รวบแล้ว สาวหล่ออุกอาจ ฉกรถป้ายแดงจากห้างดัง น้องแมวติดรถไปด้วย หงายการ์ดป่วยจิตขาดยา

อุกอาจกลางรัชดา! สาวทอม ฉกรถป้ายแดงจากห้างดัง ถอดทะเบียนทิ้งกลางทาง เจ้าของรถสุดห่วง น้องแมว ‘มอตี้’ สุดที่รักติดรถไปด้วย ล่าสุดรวบได้แล้ว น้องแมวซุกใต้เบาะ ปลอดภัยดี  ด้านญาติเผยผู้ก่อเหตุป่วยทางจิตนับ 10 ปี ระยะหลังไม่กินยาเลยอาการกำเริบ

เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.67)  เวลา 14.00น. ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งเหตุขโมยรถเอสยูวี ฮอนด้า HRV สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ฮ-7086 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดที่หน้าห้างเดอะสตรีท รัชดาฯ ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลมีการแชร์คลิปขณะเกิดเหตุ โดยผู้ใช้ติ๊กตอก @sparkupdate โพสต์คลิปขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างหลายคน พยายามเข้าไปหยุดรถเก๋งเอสยูวีสีดำคันดังกล่าว ทั้งเอากระบองฟาดกระจกรถฝั่งคนขับ ทั้งวิ่งไปขวางหน้ารถ แต่คนร้ายที่ขโมยรถคันดังกล่าว ไม่ยอมหยุด กลับเหยียบคันเร่งและพุ่งชนไม้กั้นกับแผงรั้วเหล็กบริเวณทางออก และขับหนีออกไปยังถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปแยกสุทธิสาร

นอกจากนี้ยังมีคลิปอีกมุม เป็นมุมด้านหน้าห้าง ตรงบริเวณทางออก จะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้างหลายคน รวมทั้งพลเมืองดี พยายามดันรั้วเหล็กเพื่อไม่ให้คนร้ายขับรถออกไปได้ แต่คนร้ายไม่ยอมหยุด ขับฝ่าออกไป จนเกือบจะชนเจ้าหน้าที่ แล้วขับรถออกถนนใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่ของห้างพยายามจะวิ่งไล่ตาม

พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ทางเจ้าของรถ ซึ่งเป็นหญิงสาววัย 25 ปี ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ พร้อมให้การว่า เดินทางมาจากที่พักย่านพระราม 4 มาทำธุระย่านห้วยขวาง แล้วแวะซื้อกาแฟที่ห้างดังกล่าว โดยผู้เสียหายนำแมวพันธุ์ไทยเพศผู้ สีดำ อายุปีเศษ ติดรถมาด้วย แต่ช่วงที่ลงไปซื้อกาแฟไม่ได้ดับเครื่องยนต์ เนื่องจากต้องเปิดแอร์ในรถไว้ เพราะเกรงว่าแมวจะร้อนและหายใจไม่ออก

จากนั้นจึงได้ลงไปซื้อกาแฟ โดยนำรีโมทติดตัวไปด้วย ขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้าง เห็นรถของตัวเองขับผ่านหน้าไป จึงตะโกนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดจับ จากนั้นคนร้ายพยายามขับรถวนหาทางออกอื่น แต่ห้างนี้มีทางออกเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ของห้างพยายามมวิ่งไล่สกัดรถ แต่ คนร้ายก็สามารถขับฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ชนรั้วเหล็กออกไปยังถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปยังแยกสุทธิสาร

ต่อมา ฝ่ายสืบสวนทราบรูปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุ มีลักษณะเป็นสาวทอม จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้พบเห็นรถคันดังกล่าวอยู่บนถนนเส้นเกษตรนวมินทร์ จากนั้นก็พบว่ารถกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในย่านมีนบุรี และคนร้ายได้ถอดป้ายทะเบียนออก น้ำมันเหลืออยู่เพียง2 ขีด สามารถวิ่งได้อีกกว่า 100 ก.ม.  หากดับเครื่องรถจะไม่สามารถสตาร์ทได้ เพราะอยู่ห่างจากรีโมท และ ผู้เสียหายบอกว่าไม่รู้จักคนร้าย  

ขณะที่เพจอีซ้อขยี้ข่าว โพสต์แจ้งเบาะแสของรถคันดังกล่าวเป็นระยะ โดยมีพลเมืองดีไปพบรถคันนี้วิ่งอยู่เส้นเกษตรนวมินทร์  จากนั้น เวลาประมาณ 17.00 น.มีคนพบรถคันนี้ถอดป้ายทะเบียนแดงออก โดยไม่มีตำรวจไล่ตามด้วย

ขณะที่ผู้ใช้ x ชื่อ emesspace โพสต์ประกาศตามหาน้องแมวชื่อ มอตี้ ซึ่งติดไปกับรถที่ถูกขโมย โดยแมวมีลักษณะขนสีดำ ที่คอมีขนสีขาวเล็กน้อย ตาสีเหลือง เจ้าของคาดว่าน้องโดนปล่อยลงข้างทางแล้ว ซึ่งตอนน้องหายไปพร้อมรถ ไม่ได้ใส่ปลอกคอ  

กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.วานนี้ (2 ต.ค.67) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ไปพบรถที่คนร้ายขโมยไปแล้ว โดยพบว่าไปจอดอยู่ที่ลานจอดรถของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยนาคนิวาส 16 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว โดยรถอยู่ในสภาพน้ำมันหมด  

ผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.ณัฐกัญญ์ อายุ 40 ปี  สอบปากคำเบื้องต้น เจ้าตัวยังให้การวกวน จับต้นชนปลายไม่ได้ ส่วนเจ้ามอตี้ แมวเพศผู้สีดำของผู้เสียหาย พบว่าปลอดภัยดี โดยน้องไปซ่อนตัวอยู่ใต้เบาะรถ เพราะตกใจกลัว เจ้าหน้าที่นำตัวมาคืนให้เจ้าของแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ต้องลากรถของผู้เสียหายไปเติมน้ำมัน ก่อนจะนำมาที่ สน.ห้วยขวาง พร้อมกับผู้ก่อเหตุเพื่อสอบปากคำ

ตำรวจ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ ก็เร่งสืบทราบเส้นทางหลบหนี พร้อมวิทยุให้ 88 สน.ในสังกัดนครบาล เครือข่ายสื่อมวลชนและภาคประชาชน ช่วยกันแจ้งเบาะแส จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าพบรถคันดังกล่าวจอดที่อพาร์ทเมนต์ ในซอยนาคนิวาส 16 พื้นที่ สน.โชคชัย จึงประสานเจ้าหน้าที่ สน.โชคชัย เข้าตรวจสอบ และจับกุมผู้ก่อเหตุได้  

จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้น พบว่า ให้การวกวน พูดคุยไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ ทางแม่และพี่สาว ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติรักษาอาการทางจิตเวช มานานนับสิบปี ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ จ.ขอนแก่น แต่ระยะหลังไม่ค่อยได้กินยา จึงอาจมีอาการกำเริบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ญาติส่งซองยา เอกสารต่างๆ มาตรวจสอบ ว่าป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องสอบปากคำที่โรงพักก่อน ถ้าพบว่า สามารถให้ปากคำในรายละเอียดต่างๆ ได้ แสดงว่ารู้ผิดชอบชั่วดี ก็ไม่จำเป็นต้องส่งประเมินสภาวะทางจิต ก็จะแจ้งข้อหาเบื้องต้น คือ ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์  

แต่ถ้าสอบปากคำแล้วพบว่า มีเหตุเชื่อได้ว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาทางจิต ประกอบกับหลักฐานต่างๆ ที่ขอให้ญาติส่งมาให้ ก็ต้องส่งไปที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อให้จิตแพทย์ประเมินสภาวะทางจิต เพื่อพิจารณาถึงเรื่องความสามารถในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์การก่อเหตุ พบว่า ในช่วงสาย เวลาประมาณ 10.21 น. ผู้ก่อเหตุเดินมาจากถนนรัชดา เข้าไปในห้างบิ๊กซีรัชดาฯ โดยเข้าไปเปลี่ยนรองเท้า จากรองเท้าแตะสีขาว เป็นรองเท้าคัทชูหุ้มส้น  

จากนั้น เวลา 10.56 น. ผู้ก่อเหตุเดินออกจากห้างบิ๊กซี  โดยลากกระเป๋าเดินทางไปด้วย มุ่งหน้าไปเดอะสตรีท เวลา 11.00 น. เดินเข้าลานจอดรถเดอะสตรีท และอยู่ในเดอะสตรีทประมาณ 2-3 ชั่วโมง

จากนั้น เวลา 14.03 น. ผู้ก่อเหตุ เดินลากกระเป๋าไปขึ้นรถของผู้เสียหาย ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถเดอะสตรีท แล้วก่อเหตุลักรถ ซึ่งตอนแรก ผู้ก่อเหตุพยายามขับออกไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ รปภ.ไม่ให้ออก จึงขับรถวนมาอีกครั้ง คราวนี้ รปภ.หลายคน เริ่มวิ่งไล่สกัด ทำให้ผู้ก่อเหตุ ขับชนแผงกั้นหนีออกไป โดยออกจากห้างได้ในเวลา 14.09 น.เวลา 14.10 น. ผู้ก่อเหตุ ขับรถลงอุโมงค์ข้ามแยกห้วยขวาง

เวลา 14.12 น.ขับผ่านรัชดาฯ 17 และเวลา 14.17 น.ขึ้นสะพานรัชวิภา  แล้วขับวนอยู่แถวนั้น จนกระทั่งรถน้ำมันหมดไปจอดที่ลานจอดรถของอพาร์ตเมนต์ ในซอยนาคนิวาส 16 มีพลเมืองดีมาพบและแจ้งตำรวจเข้าจับกุมได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/W69q8t7y0CU