สังคม

ปวดหัวฉับพลัน เดินเซ คล้ายคนเมา เสี่ยงเลือดออกในสมอง อันตรายถึงชีวิต

22 ก.ค. 2567

371 views

วันที่ 22 ก.ค. 2567 กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เปิดเผยว่า "ภาวะเลือดออกในสมอง" เป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบประสาท ที่มีอัตราการเสียชีวิต โดยอาการมักเกิดขึ้นฉับพลันทันใด ถ้ามีอาการไปถึงโรงพยาบาลไว โอกาสรอดตายสูง  

ภาวะเลือดออกในสมองสามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่อาจมีสาเหตุแตกต่างกันไป


ผู้ป่วยอายุน้อย สาเหตุที่พบ มักเกิดจากสาเหตุของหลอดเลือดโป่งพอง หรือหลอดเลือดผิดปกติ ในผู้ป่วยกลุ่มนี้มักไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จนเมื่อเกิดปัญหาหลอดเลือดแตก จึงมีอาการทางระบบประสาท นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้เป็นระยะเวลานาน ทำให้ผนังหลอดเลือดเซาะ-ฉีกขาด ทำให้หลอดเลือดสมองแตกในที่สุด ทำให้เกิดมีเลือดออกในสมอง เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะอัมพฤกษ์-อัมพาต หรือเสียชีวิตได้


เลือดออกในสมองจะมีอาการดังนี้


1.ปวดศีรษะรุนแรงทันทีทันใดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

2.มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท เช่น ความรู้สึกตัวผิดปกติ พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง

3.มีอาการเซ ทรงตัวลำบาก พูดไม่ชัด ซึ่งดูแล้วอาจจะคล้ายคนเมาได้ เนื่องจากสมองส่วนนี้ จะทำหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ราบรื่น

เมื่อผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว ควรนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในทันที เพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร่งด่วน

แนวทางการรักษานั้น แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และส่งเอกซเรย์สมอง เพื่อยืนยันว่ามีเลือดออกในสมองและตำแหน่งของความผิดปกติ เพื่อวางแผนในการรักษา โดยที่อัตราเสียชีวิตในผู้ป่วยที่มีเลือดออกในสมองค่อนข้างสูง จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2566 พบว่า มีอัตราตายจากโรคหลอดเลือดในสมองแตก ร้อยละ 21.13 และในปี 2567 ที่ยังเก็บข้อมูลไม่ครบทั้งปี ก็พบว่า ตัวเลขสูงถึง ร้อยละ 20.77 หากผู้ป่วยสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้เร็ว ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว สามารถลดความพิการและการเสียชีวิตได้


วิธีการภาวะเลือดออกในสมอง

ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณของเลือดที่ออก หากมีเลือดออกปริมาณเล็กน้อย อาจจะให้การรักษาแบบประคับประคองและควบคุมความดันโลหิต ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ แต่หากเลือดออกในปริมาณสูง อาจจะมีความจำเป็นต้องผ่าตัดระบายเลือดออก และลดความดันในกะโหลกศีรษะ นอกจากนี้หากสาเหตุของเลือดออกเกิดจากหลอดเลือดผิดปกติ หรือหลอดเลือดโป่งพอง แพทย์จะทำการรักษาด้วยการสวนหลอดเลือดเพื่อปิดทางเดินหลอดเลือดที่ผิดปกติ หรืออาจจะต้องรักษาด้วยหลากหลายวิธีร่วมกัน


วิธีป้องกันภาวะหลอดเลือดออกในสมอง

ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง ควรตรวจรักษาและควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดีตลอด เพื่อลดโอกาสของการเกิดภาวะเลือดออกในสมอง และเมื่อมีอาการที่สงสัยโรคหลอดเลือดสมอง เช่น พูดลำบาก, ปากตก, แขนขาอ่อนแรง, เดินเซ ที่เกิดขึ้นทันทีทันใด ให้ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะรู้อาการแล้วไปโรงพยาบาลเร็ว โอกาสรอดและปลอดอัมพาตก็จะสูงขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News