สังคม

ปฏิเสธทุกข้อหา 2 ตำรวจชลบุรี รีดเงินชาวจีน 7 แสน แฉหนึ่งในผู้ต้องหา ดีกรีนักร้อง สตช.

โดย petchpawee_k

24 ก.ค. 2567

17 views

จับ 2 ตำรวจ  รีดเงินชาวจีน 7 แสน หลังตามเจอคนจีนผู้เสียหายหนีกบดานที่พัทยา คุมสอบปากคำ ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น พบหนึ่งในผู้ต้องหา เคยร้องเพลงโปรโมทงานตำรวจ


จากกรณีเจ้าของธุรกิจรถเช่า นำคลิปร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด ว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา  มีลูกค้าชาวจีน 2 คน ว่าจ้างรถพร้อมคนขับ ให้ไปรับจากท่าอากาศยานเชียงรายมาส่งที่พัทยา  แต่ระหว่างที่เดินทางมาถึงบริเวณด่านเก็บเงินบนถนนมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7) ฝั่งขาเข้าพัทยา มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ขับรถมา 2 คัน คันแรกขับปาดหน้าและขวางทางไว้ ส่วนอีกคันขับประกบ พร้อมกับเปิดกระจกฝั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วโบกแท่งไฟ สั่งให้จอดข้างทาง 


คนขับรถต้องจอดตามคำสั่ง เพราะกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างว่าเป็นตำรวจ จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 4 คน  ก็ลงจากรถ มาขอตรวจสอบใบขับขี่ของคนขับ  เรียกตรวจวีซ่าและพาสปอร์ตของชาวจีน  ซึ่งคนขับรถโดยสารได้แจ้งกับกลุ่มชายฉกรรจ์ว่า ชาวจีนพักอยู่ที่พัทยา ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะเชิญทั้งหมดลงจากรถ แล้วคลิปก็ตัดไป


แต่ทางเจ้าของธุรกิจรถเช่าให้ข้อมูลต่อว่า ทั้งคนขับรถโดยสารและนักท่องเที่ยวจีนทั้ง 2 คน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ พาไปที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง แล้วมีการติดต่อล่ามมาพูดคุย เพื่อเรียกรับเงิน หากไม่ให้ จะถูกแจ้งข้อหา ซึ่งชาวจีนทั้งสอง ก็ยอมจ่ายเงินทั้งสกุลหยวนและดอลลาร์ จำนวน 700,000 บาท ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา คนขับรถโดยสารจึงพาชาวจีนทั้ง 2 คน ไปส่งที่หน้าห้างแห่งหนึ่งแถวพัทยา โดยไม่ได้เก็บเงินค่ารถ จากนั้นคนขับรถโดยสารจึงนำเรื่องมาเล่าให้เจ้าของธุรกิจรถเช่าฟัง  ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ทราบชะตากรรมของชาวจีนทั้ง 2 คนอีก


หลังได้รับเรื่องร้องเรียน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ  ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามหาตัวผู้เสียหายชาวจีน หลังไม่ยอมปรากฏตัว และ ไม่เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ  จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจไปพบ 2 ชาวจีน คือ นายจิน ฉุย อายุ 43 ปี และนายเฉิน เหว่ย อายุ 44 ปี  ซึ่งหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านจอมเทียน  อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  โดยอ้างว่า ไม่กล้าเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะกลัวความผิดเรื่องหลบหนีเข้าเมือง


นายจิน ฉุย ยังไม่เคยมาเมืองไทย และนายเฉิน เหว่ย เคยมาเมืองไทยเมื่อ 7 ปีก่อนให้การว่า หนีออกจากประเทศจีน เพราะถูกออกหมายจับฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการพนัน โดยหลบหนีออกจากประเทศจีนเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.ปี 66 ไปที่ สปป.ลาว


จากนั้นวันที่ 10 ก.ค.67 ก็ลักลอบหลบหนีออกจาก สปป.ลาว มาที่ประเทศไทย โดยข้ามแม่น้ำโขง เข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย มีคนไปรับที่ริมแม่น้ำโขง แล้วไปส่งที่สนามบินเชียงราย ก่อนจะมีรถมารับที่สนามบิน เพื่อไปพัทยา  จนกระทั่งมาถูกกลุ่มคนอ้างเป็นตำรวจรีดเงิน หลังเกิดเรื่องก็ไปกบดานในคอนโด ย่านจอมเทียน กระทั่งตำรวจตามตัวเจอ  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้ง 2 คน ส่ง ตม.ชลบุรี ดำเนินคดีในข้อหา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย  ก่อนจะอายัดตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.หนองปรือ ในคดีถูกรีดเงิน


จากนั้น ศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับ  ส.ต.อ.ฐิติวัตร  อายุ 30 ปี  ประจำสังกัด กองกำกับการ ปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 (กก.ปพ.บก.สส.ภ.2) (ปัจจุบันถูกสั่งไปช่วยราชการที่อื่น)  ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเอาทรัพย์สิน ฯ , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ ,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจฯ  ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวฯ”  โดยจับกุมตัว ส.ต.อ.ฐิติวัตร ได้เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (23 ก.ค.67) ขณะยืนอยู่หน้า กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 


ต่อมา เวลา 14.00 น. ร.ต.ต.ประเดิม  ตำแหน่ง รอง สวป.(อก.) กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม  (กก.5 บก.ป.) หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ก็เข้ามอบตัวที่ สภ.หนองปรือ   โดย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า หลังสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นานกว่า 3 ชั่วโมง  โดยมีทนายความร่วมรับฟัง ทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ต.ประเดิม อายุ 54 ปี ยังเป็นนักร้องเสียงดี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับร้องเพลง “ตำรวจจะมา” เพื่อประชาสัมพันธ์การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ในช่อง YouTube Policetv UCI MEDIA ด้วย ซึ่งในระหว่างถูกคุมตัวเข้าห้องขัง ผู้สื่อข่าวพยามยามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามใดๆ


ขณะที่ศาลจังหวัดพัทยา ยังอนุมัติหมายจับ พลเรือนที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 3 คน ที่ร่วมขบวนการรีดทรัพย์ชาวจีน  ประกอบด้วย 1.นายวรพนธ์  อายุ 40 ปี  2.นายวชิระ  อายุ 48 ปี   และ 3. นายกมล  อายุ 33 ปี ฐานกระทำความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์ , ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการ มิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,


ร่วมกันข่มข่มขืนทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย  โดยอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Ibw8Owhaj2g


คุณอาจสนใจ

Related News