สังคม

เด้งแล้ว! ‘ผอ.สพม.สระแก้ว’ เซ่นปมครูสอบได้ที่ 1 ชื่อหาย – ‘ครูเบญ’ ร้องศธ. รับหมดศรัทธาระบบการสอบ

โดย petchpawee_k

17 ก.ย. 2567

2K views

สพฐ.สั่งเด้งแล้ว! ‘ผอ.สพม.สระแก้ว’ เซ่นปมครูสอบได้ที่ 1 ชื่อหาย ด้านครูเบญ ยื่นหนังสือ รมว.ศธ.ขอความเป็นธรรมปมรายชื่อหาย เผยหมดศรัทธาในระบบการสอบ  

เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.67)  ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)  ลงนามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 2297/2567 เรื่องให้นายประยงค์ สารภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว  รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชำนาญการพิเศษ  ไปปฏิบัติราชการที่สำนักบริหารการมัธยมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.67 เป็นต้นไป จนกว่าคำสั่งจะมีการเปลี่ยนแปลง  โดยเนื้อความในคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีภารกิจหน้าที่การบริหารจัดการศึกษา และพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะด้านคุณภาพมัธยมศึกษาของโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน   ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจงานและโครงการต่างๆ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้สามารถขับเคลื่อนงานตามแนวนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยยึดหลักการบริหารจัดการเชิงบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ ตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ


ในการนี้ เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสามารถบริหารจัดการศึกษาและพัฒนางานการศึกษา ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้เป็นไปตามบริบทของเขตพื้นที่การศึกษา อย่างเรียบร้อยและคล่องตัว รวมทั้งเพื่อให้การบริหารงานด้านคุณภาพมัธยมศึกษาสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจงานสำคัญเร่งด่วนและโครงการตามนโยบายต่างๆ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด  ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ทางราชการเป็นสำคัญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546

จึงให้ นายประยงค์ สารภูมิ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว วิทยฐานะรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชำนาญการพิเศษ ไปปฏิบัติราชการที่สำนักบริหารการมัธยมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอีกหน้าที่หนึ่ง  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567

--------------------------

ขณะที่ ครูเบญญาภา ผู้เสียหายที่สอบบรรจุพนักงานราชการครู ในเขตพื้นที่การศึกษามัธยม(สพม.) สระแก้ว  ได้ลำดับที่ 1  แต่หลังจากนั้น 3 วัน มีการประกาศผลสอบใหม่ และชื่อของครูเบญหายไป  จนเจ้าตัวต้องโพสต์ร้องขอความเป็นธรรม  เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานจัดสอบคือ สพม.สระแก้ว กลับได้รับแค่คำขอโทษ โดยไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น จนเจ้าตัวต้องโพสต์ร้องขอความเป็นธรรม จนกระทั่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง  และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งให้  สพม.สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เยียวยาแก้ปัญหานี้โดยด่วน  ขณะที่ชาวเน็ตก็พากันไปสืบค้นว่า คนที่ได้ลำดับที่ 1 ในการประกาศผลรอบสองนั้น เป็นลูกของ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง    

วานนี้ครูเบญ พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางไปที่กระทรวงศึกษาธิการ   เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรม ถึงพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  กรณีการสอบบรรจุพนักงานราชการครู ของ สพม.จ.สระแก้ว    โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ  ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวง  มารับหนังสือแทน

ครูเบญ บอกว่า  การประกาศผลสอบครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 ก.ย. มีชื่อของตนอยู่ในลำดับ 1 แต่ต่อมาวันที่ 12 ก.ย. มีการแก้ไขประกาศผลสอบใหม่  กลายเป็นว่าไม่มีชื่อของตนอยู่ในลำดับที่ 1-10 ของผู้สอบผ่านเลย จึงมีความสงสัยว่า มีการทุจริตหรือไม่ และตนก็ไม่ได้รับคำชี้แจงใด ๆ มีเพียงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่บอกว่า เกิดความผิดพลาดที่ข้อสอบ จึงมีการเปลี่ยนผลคะแนน จึงนำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อร้องขอความเป็นธรรม  แต่หลังจากโพสต์ไปแล้ว ก็มีผู้ใหญ่ในพื้นที่  โทรมาข่มขู่ให้ลบโพสต์ดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวล  จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐมนตรี  ส่วนที่มีการติดต่อเยียวยาให้ไปรับตำแหน่งครูอัตราจ้างในโรงเรียนใกล้บ้านนั้น  ไม่ขอรับ จะขอรอผลการตรวจสอบก่อน เพราะเชื่อมั่นว่า ทำข้อสอบได้   ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่า คะแนนของตนมาเป็นอันดับ 1 จริง ก็ขอให้เยียวยาโดยการบรรจุให้เป็นพนักงานราชการ  แต่หากคะแนนไม่ถึงอันดับ 1   ก็จะยอมรับผล ตอนนี้ขอแค่ให้ความจริงปรากฏ  เพราะที่ผ่านมา ไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน  

ขณะเดียวกัน วานนี้ (16 ก.ย.67) นายประยงค์ สารภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา หรือ สพม.จ.สระแก้ว  ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการโหนกระแส  โดยเป็นการให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก  ใช้เวลานานในการพูดชี้แจง แต่ไม่มีความชัดเจนใดๆ  จน ดร.พัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มาออกรายการด้วย ต้องบอกว่า "ให้ตอบให้ตรงคำถาม อย่าพูดจายืดยาว เรื่องบางเรื่องไม่ต้องขยายความให้มันยาว"


สุดท้าย ผอ.ประยงค์ ยืนยันว่า  คนที่ได้ลำดับที่ 1 ในประกาศผลรอบ 2 เมื่อวันที่ 12 ก.ย. คือ น.ส.ปิยะ ซึ่งมีเลขประจำตัวสอบ คือ 020 สอบได้ลำดับที่ 1 ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  ส่วนครูเบญ ซึ่งมีเลขประจำตัวสอบ คือ 021 สอบไม่ผ่านตั้งแต่แรก  แต่เจ้าหน้าที่ทำงานผิดพลาด  ไปหยิบชื่อของครูเบญมาใส่แทนรายชื่อคนสอบผ่าน  เพราะในบัญชีประมวลผล มีการรวมคนที่ผ่านและไม่ผ่าน อยู่ในบัญชีเดียวกัน  เจ้าหน้าที่จึงหยิบรายชื่อมาผิดพลาดและประกาศผลรอบแรกผิดพลาด  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการไปตรวจสอบในแถลงการณ์ของ สพม.สระแก้ว  ที่ชี้แจงไว้เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ในแถลงการณ์อธิบายว่า หลังจากมีคนร้องเรียน จึงทบทวนข้อสอบและคำตอบ  แล้วพบว่ามีการเฉลยคำตอบที่ไม่ถูกต้อง และเฉลยสลับข้อ ทำให้คะแนนของผู้สอบ มีความคลาดเคลื่อนและลำดับที่ของผู้ผ่านการสอบ เปลี่ยนแปลงไป  มีทั้งลำดับคงเดิม สูงขึ้นและลดลง

ในแถลงการณ์ยังบอกด้วยว่า สพม.สระแก้ว เป็นเขตพื้นที่การศึกษาใหม่  จึงขาดแคลนบุคลากรที่ดำเนินการสอบ และบุคลกรส่วนใหญ่เป็นผู้บรรจุใหม่ จึงยังขาดประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว  แต่เมื่อ ผอ.ประยงค์มาตอบในรายการโหนกระแส กลายเป็นเหตุผลว่า เจ้าหน้าที่หยิบชื่อผิด คือ หยิบชื่อคนสอบไม่ผ่าน มาแปะไว้ในรายชื่อคนสอบผ่าน ดังนั้น จึงไม่ใช่เหตุผลเรื่องการเฉลยข้อสอบผิดพลาด

เมื่อทีมข่าวไปตรวจสอบตารางรายชื่อผู้สอบผ่าน ที่ประกาศรอบแรกวันที่ 9 ก.ย. เทียบกับตารางรายชื่อคนสอบผ่านที่ประกาศในรอบแก้ไข วันที่ 12 ก.ย. พบว่า

การประกาศรอบแรก มีชื่อของครูเบญ สอบติดอันดับที่ 1 แต่ไม่มีชื่อ น.ส.ปิยะ ในจำนวนผู้สอบผ่านเลย   ส่วนการประกาศผลรอบแก้ไข มีชื่อ น.ส.ปิยะได้คะแนนลำดับ 1 และไม่มีชื่อของครูเบญเลย ส่วนคนที่ได้ลำดับ 2 , 3  และ 10 อันดับยังคงเท่าเดิม  แต่คนที่ได้ลำดับที่ 4-9 ลำดับมีการสลับขึ้น-ลง  จึงทำให้มีคำถามตามมาว่า หากเหตุผลความผิดพลาดเกิดจากเจ้าหน้าที่หยิบชื่อผิดระหว่าง น.ส.ปิยะ กับครูเบญ ไม่ใช่ความผิดพลาดจากการตรวจสอบข้อสอบ แต่ทำไมผู้เข้าสอบลำดับอื่นๆ จึงขยับขึ้นลงเปลี่ยนไปด้วย ทำให้ยังเกิดความคลุมเครือไม่ชัดเจนว่า ความผิดพลาดในเรื่องนี้ เกิดจากเหตุผลอะไรกันแน่

ขณะที่ครูเบญ บอกว่า  ในวันที่ตนทำข้อสอบ ตนมั่นใจว่าทำข้อสอบได้ และสอบผ่าน  แต่หากบอกว่าตนสอบไม่ผ่านตั้งแต่แรกจริงๆ  ตนก็ยินดีจะให้เปิดเผยข้อมูลการสอบ เพื่อจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง และหากเป็นความผิดพลาดเพราะเหตุผลนี้ตั้งแต่แรก เจ้าหน้าที่ก็ควรจะอธิบายให้คำตอบได้ตั้งแต่ในวันแรก ไม่ควรปล่อยเวลาล่วงเลยมา 3-4 วัน  อีกทั้งไม่ควรที่จะเกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้ เพราะก่อนประกาศรายชื่อ ก็มีเจ้าหน้าที่หลายระดับในการตรวจสอบ  สูงสุด คือ ผอ.สพม.สระแก้ว

ครูเบญ บอกอีกว่า ความรู้สึกศรัทธาที่มีต่อระบบการสอบบรรจุข้าราชการครูลดลง  ส่วนแผนหลังจากนี้ กำลังคิดว่าจะสอบบรรจุข้าราชการครูอีก หรืออาจเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น และบอกด้วยว่า ไม่ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นไรก็พร้อมรับ และขอรอข้อสรุปที่ชัดเจนจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สพฐ.ก่อน  รวมถึงการเยียวยาด้วย  ต้องชัดเจนเป็นคำสั่งทางการ ไม่ใช่การระดมทุนเป็นอัตราจ้างสอนชั่วคราว

ด้านนายพิเชษฐ์ พิมพา ผอ.ป.ป.ช.สระแก้ว ผู้ที่เข้าไปตรวจสอบเอกสารเรื่องนี้ บอกว่า ได้นำเอกสารทั้งหมดมาไว้กับ ป.ป.ช.แล้ว  โดยในวันที่เข้าไปเอาเอกสารมา ได้เห็นเอกสารตัวจริงแล้ว แต่เนื่องจาก สพฐ.เองก็ต้องตั้งกรรมการตรวจสอบด้วย ทาง ป.ป.ช.จึงคัดเป็นสำเนามา ยืนยันว่าได้ตรวจสอบความถูกต้องของพยานหลักฐาน ว่าเป็นหลักฐานจริง ดูจากกล่องเอกสาร ว่ามีการปิดผนึกซีลมาอย่างดี มีการเซ็นทับตามหลักการขั้นตอน

แต่ในส่วนของกล้องวงจรปิดหน้าห้องเก็บข้อสอบ ทราบว่าทาง สพม.สระแก้ว ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ซับซ้อน ไม่ช้าก็จะเอาข้อเท็จจริงออกมาเปิดเผยได้ว่า สรุปแล้วเป็นอย่างไร


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/lMld2fjc3pw

คุณอาจสนใจ

Related News