้านหลังนี้มาก ตลอดชีวิตอยู่กับพ่อแม่มากว่า 40-50 ปี บ้านไม่เคยถูกน้ำท่วม เพิ่งจะมาถูกน้ำท่วมตอนที่ใช้ทุ่งบางบาลรับน้ำ

ป้าจิ๋มเห็นชลประทานทำคันดินป้องน้ำเข้าทุ่งเชื่อว่าน้ำจะขึ้นอีกสูงแน่ จึงตัดสินใจชวนหลานชายที่ป่วย อพยพขนของหนีน้ำไปอาศัยบ้านญาติที่ปล่อยทิ้งไว้น้ำยังท่วมพักอาศัยหลับนอนเพื่อความปลอดภัย

ไม่ต่างไปจากป้าสนอง สุขี ที่ตามปกติป้าสนองจะผ่าท่อนไม้ไผ่ หลาวก้านธูปส่งออกขาย แต่ล่าสุดบ้านถูกน้ำท่วมเหมือนกัน ตลอดวันป้าสนองต้องลอยคอดำน้ำ ดำผุดดำว่าย อยู่ใต้ถุนบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ดำน้ำลงไปงมไม้ก้านธูปที่ใส่ถุงปุ๋ย ปล่อยทิ้งจมน้ำไว้ใต้ถุนบ้านเนื่องจากขนหนีน้ำไม่ทัน เพื่อนำไปทำเป็นก้านธูปส่งออกขาย เมื่อผ่าเสร็จแล้วก็จะมัดเป็นกำนำไปตากแดดบนถนนให้แห้ง ก่อนส่งออกขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย กักตุนอาหาร

ป้าสนอง บอกว่าวันนี้ได้ดำน้ำขนท่อนไม้ไผ่ทำก้านธูป 2 ถุงสุดท้าย หมดแล้วก็จะหยุดทำเนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วม ไม่มีที่ทำที่ตากแดด ต่อจากนี้ไปคงจะไม่มีรายได้เข้ามาอีก จนกว่าน้ำจะแห้งกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากเป็นไปได้ขอให้ชลประทานเร่งระบายน้ำเข้าทุ่งเพื่อแบ่งน้ำไปบ้างก็ยังดี กระแสน้ำไหลผ่ากลางหมู่บ้านก็แรง พายเรือก็ลำบาก

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZlAfFXZIOXk