สังคม

คุณภาพชีวิต! เด็ก ป.6 โดนไฟดูดคาป้ายรถเมล์ เอ็นนิ้วเกือบขาด - กทม.ยันไม่มีไฟรั่ว จ่อตรวจทั่วกรุง

โดย nattachat_c

16 ส.ค. 2567

14 views

เด็กนักเรียนชั้น ป.6 วัย 11 ปี ถูกไฟดูดที่ป้ายรถเมล์สุขุมวิท 71 ก่อนสะบัดมือโดนขอบตู้ไฟ นิ้วก้อยซ้ายเอ็นเกือบขาด แพทย์ผ่าตัดพบเส้นประสาทเสียหายเล็กน้อย ย่าเล่านาทีเกิดเหตุ ก่อนพาหลานนั่งวิน จยย.ไป รพ. หลานหน้าซีด ร้องเจ็บตลอดทาง

พ่อเด็กลั่น เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น จุดที่คิดว่าปลอดภัยแต่กลับอันตราย ตั้งคำถาม แล้วเด็กจะไว้ใจ กทม. ไว้ใจโลก ได้อย่างไร ด้าน กทม.ลงพื้นที่ทดสอบ ยืนยันไม่มีไฟรั่ว แต่ต้องรอหาสาเหตุที่แท้จริง จ่อแก้ไขทุกศาลาพักผู้โดยสารทั่วกรุงฯ บอกจะพูดว่าวัวหายล้มคอกก็ได้ ระบุพร้อมเยียวยาเต็มที่


วานนี้ (15 ส.ค. 67) เพจ อีซ้อขยี้ข่าว 3 โพสต์ภาพเด็กนักเรียนชั้น ป.6 ทราบชื่อ คือ เด็กชายฉัตติณ หรือน้องฌอนห์ อายุ 11 ปี ถูกไฟดูด โดยกระแสไฟมาจากตู้ไฟที่อยู่หน้าป้ายรถเมล์ ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 15-17 บนสุขุมวิท 71 เมื่อพอไฟดูดแล้ว น้องสะบัดมือออก จนไปโดนขอบตู้เหล็กที่เป็นสแตนเลสบาดนิ้วก้อยซ้าย จนเอ็นขาดต้องผ่าตัด


เพจ อีซ้อขยี้ข่าว 3 โพสต์ภาพพร้อม ข้อความระบุว่า “เด็กนักเรียนชายถูกไฟดูดที่เสา แล้วสะบัดมือออกไปโดนเหล็กบาดจนเอ็นขาด บริเวณป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 (กรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว )”


อีซ้อขยี้ข่าว 3 เขียนเพิ่มว่า “ป้ายรถเมล์ ถนนสุขุมวิท 71 ลูกชายโดนไฟดูด แล้วสะบัดมือไปโดนเหล็กบาด เอ็นขาด รอเย็บ ค่าใช้จ่าย 85,000 ขอบคุณ กทม.”

-------------

วานนี้ (15 ส.ค.67) เวลา 19.30 น. ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า จุดพักรอรถเมล์ดังกล่าว มีตู้ไฟอยู่ฝั่งซ้ายที่นั่ง 1 ตู้ โดยมีฝาปิดเพียง 1 ฝา ซี่งตู้เป็นตู้สแตนเลสฝั่งขวาของตู้ที่ติดกับที่นั่งรอรถ ไม่มีฝาปิด จากการสังเกต ขอบตู้มีลักษณะค่อนข้างคม แถมจุดเกิดเหตุที่น้องนักเรียนถูกไฟดูด ก่อนสะบัดข้อมือไปโดนขอบตู้จนเอ็นนิ้วมือขาดนั้น มีรอยเลือดที่แห้งแล้ว ติดอยู่บนพื้น


ขณะเดียวกัน เมื่อเริ่มค่ำ ไม่มีผู้คนแล้ว สอบถามผู้คนแถวนั้น บอกว่า ไม่เคยมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น และส่วนใหญ่ ตอนค่ำ ร้านต่าง ๆ ปิดไปหมดแล้ว


พร้อมกันนี้ จากการสังเกตจะพบว่า ป้ายรถเมล์จุดดังกล่าว ไม่มีป้ายระบุสายรถเมล์ และเส้นทางการเดินรถอีกด้วย


ทีมข่าวได้คุยกับ นายฉันพชร อายุ 39 ปี พ่อของน้องฌอนห์ และ คุณย่ากันทิมา  อายุ 77 ปี  คุณย่าของน้องฌอนห์


โคุณย่ากันทิมา เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ เป็นเวลาประมาณ 16.24 น. ก่อนเกิดเหตุ คุณย่าไปรับน้องฌอนห์ที่โรงเรียน ซึ่งปกติจะมีรถมารับ แต่วันนั้น น้องมีเพื่อน ๆ เดินมาที่ป้ายรถเมล์ด้วย ซึ่งเพื่อน ๆ จะไปขึ้นรถเมล์ไปคลองตัน และพัฒนาการ น้องฌอนห์จึงนั่งรอส่งเพื่อนตรงป้ายรถเมล์ ซึ่งนั่งติดกับตู้ไฟพอดี


พอนั่งไปสักพัก น้องฌอนห์ร้องโอ๊ยขึ้นมา พร้อมบอกกับย่าว่าโดนไฟดูด พอน้องเอามือให้ดู ก็งงว่าทำไมมีเลือดเต็มเลย ก่อนจะให้ดูที่นิ้วก้อยซ้าย ตอนที่เห็นครั้งแรกเหมือนกับนิ้วแตก น้องก็ร้องไห้ ในขณะที่เลือดไหลเต็มไปหมด คุณย่าจึงเอาผ้ามาพันไว้ เพื่อนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป รพ. ซึ่งระหว่างไป รพ. น้องก็หน้าซีด เหมือนจะเป็นลม พร้อมร้องตลอด แล้วบอกกับย่า “เจ็บๆๆ” ตลอดทาง เราก็ได้แต่ปลอบว่า “ใจเย็น ๆ ลูก เดี๋ยวก็ถึง รพ.แล้ว”


คุณย่า ยังบอกอีกว่า ตอนนั้น ไม่ได้สังเกตว่าเป็นตู้ไฟ น่าจะพอนั่งปุ๊ป ตรงข้อศอกน่าจะไปโดนตู้ไฟ แล้วพยายามปัดมือจนไปโดนขอบตู้ไฟ ซึ่งคมมาก ๆ พอเกิดเรื่องขึ้น เป็นอะไรที่ตกใจมาก มองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น แถมตอนเกิดเหตุเด็กไม่ได้เล่นซุกซนกัน


คุณย่า กล่าวต่อว่า พอมาถึง รพ. คุณหมอให้น้องลองขยับนิ้วมือ ซึ่งก็ขยับได้น้อยเพราะเจ็บ ก่อนที่หมอกระดูกมาเช็กดู ปรากฏว่า ตอนนั้น คุณหมอบอกว่าน่าจะมีเอ็นขาดตรงนิ้วก้อยจึงต้องผ่าตัด 


ทั้งนี้ ยังมีความรู้สึกด้วยว่า ทุกวันนี้ รอบ ๆ ตัว ลูก ๆ หลาน ๆ มันไม่ค่อยปลอดภัย  ยิ่งเด็กเพิ่งจะ ป.6 ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ ย่าจึงเดินไปรับ และถ้าหากเราไม่อยู่ตรงนั้น เขาจะทำอย่างไร

-------------

ขณะที่ นายฉันพชร คุณพ่อของน้องฌอนห์ กล่าวว่า ตอนที่เข้าไปดูเป็นเวลา 19.30 น. ตอนนั้น ยังผ่าตัดไม่เสร็จ กระทั่งเวลาประมาณ ประมาณ 21.30 น. คุณพ่อได้ส่งภาพบาดแผล พร้อมอัพเดตว่า ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าเอ็นไม่ขาด แต่มีเส้นประสาทเสียหายนิดหน่อย หมอได้เย็บเรียบร้อยแล้ว


พ่อของน้องฌอนห์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น ทางโฆษก กทม. มีการโทรศัพท์มาขอโทษแล้ว พร้อมบอกว่าจะรับผิดชอบเยียวยา แต่ส่วนตัวมองว่า ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเยียวยาอย่างไร ส่วนค่ารักษาพยาบาลตอนนี้ ชำระไปแล้ว 50,000 บาท ไปการจ่ายมัดจำไปก่อน เพราะยอดทั้งหมดคือ 85,000 บาท


พ่อของน้องฌอนห์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ แต่มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากว่ามีสิ่งของที่ชำรุด และอยู่ติดกับที่นั่ง เราไม่รู้หรอกว่า เด็ก หรือผู้ใหญ่ จะโดน


สิ่งที่อันตรายคือ เรื่องของการโดนไฟดูด หากสะบัดไม่ทัน เราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ เหตุการณ์นี้คือเด็กเขาเหนื่อย เขาจึงไปนั่งพัก ไปนั่งรอตรงจุดนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นจุดที่อันตราย แล้วจะทำให้เขาไว้ใจ กทม. หรือไว้ใจโลก ที่เขาอยู่ได้อย่างไร

-------------

ย้อนกลับไปเวลาประมาณ 20.00 น. ทีมข่าวสอบถามไปยัง นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. ซึ่งขณะนั้น ขออนุญาตตรวจสอบเบื้องต้น


ก่อนที่ในเวลา 21.30 น. พบว่า เจ้าหน้าที่ กทม. ประกอบด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. / นายเอกวรัญญู โฆษก กทม. / นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. ซึ่งเป็นคนที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง พร้อมด้วยเจ้าหน้าทีการไฟฟ้า มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ


โดยนายสิทธิพร ได้ยืนยัน พร้อมพิสูจน์ให้ดูว่า “จุดดังกล่าวไม่มีไฟรั่ว” ก่อนจะให้เจ้าหน้า กทม. รับปรุงจุดดังกล่าว โดยเช็กซ้ำที่ตู้ไฟ เพื่อความปลอดภัยอีกครั้ง ก่อนจะมีการเอาพลาสติกมาหุ้มตรงขอบสแตนเลสไว้ป้องกันความคม ส่วนทั้งตู้เอาไวนิลคลุมไว้ชั่วคราวก่อน 


จากนั้น นายวิศณุ ระบุว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่า ไม่มีไฟรั่ว แต่ต้องตรวจสอบโดยละเอียดต่อไ


ขณะที่ นายสิทธิพร เสริมว่า ได้ตรวจระบบแล้ว ทั้งระบบ RCD (เซฟตี้คัต) ยังทำงานปกติ หากไฟรั่ว หรือมีคนจับแล้วไฟดูด ตัวอุปกรณ์จะตัดไฟทันที


เมื่อถาม หากตรวจสอบเบื้องต้น บอกว่า ไม่มีไฟรั่ว มีการตั้งสมมุติฐานหรือไม่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ นายวิศณุ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นคนย้ำอีกครั้งว่า  ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องดูกันอีกที และต้องถามเด็กด้วยว่า เกิดขึ้นอย่างไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เด็กบาดเจ็บ


ส่วนการเยียวยานั้น เรามีสัญญาจ้างดูแลศาลาพักผู้โดยสารอยู่แล้ว หากเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าเป็นไฟช็อต-ไฟรั่ว ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนจะมากน้อยขนาดไหน ขอไปดูก่อน


นายวิศณุ กล่าวว่า จากนี้ ต้องมีการตรวจสอบ และแก้ไขทุกจุด 1,400 กว่าจุด โดยเฉพาะฝาที่เปิดอยู่ เนื่องจากว่าถูกขโมย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จะเรียกว่าวัวหายล้อมคอกก็ได้


นายวิศณุ ยังระบุว่า ขอแสดงความเสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และจากนี้ก็ต้องป้องกัน และ ฝากประชาชนเป็นหูเป็นตาด้วย หากมีอะไรบกพร่อง สามารถแจ้งเข้ามาได้


ด้าน นายเอกวรัญญู โฆษก กทม. ยืนยันว่า พร้อมรับผิดชอบเยียวยาเต็มที่ เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จ เจ้าหน้าที่ กทม. ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กที่ รพ. ต่อ

-----------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/lc40BRCokic




คุณอาจสนใจ