อีกแล้ว! สาวขี่ จยย.ถูกสายเคเบิลขาด เกี่ยวลูกตาหวิดบอด ก่อนรถเสียหลักพุ่งลงป่าข้างทาง

สาวโชคร้ายขี่ จยย. ถูกสายเคเบิ้ลขาด เกี่ยวลูกตาเลือดทะลัก รถเสียหลักพุ่งลงป่าหญ้าข้างทาง อาจมีโอกาสมองไม่เห็น เนื่องจากสายเคเบิ้ลเกี่ยวเข้าไปถึงชั้นดวงตา

เมื่อเวลา 11.35 น. วานนี้ (1 ต.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เกี่ยวสายเคเบิ้ล ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านคลองนาเวลเลจ ถนนบ้านโรงสีบน ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลคลองนา อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บมานั่งพักคอยที่บริเวณใต้ต้นไม้หน้าหมู่บ้าน ทราบชื่อคือนางสาวสุนีย์ อายุ 37 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณดวงตาทั้ง 2 ข้าง

โดยที่ดวงตาข้างขวาปูดบวมขนาดใหญ่ มีเลือดไหลทะลักออกมาจากเปลือกตาและลูกไนตาด้านใน ส่วนดวงตาด้านซ้ายปูดบวมเช่นเดียวกันแต่น้อยกว่า และยังพอจะมองเห็นอยู่บ้าง ที่บริเวณศีรษะบวมโน ที่แขนมีบาดแผลถลอก เจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร

จากการสอบถามนางสาวสุนีย์ให้การว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากบ้าน เพื่อมุ่งหน้าเข้าตลาดภายในตัวเมือง แต่พอมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ตนเองมองไม่เห็นสายเคเบิ้ลที่ขาด และล่วงหล่นลงมาพาดอยู่กลางถนน ทำให้ถูกสายเคเบิ้ลเกี่ยวเข้าที่ใบหน้า ตรงบริเวณดวงตาทั้ง 2 ข้างอย่างแรงจนรถเสียหลักล้มและไถลลงป่าหญ้าข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุ เกือบ 15 เมตร จนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต้องรีบเข้ามาช่วยเหลือ ยกรถขึ้นจากป่าหญ้าและนำตนเองมานั่งพักรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรงบริเวณใต้ต้นไม้

ด้านองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนา พอทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ได้รีบนำรถกระเช้า เข้ามาดำเนินการตัดสายเคเบิ้ลทั้งหมดที่ขาดหลุดล่วงลงมาจากตัวเสา เพื่อป้องกันอันตรายและเหตุซ้ำซ้อนในจุดเดิม  เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชนและหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก ประกอบกับด้านในยังมีรถขนาดใหญ่วิ่งเข้าออกเป็นประจำ ทำให้สายเคเบิ้ลอินเตอร์เน็ตที่นำมา ติดตั้งไว้นานแล้ว และไม่ได้ใช้ประโยชน์  ได้เกิดชำรุดเสียหายและล่วงหล่นลงมาบนพื้นถนนอยู่เป็นประจำ

จึงอยากจะฝากบริษัทที่ติดตั้งสายเคเบิ้ลอินเตอร์เน็ตทุกข่ายที่มาดำเนินการติดตั้ง ขอให้ติดให้สูงพ้นจากรถ และสายที่ชำรุดแล้วเมื่อไม่ได้ใช้ ขอให้รื้อถอนออกไปให้หมด เพราะมันจะเสื่อม สภาพและตกหล่นสู่ท้องถนน สายความเดือดร้อนกับประชาชนและอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงกับชีวิตได้