สังคม

ทนกดดันไม่ไหว 2 ผู้ต้องหาแสบมอบตัวแล้ว หลังหลอกสิบเวรยืมมือถือ ก่อนถีบ ตร.ยัดห้องขังแทน

โดย nattachat_c

5 ชั่วโมงที่แล้ว

181 views

2 ผู้ต้องหาขนไอซ์ 80 กิโล แหกห้องขัง สน.พญาไท ทำทีปวดท้องขอยืมโทรศัพท์สิบเวรโทรหาญาตินำยามาให้ อาศัยจังหวะล็อกคอ ผู้ต้องหาอีกคนช่วยปลุกปล้ำถีบสิบเวรล้ม ปิดประตูล็อคกลอนขังใว้ในห้องขัง หลบหนีขึ้นรถเก๋งจอดรอหน้าโรงพัก แต่ถูกกดดัน จนขอมอบตัวที่ สภ.สีดา จ.นครราชสีมา


วานนี้ (19 ก.ย. 67) เวลา 01.30 น. ขณะที่ ร.ต.ต.รุ้งระวี สืบเหล่างิ้ว รอง สว.(ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม) สน.พญาไท ปฏิบัติหน้าที่สิบเวรประจำห้องขัง ตั้งแต่ 00.00 - 08.00 น. 


ขณะนั้น มีผู้ต้องขังทั้งหมด 4 คน ในจำนวนนนี้มี นายอ้น ประเสริฐ อายุ 23 ปี และนายนิพนธ์ จานนอก อายุ 31 ปี ทั้ง 2 คน ต้องหาคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย จำนวน 80 กิโลกรัม ซึ่งถูกตำรวจจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บชน.) จับกุมตัวตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง บชน. ไม่มีห้องขัง จึงต้องนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังไว้ที่ สน.พญาไท เพื่อสอบขยายผล


โดยเริ่มแรกของเหตุการณ์แหกห้องขังนี้ 'นายอ้น' ได้โบกมือให้กล้องวงจรปิดด้านใน เป็นการส่งสัญญาณเรียก ร.ต.ต.รุ้งระวี เพื่อขอความช่วยเหลือ ร.ต.ต.รุ้งระวี จึงตะโกนถามว่า ต้องการสิ่งใด นายอ้น บอกว่า ต้องการยากันยุง ร.ต.ต.รุ้งระวี ตอบว่าไม่มี จากนั้นนายอ้น ทำทีอ้างว่าปวดท้องไม่สบาย เหมือนจะเป็นกรดไหลย้อน ขอโทรศัพท์โทรหาแฟนให้เอายามาให้ เพราะต้องกินยา


ร.ต.ต.รุ้งระวี จึงเปิดประตูลูกกรงชั้นแรกเข้าไปห้องขังชั้นใน แล้วเปิดประตูห้องขังชั้นที่ 2 สาเหตุที่ต้องเปิดประตูเ พราะประตูลูกกรงติดแผ่นอะคลีลิคใส เพื่อกันผู้ต้องขังผูกคอตาย แล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผู้ต้องหา โดยสิบเวรยืนคุมเชิงอยู่ด้านหน้า ซึ่งใช้เวลาคุยอยู่ประมาณเกือบ 2 นาที หรือประมาณ 100 กว่าวินาที  ซึ่งตอนคุยพูดค่อนข้างเบาทำให้ไม่ได้ยิน


โดย ภาพจากกล้องวงจรปิด ช่วงเวลา 01.27น. บันทึกภาพหลังโทรศัพท์เสร็จแล้ว ร.ต.ต.รุ้งระวี ยังถามว่าอาการปวดท้องเป็นอย่างไร ก่อนขอรับโทรศัพท์คืน แต่ขณะที่ส่งโทรศัพท์คืนให้ ร.ต.ต.รุ้งระวี นายอ้นได้เข้าไปล็อกคอ ร.ต.ต.รุ้งระวี ก่อนปลุกปล้ำกัน ส่วนนายนิพนธ์ ผู้ต้องหาอีกคน ก็วิ่งหนีออกมา


ขณะที่ ตอนนั้น ร.ต.ต.รุ้งระวี ล้มลง นายอ้นก็ออกไปนอกห้อง และถีบ ร.ต.ต.รุ้งระวี จนกระเด็นล้มลง และปิดประตูห้องขัง ล็อกสิบเวรไว้ข้างใน และปิดประตูชั้นนอก พร้อมล็อกกลอน ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะวิ่งหลบหนีออกจาก สน.พญาไท ไปขึ้นรถคันสีแดงที่จอดรออยู่ริมถนนพญาไท


ในเวลานั้น ร.ต.ต.รุ้งระวี ได้ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ ทำให้ร้อยเวรสอบสวนที่ปฏิบัติงานอยู่ชั้นล่างได้ยิน และเข้ามาช่วยเหลือ โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที


จากนั้น ร.ต.ต.รุ้งระวี ก็โทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.หญิง ดรุณี ประเสริฐ รอง ผกก. (สอบสวน) หน.งานสอบสวน สน.พญาไท ที่เข้าเวรอยู่ในห้องสอบสวน ให้มาช่วยเปิดประตูห้องขังให้ โดย ร.ต.ต.รุ้งระวี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย


จากนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ร่วมประชุมกับตำรวจ บก.สส.บชน.เพื่อติดตามสกัดจับคนร้าย โดยโทรศัพท์เข้าไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่คนร้ายโทรหาก่อนแหกห้องขัง ซึ่งคาดว่าเป็นคนเดียวกันกับคนที่ขับรถเก๋งสีแดง พาคนร้ายหลบหนี


โดยคนร้ายใช้เส้นทางถนนมิตรภาพมุ่งหน้า จ.นครราชสีมา ตำรวจโทรนานอยู่หลายชั่วโมง จนคนขับรถยอมรับสาย เจ้าหน้าที่จึงพูดดันกดดัน จนกระทั่งคนขับยอมขับรถเข้าไปที่ สภ.สีดา จ.นครราชสีมา แล้วพาคนร้ายทั้ง 2 คน เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดต่อให้ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท เดินทางไปรับตัวกลับมาสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยอมรับสารภาพ และขอโทษสิบเวรที่ต้องทำให้เดือดร้อน และพร้อมรับโทษ โดยใช้เวลานับตั้งแต่หลบหนีจนขอมอบตัวเกือบ 5 ชั่วโมง


สำหรับพฤติกรรมของคดีนี้คือ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมกับทีม ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมยาไอซ์ 80 กิโลกรัม และได้นำตัวทั้ง 2 มาฝากขังไว้ที่ สน.พญาไท เพื่อสอบสวนขยายผล เนื่องจากที่ บก.สส.บชน.ไม่มีห้องคุมขัง


จากนั้น ช่วงสาย วันที่ 18 ก.ย. 67 ทางชุดสืบสวน บก.สส.บชน.ได้มาเบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปสอบสวนเพื่อขยายผล จากนั้น ได้นำตัวกลับมาส่งช่วง 23.00 น. จากนั้น เวลา 01.30 น. วันที่ 19 ก.ย. 67 คนร้ายได้ลงมือก่อเหตุการณ์หลบหนี


ต่อมา เวลา 13.50 น. ภายหลังจากชุดสืบสวน สน.พญาไท รับตัวผู้ต้องหาทั้งสองมา สน.พญาไท ในช่วงคุมตัวผู้ต้องหาเข้าห้องสืบสวน


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ตั้งใจวางแผนการหลบหนีหรือไม่ นายนิพนธ์ หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวสั้น ๆ ว่า “เปล่าครับ ขอโทษครับ สำนึกผิดแล้วครับ ไม่ได้ตั้งใจทำให้สิบเวรเดือดร้อน ขอโทษด้วยครับ”


เมื่อสอบถามว่า ตั้งใจจะหลบหนีไปไหน นายนิพนธ์ ไม่ตอบคำถามใด ๆ ส่วนนายอ้น ที่คุมตัวขึ้นรถมาอีกคัน ทีมข่าวพยายามสอบถาม แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ


ทีมข่าวได้สอบถาม ร.ต.ต.รุ้งระวี สิบเวรที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุคือช่วงตี 1 กว่า ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากก่อนถูกกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนล้มลงไป ทำให้ตนเองบาดเจ็บฟกช้ำที่เข่า ปวดหลัง ซึ่งตนเองสู้แรงผู้ต้องหาทั้ง 2 ไม่ไหว เพราะทั้งคู่ยังวัยรุ่น


ต่อมา พล.ต.ต. อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เดินทางไปที่ สน.พญาไท เผยว่า หลังแหกคุก มีการตรวจสอบข้อมูลทางการสืบสวนพบว่า สัญญาณโทรศัพท์ที่ใช้มีการเคลื่อนตัวไปทางจังหวัดสระบุรี จึงได้วิทยุสกัดเป็นระยะ กระทั่งทราบจากภรรยาผู้ต้องหาว่า ผู้ต้องหาอยู่แถวอำเภอพล ก่อนจะไปมอบตัวที่ สภ.สีดา ตอนประมาณตีห้า


จากการสืบสวนพบว่า มีรถสีแดงมาจอดรอรับทั้งคู่ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยอมรับว่า ชายรายนี้ เป็นบุคคลที่ช่วยเหลือหลบหนีไป ซึ่งก็จะเป็นการการออกหมายจับต่อไป


จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า วางแผนที่จะหลบหนีซึ่งจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องคือคนที่มารับ และยังต้องตรวจสอบต่อไปว่า มีผู้เกี่ยวข้อง หรือมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจหรือไม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ


โดย กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อให้เกิดความกระจ่าง


ส่วนผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดียาเสพติดส่ง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ส่วนคดีหลบหนีก็แจ้งข้อหาหลบหนีระหว่างคุมขัง ซึ่งจะดำเนินคดีคู่ขนานกันไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xZi8Nabvt3g








คุณอาจสนใจ

Related News