สังคม

ให้ออกจากราชการ ครูดนตรีอนาจารศิษย์ นร.แฉโดนกันเพียบ แต่จ่ายเงินให้เรื่องจบ - ยายเดือดด่าลั่น "นรกส่งมาเกิด"

โดย nattachat_c

27 มิ.ย. 2567

177 views

จากกรณีที่ผู้ปกครองพานักเรียนชาย ม.3 วัย 15 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ถูกครูสอนดนตรีไทย ล่วงละเมิดทางเพศ-ทำอนาจาร นานกว่า 2 ปี ขู่ห้ามบอกใคร ซ้ำมีพฤติกรรมซาดิสม์ ทำร้ายร่างกายเด็กหลายครั้ง ต่อมา ตำรวจบุกรวบคาโรงเรียน


วานนี้ (26 มิ.ย. 67) พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ค่อนข้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และมีท่าทีสลดต่อการกระทำครั้งนี้ พร้อมให้การเป็นประโยชน์ โดยสารภาพว่ากระทำอนาจารเด็กนักเรียนจริง ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ซึ่งขณะนั้น นักเรียนอายุเพียง 14 ปี โดยคุณครูผู้ก่อเหตุ อ้างว่าเป็นคุณครูประจำชั้น และสอนดนตรีไทยให้นักเรียนผู้เสียหาย ทำให้เกิดความใกล้ชิดสนิทสนมกัน


โดยในการก่อเหตุ คุณครูจะเรียกตัวเด็กนักเรียนผู้เสียหายไปที่ห้องดนตรีไทย รวมถึงพื้นที่ห้องพักครูในโรงเรียน แล้วให้นักเรียนใช้ปากช่วยสำเร็จความไคร่ รวมถึงใช้ปากช่วยสำเร็จความไคร่ให้นักเรียนด้วย รวมเกินกว่า 105 ครั้ง โดยมีหลักฐานจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของคุณครูผู้ก่อเหตุ 2 เครื่องและแฟลชไดร์ฟที่ใช้จัดเก็บภาพลามกอนาจารเด็กนักเรียนผู้เสียหายจำนวนมาก เนื่องจากก่อเหตุมานานกว่า 1 ปี และยังมีการใช้อวัยวะเพศสอดใส่ไปที่ทวารหนักของนักเรียนผู้เสียหายด้วย


กระทั่งผู้เสียหายอายุ 15 ปี เริ่มปฏิเสธไม่ยอมไปพบคุณครูตามผู้ก่อเหตุ จึงถูกทำร้ายร่างกาย โดยการเตะ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนเด็กนักเรียนทนไม่ไหว นำเรื่องไปแจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบ ซึ่งตอนแรกผู้ปกครองยังไม่ได้ปักใจเชื่อในสิ่งที่ลูกเล่า แต่ก็พยายามดูแลสอดส่อง พร้อมได้นำเรื่องไปแจ้งให้ผู้บริหารโรงเรียนรับทราบเมื่อ 6 เดือนก่อน ซึ่งทางโรงเรียนขอระยะเวลาตรวจสอบ


แต่ผ่านมาจนขณะนี้ กลับไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา เนื่องจากลูกชายยังถูกกระทำอนาจารครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนลูกชายไม่อยากไปโรงเรียน และผู้ปกครองยังเห็นคุณครูยังมาสอนนักเรียนตามปกติ จึงได้นำเรื่องไปร้องเรียนที่เพจสายไหมต้องรอด


อย่างไรก็ตาม ตำรวจตรวจสอบคลิปหลักฐานพบ ผู้ต้องหามีการเก็บภาพอนาจารของเด็กไว้ในแฟลชไดร์ฟตั้งแต่ปี 2565 จึงยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมดของผู้ต้องหา และต้องไปขยายผลเพิ่มเติมว่า มีการกระทำกับเด็กนักเรียนผู้เสียหายมากกว่าที่ให้การหรือไม่ รวมถึงกระทำการเป็นขบวนการหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเป็นรสนิยมทางเพศส่วนตัว


เบื้องต้นยังไม่พบว่า มีการกระจายคลิปอนาจารลงในสื่อโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด และพบมีเด็กนักเรียนเป็นเหยื่อเพียง 1 ราย


โดย วานนี้ (26 มิ.ย. 67) มีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม และจะให้ฝ่ายสืบสวนเรียบเรียงข้อมูลเหตุการณ์ความผิดที่เกิดขึ้นจากคลิปหลักฐานในโทรศัพท์มือถือ ว่า มีทั้งหมดกี่ครั้ง กี่กรรม รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อรายงานลงในสำนวนคดีให้ฝ่ายสอบสวนรับทราบ เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องบรรยายพฤติกรรมของผู้ต้องหาให้ศาลเห็นว่า เริ่มก่อเหตุตั้งแต่เมื่อไร เพราะเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ


ก่อนจะมีหนังสือไปถึงโรงเรียนต้นสังกัด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงประสานขอภาพกล้องวงจรปิดในโรงเรียน จากนั้นจะนำตัวคุณครูผู้ก่อเหตุไปฝากขังศาลอาญาในวันนี้ (27 มิ.ย.) โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวน จะคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน


ทั้งนี้ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน

  • กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  • ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นไม่สามารถขัดขืนได้
  • กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  • กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยเป็นการกระทำต่อศิษย์ที่อยู่ในความดูแล
  • ปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามาดรา ผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร และพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาและผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร
  • พาบุคคลอายุเกิน 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  • ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
  • ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

---------------------

วานนี้ (26 มิ.ย. 67) ตัวแทนครูฝ่ายบุคคลของโรงเรียน ได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อขอคัดสำนวนการสอบสวนและสำเนาการแจ้งความดำเนินคดีอาญาจากพนักงานสอบสวน เพื่อนำไปประกอบการสอบสวนของคณะกรรมการที่โรงเรียนจะตั้งขึ้นเพื่อเอาผิดทางวินัย และจะลงโทษในขั้นตอนต่อไป


โดยหากกระทำผิดดังกล่าวจริงโทษสูงสุดตามระเบียบราชการก็จะต้องถูกไล่ออก ซึ่งก็จะต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการ ขณะที่ ผอ.สำนักเขต การศึกษาที่ดูแลโรงเรียนก็เข้ามาร่วมประชุมติดตามในเรื่องนี้


ครูคนนี้ ยังบอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเป็นอย่างมาก หลังจากได้ยินข่าวเรื่องนี้ก็ถึงกับช็อก เพราะที่ผ่านมาก็เห็นว่าครูคนนี้ตั้งใจทำงาน ทำงานดี และฝึกซ้อมนักเรียนดนตรีไทยตามปกติ


ก็ยอมรับว่ารู้สึกสลดใจ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถือว่าทำให้เสื่อมเสียสถาบันครู แต่ก็อยากให้แยกแยะเพราะครูที่ดี ๆ ก็ยังมีอยู่อีกเยอะ


นอกจากนั้น ก็ยังได้ยินผู้ปกครองที่มาส่งบุตร-หลาน เข้าโรงเรียนพูดบอกกับบุตรหลานอีกว่า “ระวัง ครูสอนดนตรีไทยที่โรงเรียนด้วยนะ” ตัวเองในฐานะที่เป็นครูอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ก็รู้สึกเสียใจอีกด้วย และก็เป็นห่วงถึงความเชื่อมมั่นระหว่างผู้ปกครองกับโรงเรียน ที่จะนำเด็กนักเรียนมาฝากเรียนต่อในอนาคต

---------------------

วานนี้ (26 มิ.ย. 67) เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวจ่าสิบเอก ธรรณ์ธรรศ อายุ 36 ปี หรือครูบุ๊ค ครูสอนวิชาดนตรีไทย ใส่หมวก ใส่แว่นตาดำ ใส่แมสก์ ใส่กุญแจมือ มาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดหลักที่ผู้ต้องหาใช้ในการล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์คือ ห้องพักครูที่อยู่ในห้องเรียนดนตรีไทย อีกจุดคือบริเวณโรงอาหารซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย จากนั้นนำตัวขึ้นรถกลับ สน.ทองหล่อ


ระหว่างที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่นำตัวครูที่ก่อเหตุออกมาจากห้องดนตรีเพื่อไปชี้จุดที่โรงอาหาร ได้มียายของนักเรียนชาย ม.3 ผู้เสียหาย มาตะโกนด่าทอผู้ต้องหาโดยถ้อยคำที่ค่อนข้างหยาบคายว่า “ชั่วจริง ๆ ไปอยู่นรกเลือกเอาเลยว่าจะทำอะไร โรงเรียนดี ๆ เสื่อมเสียเพราะมึง ไอ้เลว เลวมาก ไปใช้เวรกรรมของมึงไป เวรกรรมที่มึงสร้างก็วิบัติกับตัวมึง นรกสั่งมาเกิด”


จากนั้น ยายของเด็กนักเรียนชาย ม.3 เผยว่า อัดอั้นใจมาตั้งแต่วันแรกที่พวกตนไปโวยวายครูสอนสอนดนตรีไทยที่หน้าโรงเรียน วันนี้ พอทราบว่าตำรวจคุมตัวทำแผน ตนก็อยากจะเจอหน้า ชั่วก็ไปอยู่ที่มึงชั่ว เปิดโอกาสให้ครูดี ๆ มาสอนในโรงเรียนดี ๆ ตนมองไม่เห็นหน้าครูที่ก่อเหตุเพราะตำรวจให้ใส่หมวกปิดใบหน้าไว้ จึงไม่รู้ว่าสีหน้าสลด สำนึกหรือไม่ ถ้าชอบแบบนี้ ไม่น่ามาเป็นครู ลูกศิษย์คนไหนที่โดนกระทำก็อยากให้มาแจ้งความเพิ่ม จะได้รับโทษหนัก ๆ จะได้ไม่ต้องออกคุกมาสร้างความชั่วกับโรงเรียนอีก อยากให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ครูเหี้ย ๆ เอาออกไปเถอะ เสียสถาบัน

---------------------

เพจ ‘อีซ้อขยี้ข่าว 3’ ได้โพสต์ ว่า “บานปลาย...ศิษย์เก่า... นัดรวมตัวที่หน้าโรงเรียนเรียกร้องให้ ผอ.คนปัจจุบันออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้อย่างจริงใจ”


และยังได้โพสต์ 4 ข้อเรียกร้องของนักเรียนเก่า... รุ่น 83 เรียกร้องให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนกล้าและรีบดำเนินการเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งในด้านวินัยและอาญาอย่างเร่งด่วน/ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวนทางกฏหมาย/มีแผนเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจแก่นักเรียนที่เสียหาย/มีแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีนี้อีกในอนาคต


ทีมข่าวตรวจสอบเฟซบุ๊กของวงดนตรีไทยโรงเรียน... “พวงสวรรค” มีการโพสต์ว่า “ทางเพจขอปิดการโพสต์ชั่วคราวเกี่ยวกับวงครับและขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยครับ”


และจากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก ‘สมาคมศิลปะเพื่อเยาวชน 2019’ ได้โพสต์เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2564 ว่า “ขอแสดงความยินดีกับ จ่าสิบเอก ธรรณ์ธรรศ (ครูบุ๊ค) อาจารย์โรงเรียน... และอาจารย์ของสมาคมศิลปะเพื่อเยาวชน ที่ได้รับรางวัลพระพิมเนศนาคราชและโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีเทิดไท้แด่องค์ราชัน เมืองสยามของแผ่นดินยุคศิวิไลซ์ สาขาทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ /และได้รับเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นบุคคลดีเด่น ของเขตคลองเตย ประจำปี 2564 สภาวัฒนธรรมเขตคลองเตย เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2564”

---------------------

วานนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 15.00 น. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วยนายธีร์  ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน / นายอนันตศักดิ์ ภูพลพัน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 / นายสมศักดิ์ สนกนก ผู้อำนวยการโรงเรียน... / นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ร่วมประชุมหารือถึงเหตุการณ์ที่นักเรียนชั้น ม.3 ภายในโรงเรียนถูกครูล่วงละเมิด และมาตรการในการเยียวยาเด็กนักเรียนผู้เสียหาย


ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าวว่า ได้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ที่รับผิดชอบดูแลโรงเรียนนี้ ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก็พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และถือเป็นความผิดร้ายแรงตามนโยบายของกระทวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ซึ่งกำชับออกมาตรการไว้ว่า ครูต้องไม่ล่วงละเมิดกับลูกศิษย์ เมื่อเกิดเหตุต้องลงโทษขั้นสูงสุด


ยืนยันว่ากระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ไม่นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว เพราะหลักฐานปรากฎชัดเจน และมีคำสั่งให้ครูผู้ก่อเหตุออกจากราชการไว้ก่อน ดังนั้นครูจะไม่สามารถมาที่โรงเรียนนี้ได้อีก ต้องหยุดปฏิบัติราชการ และจะประสานกับคุรุสภาให้พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ไปสมัครสอนที่อื่น


ทั้งนี้ ได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเร่งสอบให้เร็วที่สุด ภายใน 7 วัน ซึ่งกรณีนี้หลักฐานปรากฎชัดเจน อาจจะสามารถมีคำสั่งให้ลงโทษสูงสุดคือปลดออก ไล่ออกได้ อย่างเร็วคือวันนี้ (27 มิ.ย.) ส่วนคดีทางอาญาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ


นอกจากนี้ ยังได้กำชับทางศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ให้นำเหตุการณ์ครั้งนี้มาเป็นบทเรียน เพราะเท่าที่ทราบ เหตุจะเกิดช่วงหลังเลิกเรียน ดังนั้น จึงต้องเข้าไปกำชับกับทุกโรงเรียนว่า หากมีกิจกรรมที่ครูต้องทำกับนักเรียนในช่วงหลังเลิกเรียน ก็ต้องป้องกันไม่ให้อยู่กัน 2 คน ไม่ว่าจะเป็นครูและนักเรียนเพศใด


ขณะที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ยังไม่เคยได้รับการร้องเรียนเรื่องนี้มาก่อน ผู้ปกครองเองก็บอกว่าเพิ่งจะรู้ไม่กี่วัน ตนก็เพิ่งรู้วันที่ผู้ปกครองมีปัญหากับครู วันนั้นก็ให้มาพูดคุยปัญหากันจนถึงสองทุ่ม และชี้แจงไปที่เขต ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่ได้นิ่งนอนใจ


ส่วนที่บอกว่าเด็กนักเรียนผู้เสียหายมีการแจ้งครูประจำชั้น เท่าที่สอบถามครูก็ยืนยันว่าเพิ่งจะทราบไม่กี่วัน และที่บอกว่าจะดำเนินการใน 6 เดือนนั้น เป็นการพูดตามระเบียบขั้นตอน แต่ในการดำเนินการจริงนั้นใช้เวลาไม่ถึงอยู่แล้ว /กรณีปรากฎภาพแชตว่า มีครูคนหนึ่งในโรงเรียนที่ยื่นเสนอกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนผู้เสียหายขอไกล่เกลี่ย ตนได้รับทราบจากข่าวแล้ว ยืนยันว่าน่าจะเป็นการไปพูดคุยเองโดยพลการ ครูคนดังกล่าวไม่ได้ปรึกษากับทางผู้บริหารโรงเรียนแต่อย่างใด


ส่วนเรื่องวงดนตรีไทยนั้น ก็มีมาก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้แล้ว ซึ่งตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเหตุใดต้องมีการถอดเสื้อระหว่างการฝึกซ้อม

---------------------

ทีมข่าวได้คุยกับ นักเรียนชาย อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า นอกจากตนเองยังมีรุ่นเพื่อนนักเรียนชายคนอื่นโดนครูรายนี้กระทำลักษณะเดียวกับตน และครูได้ถ่ายคลิปไว้ด้วย โดยครูไกล่เกลี่ยกันจ่ายเงินค่าทำขวัญ เรื่องก็จบไป ส่วนคนอื่น ๆ ตนไม่รู้โดนกระทำหรือไม่


ส่วนกรณีตัวเองที่ออกมาพูดเพราะทนไม่ไหวแล้ว ตนชอบเรียนดนตรีไทย ครูสอนดีก็ไม่คิดว่าจะเกิดแบบนี้ขึ้น ถ้าครูไม่มีเรื่องอนาจารก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ส่วนเรื่องการเรียนยังคิดอยู่ว่าจะเรียนที่เดิม หรือย้ายไปเรียนที่อื่น


ทั้งนี้ ก่อนที่จะเกิดเรื่องฉาว ตนได้นำเรื่องราวไปบอกครูประจำชั้นเพราะไม่กล้าบอกใคร ซึ่งครูประจำชั้นบอกกับตนว่าหากจะแจ้งความก็แจ้งได้เป็นสิทธิ์ของเรา ครูประจำชั้นก็ไม่อยากให้โรงเรียนเสียชื่อเพราะเป็นโรงเรียนมีชื่อเสียง ส่วน ผอ.โรงเรียน ก็เพิ่งทราบเรื่องในวันเดียวกันกับที่ผู้ปกครองของตนไปโวยวายหน้าโรงเรียน ทั้งนี้ตนอยากให้ ผอ.เร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด ของเหตุการณ์แบบนี้จบที่ตนคนเดียว


ส่วนที่ครูดนตรีไทยกระทำกับตนนานกว่า 2 ปี นั้นเนื่องจากครูคิดว่านักเรียนที่โดนกระทำก่อนหน้านั้นสามารถไกล่เกลี่ยได้ จึงกระทำกับตนเรื่อยมาเพราะคิดว่าจะไกล่เกลี่ยได้  สาเหตุที่ตนยอมให้ครูกระทำนาน 2 ปี นั้น เพราะโดนครูบังคับ ข่มขู่ถ้าไปบอกคนอื่นจะนำคลิปไปประจานในโซเชียล ตนเองกลัวมากจึงยอมให้ครูทำร้ายจิตใจ ตอนนี้ไม่อยากเจอหน้าครูคนนี้ ตนยังอยากเรียนอยู่โรงเรียนนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะโดนเพื่อนโจมตีหรือไม่ อยากให้เพื่อนดีกับตน แค่นี้จิตใจก็ย่ำแย่แล้ว


อย่างไรก็ตามโรงเรียนพยายามปกป้องครูดนตรีไทยคนดังกล่าว เพราะสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน แต่ในเมื่อตนเป็นเด็กทางโรงเรียนก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของตนเช่นกัน ตนใช้ชีวิตในโรงเรียนเหมือนบ้านหลังที่สอง แต่ถ้าปกป้องครูไม่ปกป้องนักเรียนจะมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนไว้ทำไม

---------------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0nZrc7N8lyk

















คุณอาจสนใจ

Related News