ปากเกร็ดวางกระสอบทราย รับมือน้ำเจ้าพระยา - ชาวบางบาลเร่งตัดกล้วยหอม หนีน้ำมาเร็ว

วานนี้ (2 ก.ย. 67) เวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนมัสยิดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบว่าในคืนที่ผ่านมา (2 ก.ย. 67) น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนชุมชนริมฝั่งแม่น้ำซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง

นางเรียม บุญประเสร็ฐ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน เล่าว่าวันนี้ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงกว่าทุกวัน และขึ้นเร็ว น้ำได้เข้าท่วมตามชุมชน ซึ่งที่บ้านของตนได้ยกของขึ้นที่สูงแล้วก่อนหน้านี้ แต่วันนี้ น้ำมาเร็วมากได้เข้าท่วมตามชุมชนซึ่งทุกวันที่ผ่านมา น้ำไม่ขึ้นสูงขนาดนี้

--------------

ในวันเดียวกัน เวลา 17.00 น. นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ร่วมสังเกตการณ์การวางแนวกระสอบทราย เพื่อสร้างแนวคันกั้นน้ำ (ชั่วคราว) บริเวณชุมชนหมู่ที่ 9 ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ พนักงาน-เจ้าหน้าที่ อบต.ท่าอิฐ เร่งบรรจุกระสอบทรายสร้างแนวกั้นน้ำ

น.ส.ธรรณญพรรศ ศรีโพธิ์ ปลัด อบต.ท่าอิฐ กล่าวว่า วันนี้ ทีมงานได้ลงทำงานตั้งแต่เช้า ในจุดแรก ซึ่งท่านนายกเทศมนตรีได้สั่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะเดือดร้อน 2 ตำบล พอทำแนวตรงนี้เสร็จเรียบร้อย ก็จะไปลงที่แนวอื่น

ตอนนี้ หมู่10 มัสยิด น้ำขึ้นแล้ว แต่ยังมีน้ำขึ้น - ลงอยู่ ก็ยังพอที่จะประคองสถานการณ์ได้ ในจุดของวันนี้ ที่ลงก็เป็นแนวกั้นเดิมซึ่งมันมีระยะทางประมาณ 400 เมตรก็ลงกระสอบไป 30 คิว ซึ่งก็จะเร่งทําให้เสร็จภายในไม่เกินวันที่ 4 ก.ย. นี้ แล้วก็ต่อไปก็น่าจะเป็นการติดตามสถานการณ์แล้ว

--------------

ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งฝนยังคงไปตกหนักอยู่ในพื้นที่อำเภอบางบาล หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เริ่มส่งผลทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบ

โดยพบว่าที่ ม.6 ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในคลองบางหลวง แม่น้ำน้อย ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำพระยา ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายของไว้บนบ้าน ไว้ในเรือ ไว้ที่สูงป้องกันความเสียหาย

นายสมคิด กิจนิยม อายุ อายุ 68 ปี ชาวบ้านพื้นที่ หมู่ 7 ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อาศัยอยู่กับพี่ชาย 2 คน ต้องช่วยกันเก็บของ ซึ่งข้าวของเครื่องใช้ และอุปกรณ์ตัดผม ขึ้นเอาไว้ที่สูงหลังน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านสูงประมาณ 1 เมตร

นายสมคิด บอกว่า ระดับน้ำท่วมตลิ่งมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งก็ค่อย ๆ เก็บของเรื่อยมา จนเมื่อคืนวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา น้ำสูงขึ้นประมาณ 50 เซนติเมตร ส่วนพืชผักสวนครัว ที่ปลูกเอาไว้เสียหายทั้งหมด ส่วนพี่ชายของตนเองมีอาชีพเป็นช่างตัดผมช่วงนี้ก็ขาดรายได้ไม่สามารถให้บริการตัดผมได้

--------------

ย้อนกลับไป เมื่อคืนวันที่ 1 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าคลองบางหลวง ผ่านตำบลบางหัก อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้น้ำในคลองบางหลวงขึ้นสูงเกือบ 50 เซนติเมตร ไหลล้นตลิ่ง เข้าท่วมสวนกล้วยหอม พืชเศรษฐกิจสำคัญของชาวอำเภอบางบาล

ต้นกล้วยหอมที่กำลังออกเครือใกล้ตัดผลผลิตขาย ถูกน้ำท่วมจมเสียหาย ชาวบ้านต้องแก้ปัญหาโดยตัดกล้วยออกมาขายก่อนกำหนด เพื่อถอนทุนคืน

ป้าจงกล ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 71 ปี เกษตรการปลูกกล้วยหอม และปลูกพืชผักสวนครัว ขายในตำบลบางหัก อำเภอบางบาล เผยว่า สภาพน้ำแบบนี้ ต้องยอมรับสภาพเจอมาทุกปี ยอมให้พ่อค้าคนกลางตัดราคาจากสภาพกล้วยที่ตัดขายก่อนกำหนด เนื่องจากปีนี้น้ำมาเร็ว และไวกว่าทุกปี ทำให้กล้วยหอมที่ปลูกไว้กว่า 2 ไร่ 800 กว่าต้น ถูกน้ำท่วมเสียหายอยู่ในขณะนี้

ขณะที่ สวนกะเพรา สวนผักโหระพา ของป้าจงกล ที่ปลูกไว้เก็บขายได้วันละ 100 - 150 บาท ทุกวัน ก็ได้ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายตามไปด้วยเหมือนกับชาวบ้านรายอื่น ๆ ที่ถูกน้ำท่วม จนพืชสวนได้รับความเสียหาย

--------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pfC9ryDjJt0