ยังไม่พบแรงงานเมียนมาอีก 30 กว่าราย นั่งเรือโดยสาร สปป.ลาวล่มกลางแม่น้ำแม่โขง

เช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวสอบถาม พันตำรวจเอกถนัด ชุ่มมะโน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงแสน จังหวัดเชียงราย หลังช่วงเย็นวันที่ 2 กันยายน 2567 บริเวณเขตบรรจบแม่น้ำรวก กับแม่น้ำโขง ชายแดนไทย – เมียนมา – สปป.ลาว ของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ตรงข้ามบ้านสบรวก หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน เรือฝั่งสปป.ลาวจากท่าเรือมังกร เขตเศรษฐกิจพิเศษจีน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้ระดมเรือเร็วหลายลำ เข้าช่วยกลุ่มแรงงานเมียนมา ชาย-หญิง สัญชาติเมียนมา ที่ลอยตัวไหลมากับแม่น้ำแม่โขง ที่ไหลเชี่ยวกราก จำนวน 10 คน ขึ้นเรือได้สำเร็จ



โดยพันตำรวจเอกถนัด ชุ่มมะโน บอกว่า ก่อนหน้าที่จะมีการช่วยเหลือแรงงานเมียนมาเหล่านั้น รับรายงานช่วงเย็นวันเดียวกัน สาเหตุมาจากเรือโดยสารของฝั่งสปป.ลาว ที่บรรทุกแรงงานชาย-หญิงสัญชาติเมียนมา จากพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจีน รวมประมาณ 50 คน ได้ขับแล่นทวนกระแสน้ำแม่น้ำแม่โขง เพื่อจะนำแรงงานทั้งหมดไปขึ้นฝั่งที่ ท่าเรือบ้านโป่ง ตำบลเมืองพง จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม จุดเกิดเหตุห่างจากชายแดนบ้านสบรวกฝั่งไทย ประมาณ 3-4 กิโลเมตร



อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเย็นวันวานถึงเช้าวันนี้ ( 3 กันยายน 2567 ) ได้กำชับ ส่วนกำลังพลในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงชายแดนไทย ให้คอยสังเกตริมฝั่งแม่น้ำแม่โขง ด้วยร่องน้ำจะไหลชิดแนวตลิ่งฝั่งไทย ช่วยตรวจหาผู้สูญหาย หรือผู้รอดชีวิต โดยล่าสุดยังไม่มีรายงานการตรวจพบแต่อย่างใด