คนขับรถเมล์โดนเพื่อนร่วมอาชีพทำร้าย ไม่พอใจ เหตุแย่งขับรถเมล์

ภาพวงจรปิดวันที่เกิดเหตุ 23 มิ.ย. 67​ (วงจรปิดจับภาพได้ที่ บริเวณสี่แยกตลาดท่าอิฐ ต.บางรักน้อย​ อ.เมือง​ จ.​นนทบุรี​)​ จะสังเกตเห็นว่า นายพงศธร ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รุ่นพี่ชื่อนายเอ นามสมมุติ มาจอดบริเวณสี่แยก เพื่อที่จะเดินกลับขึ้นหอพัก​ จู่ ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งมาจอดเทียบท่า​ คนขับคือ นายสุรพล คู่อริ ลงจากรถจักรยานยนต์แล้วก็มาชกต่อย นายพงศธร โดยช่วงจังหวะนั้นนายเอเข้าไปช่วยห้าม​ ไม่นานก็มีนายบีนามสมมุติ เพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งขี่จักรยานยนต์ตามมา แล้วก็จับนายเอไม่ให้ห้าม เพื่อให้สุรพลต่อยกับพงศธร



วันที่ 25 มิ.ย. 67 ที่สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ทีมข่าวช่อง 3 ได้เดินทางไปพูดคุยกับผู้เสียหาย​นายพงศธร อายุ​ 40 ปี พนักงานขับรถโดยสาร ซึ่งวันนี้เดินทางมาเข้าแจ้งความ ที่สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง ​อ.เมือง​ จ.นนทบุรี​ พร้อมกับใบรับรองแพทย์ ที่ระบุว่า มีอาการบวมที่ใบหน้า​ โดยเฉพาะบริเวณสันจมูก

นายพงศธร​ พนักงานขับรถโดยสาร เล่าเหตุการณ์ว่า ​เมื่อวันอาทิตย์ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเลิกงาน ตนได้นั่งดื่ม คุยเล่นกับเพื่อนร่วมงาน​ ที่บริเวณหน้าออฟฟิศ จนถึงช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.​ หลังจากนั้นก็ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ กลับห้องพัก บริเวณสี่แยกตลาดท่าอิฐ ซึ่งคาดว่าระหว่างที่นั่งดื่มกินกับรุ่นพี่ ผู้ก่อเหตุ (ชื่อ นายสุรพล คนขับรถโดยสาร​)​น่าจะเห็น จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมา จนถึงจุดที่รุ่นพี่ส่งตน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับรถมาเทียบ แล้วลงมาต่อยตน ตอนนั้นตนไม่สู้ พยายามเดินหนี รุ่นพี่ที่มาส่งตนก็พยายามห้าม แต่ก็มีเพื่อนร่วมงานอีกคนคือ นายบี​ (นามสมมุติ) ​เข้ามาสมทบ​ โดยการห้ามรุ่นพี่ไม่ให้ห้าม เพื่อให้ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตน

นายพงศธร ยังบอกอีกว่า ตนมีปัญหากับผู้ก่อเหตุมานานแรมปีแล้ว โดยผู้ก่อเหตุไม่ชอบหน้าตน เพราะครั้งหนึ่งตนเคย นำรถเมล์ ที่ผู้ก่อเหตุขับประจำ ไปขับรับส่งผู้โดยสาร​ ซึ่งตอนนั้นเข้าใจผิดคิดว่า ผู้ก่อเหตุไม่มาทำงาน​ แต่ก็ได้มีการขอโทษไปแล้ว​ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังตามราวีไม่เลิก ถ้าเจอกันในออฟฟิศก็จะพูดจากระแทกแดกดัน และข่มขู่อยู่ตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย​ ตนจึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับนายสุรพลให้ถึงที่สุด​ ตนจะได้ทำงานอย่างสบายใจ

เรื่องนี้​ ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ จ.นนทบุรี​ มาติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยบอกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่เบื้องต้นต้องทำการตรวจสอบ ข้อมูลข้อเท็จจริงก่อน และจะเรียกผู้กระทำผิดเข้ามาสอบสวน และหลังจากนี้จะประสานไปทางขสมก.​ ถึงปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ภายในสำนักงาน​ เพราะนี่อาจจะเป็นการทำร้ายร่างกายกันที่ไม่ถึงบาดเจ็บสาหัส​ แต่ถ้าไม่เร่งแก้ไข อาจจะมีปัญหาบานปลายมากกว่านี้​ 

ทางด้าน พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์​ รองผ​กก.​สภ.บางศรีเมือง​ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางศรีเมือง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และให้พนักงานสอบสวนช่วยกันวิเคราะห์ เรื่องของการทำร้ายร่างกายว่า อาการหนักแค่ไหน เป็นส่วนหนึ่งของการแจ้งข้อกล่าวหา เดี๋ยวคงต้องรอผลตรวจจากนิติเวช ตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมืองจะให้ความเป็นธรรม ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด