สังคม
ฝนถล่มภาคเหนือ เร่งระบายน้ำยม รับมือฝนรอบใหม่ - อยุธยา เจอน้ำท่วมขยายวงกว้าง 3 อำเภอ
โดย nattachat_c
2 ก.ย. 2567
463 views
สถานการณ์น้ำท่วมของประเทศไทยยังไม่คลี่คลายดี ล่าสุด ภาคเหนือเกิดฝนตกหนัก จนทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วม สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน และทรัพย์สิน ของชาวบ้านเป็นอย่างมาก
จังหวัดเชียงใหม่
วานนี้ (1 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้คลิปจากชาวบ้านที่ ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ถ่ายภาพเหตุการณ์ระทึก นาทีน้ำป่าจากดอยสูงไหลทะลักเข้ามาในหมู่บ้านอย่างไม่ทันตั้งตัว ช่วงกลางดึก ประมาณตีหนึ่ง ของวานนี้ (1 ก.ย. 67)
ในคลิปจะเห็นว่ากระแสน้ำเชี่ยวกราก มีสีแดงขุ่นจากตะกอนดิน ไหลบ่าเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนหลายสิบหลัง ทำให้ชาวบ้านพากันตกใจ ตื่นมาขนย้ายข้าวของ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ก็ทำเอาทุกคนอกสั่นขวัญแขวน เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
เจ้าของคลิป เปิดเผยว่าช่วงประมาณตี 1 ระดับน้ำในลำน้ำแม่สาที่ไหลลงมาจากน้ำตกแม่สา ผ่านเข้ามาในหมู่บ้านได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งลูกบ้านให้เตรียมตัวรับมือ และขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง น้ำป่าทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน กระแสน้ำแรงและยังพัดพาเอาดินโคลนเข้ามาด้วย
ช่วงประมาณตี 4 ระดับน้ำสูงกว่า 1.5 เมตร ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดลงในช่วงเช้า ทิ้งร่องรอยความเสียหาย และเศษดินโคลนไว้ ขณะที่ บ้านบางหลังยังมีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านเร่งสูบน้ำออกตลอดทั้งวัน โดยน้ำท่วมครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงในรอบหลายปี แม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว แต่ชาวบ้านยังกังวล และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะยังมีกลุ่มฝนปกคลุม กลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม
ในวันเดียวกัน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำป่าจากดอยสูงใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ไหลหลากลงสู่แม่น้ำแม่ริมอย่างกะทันหัน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหมู่บ้าน ริมสองฝั่งแม่น้ำแม่ริม
นายวัชระ เทพกัน นายอำเภอแม่ริม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พร้อมกับช่วยชาวบ้านเก็บเศษท่อนไม้ และเศษสวะที่ลอยมาติดค้างบริเวณตอม่อสะพานบ้านท้องฝาย เพื่อเปิดทางไหลของน้ำ พร้อมเข้าตรวจสอบผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน โดยระบุว่า ฝนตกหนักที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำแม่ริม และลำน้ำแม่สาเพิ่มสูงขึ้น จนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างกะทันหัน
ตอนนี้ ฝ่ายปกครองร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว และสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.แม่ริม จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากยังพบกลุ่มเมฆฝนอยู่
-------------
จังหวัดลำปาง
เวลา 21.00 น มีรายงานว่า หลังจากมีฝนตกหนักบริเวณตอนเหนือของจังหวัดลำปาง เขตพื้นที่อำเภอวังเหนือ และอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ก็มีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนกิ่วคอหมา มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน อย่างต่อเนื่อง
ทำให้ล่าสุดขณะนี้น้ำในเขื่อนกิ่วคอหมานั้นมีความจุ มากถึง 92% แล้ว หรือปริมาณ น้ำที่ 157 ล้าน ลบ.เมตร และเขื่อนกิ่วลมเมือง ลำปาง มีความจุมากกว่า 73% หรือ 73 ล้าน ลบ.เมตร ทำให้ทางเขื่อนกิ่วลมอำเภอเมืองจังหวัดลำปางต้องเร่งระบายน้ำในเขื่อนออก โดยมีปริมาตรการปล่อยน้ำ 116 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีไปจนถึง 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ จะทำให้ระดับน้ำวัง ในเขตเทศบาลนครลำปาง สูงขึ้นประมาณ 1.50 เมตร
โดยจากการที่มีการปล่อยน้ำมากเพิ่มขึ้นนั้น จะมีผลกระทบกับชุมชนในเขต เทศบาล นครลำปาง พื้นที่ตำบลเวียงเหนือ ถนนทางเรียบแม่น้ำวัง บริเวณพระแก้ว ชุมชนท่านางลอย ชุมชนท่ามะโอในเขตเทศบาลนครลำปาง ซึ่งขอให้ประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำวังเตรียมพร้อมกับสถานการณ์น้ำท่วม ในบางพื้นที่ไว้ด้วย
นอกจากนี้ ยังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 90 มิลิเมตร ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมาสมทบลำน้ำแม่เตาะ เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก พบว่า มีบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มต่ำใกล้ลำห้วย ได้รับความเสียหายประมาณ 6 หมู่บ้าน ร่วม 50 หลังคาเรือน
-------------
จังหวัดสุโขทัย
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม มวลน้ำยังคงไหลล้นจุดตลิ่งขาดกว่า 50 เมตร บริเวณบ้านวังโพธิ์ หมู่ที่ 5 ต.ยางซ้าย อ.เมือง จ.สุโขทัย ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน 188 ครอบครัว ของพื้นที่บ้านวังโพธิ์ ซึ่งมวลน้ำยังไหลบ่าข้ามถนนที่เชื่อมระหว่าง หมู่ที่ 5 และ หมู่ที่ 9 ของ ต.ยางซ้าย ยาวเกือบ 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านใช้ถนนในการสัญจรได้เลนเดียว เนื่องจากเลนฝั่งซ้ายที่อยู่ด้านผนังขาดมวลน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร ต้องมาใช้เลนขวาซึ่งระดับน้ำต่ำกว่า
-------------
จังหวัดพิษณุโลก
ที่ประตูระบายน้ำบ้านใหม่โพธิ์ทอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วย นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำยม โดยการระบายน้ำของลุ่มน้ำยม-น่าน และแม่น้ำยมสายเก่า
หลังจากน้ำที่จังหวัดสุโขทัย มีการระบายน้ำผ่านคลองตะเข้ หมู่ที่ 6 ตำบลกกแรด อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย และมีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำบ้านใหม่โพธิ์ทอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเร่งระบายน้ำลุ่มน้ำยมออกไปให้เร็วที่สุดเนื่องจากมีการประเมินสถานการณ์ในเดือนกันยายนนี้ มีโอกาสจะมีปริมาณฝนลงจำนวนมากลงมาในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในลุ่มน้ำยม ดังนั้น การเล่นระบายน้ำออกไปเพื่อให้ลุ่มน้ำยมมีประสิทธิภาพด้านการระบายน้ำในช่วงเวลาดังกล่าว
การบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีทุ่งหน่วงน้ำบางระกำโมเดล ปัจจุบัน เก็บเกี่ยวแล้ว 100 % และรับน้ำเข้าทุ่งบางระกำแล้ว 99,783 ไร่ ปริมาณน้ำ 138.20 ล้าน ลบ.ม (34%) ซึ่งรับน้ำได้ 400 ล้าน ลบ.ม
ทั้งนี้ ระดับแม่น้ำน่านได้ลดลง ซึ่งการระบายน้ำแม่น้ำยมจะมีการผันน้ำบางส่วนลงในแม่น้ำน่านด้วย
-------------
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สถานการณ์น้ำท่วม ได้ขยายเป็นวงกว้าง กินพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ และอำเภอบางบาล
โดยเฉพาะที่อำเภอบางบาล น้ำในแม่น้ำน้อย ไหลบ่าเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านจมน้ำหลายเส้น กระแสน้ำไหลทะลักอ้อมเข้าทางด้านหลังวัดตะกู ไหลมาลงบริเวณด้านข้างของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนวัดตะกู กำลังจะเข้าท่วมถนนเส้นทางหลักเข้าหมู่บ้านในเวลาอันใกล้นี้
ในขณะที่ น้ำจากแม่น้ำน้อยยังทะลักท่วมชุมชนวัดอินทาราม หมู่ 9 ตำบลวัดตะกู ของอำเภอบางบาล ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ถนนทางเชื่อมในหมู่บ้านจมน้ำ ทำให้การเข้าออกเริ่มเป็นไปอย่างยากลำบาก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุอยู่เฝ้าบ้าน ต้องลอยคอออกมาเก็บของไว้บนที่สูงหนีน้ำไปอยู่บนที่ปลอดภัย ระบบการผลิตน้ำประปาของหมู่บ้านถูกน้ำท่วม ทำให้การผลิตน้ำอุปโภคบริโภคไม่ได้
-------------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/H4NHtRC77uQ