สังคม

ยายวัย 71 ตกท่อ อาการยังน่าห่วง ลูกสาวซัด ต้องเกิดอีกกี่เคส ตอนนี้ยังไม่มีใครรับผิดชอบ

โดย nattachat_c

23 พ.ค. 2567

16 views

จากเหตุการณ์ นางสมจิต สภาพฤกษ์ อายุ 71 ปี เดินตกท่อระบายน้ำ ได้รับบาดเจ็บ นอนอยู่บนฟุตบาต มีบาดแผลแตกที่คิ้วซ้าย เจ็บปวดขาขวา พลเมืองดีช่วยนำตัวขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ก่อนที่ทางกู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลปากเกร็ด 2 เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 21 พ.ค. 67 บริเวณหน้าร้านตำจอก ถนนชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี


วานนี้ (22 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดหน้าร้านอาหารจุด ใกล้จุดที่นางสมจิต อายุ 71 ปี ตกท่อระบายน้ำ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะแท็กซี่สีเขียวเหลือง จอดส่งนางสมจิต และน้องสาวใกล้ๆ กับร้าน แล้วขับออกไป จากนั้นไม่นาน เห็นพนักงานร้านอาหารวิ่งไปตรงจุดที่นางสมจิตร ตกลงไป หลังช่วยขึ้นมาได้ พบว่า มีบาดแผลแตกที่คิ้วซ้าย เจ็บปวดขาขวา ก่อนที่กู้ภัยจะมาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วพาส่งโรงพยาบาลปากเกร็ด 2


น.ส.ยุพา อายุ 63 ปี น้องสาวคนเจ็บ บอกว่า ตนกับพี่สาวไปเที่ยวงานวัดบัวขวัญ กำลังนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านย่านไทรน้อย แต่พี่สาวบอกทางแท็กซี่ไม่ถูก แท็กซี่จึงจอดให้ลงเพื่อให้เรียกรถคันอื่น หลังจากลงจากรถ พี่สาวบอกปวดท้องฉี่ แล้วเดินเข้าริมฟุตบาท ส่วนตนเองออกมายืนริมถนนรอเรียกแท็กซี่ หันมาอีกทีพี่สาวก็ตกลงไปในท่อระบายน้ำแล้ว จึงรีบไปขอความช่วยเหลือจากร้านข้าวต้มใกล้จุดเกิดเหตุ


ด้าน น.ส.อรุณี อายุ 29 ปี ลูกจ้างร้านข้าวต้มรุ่งเรือง กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุ มีป้าคนหนึ่งเดินมาเรียก และขอความช่วยเหลือ บอกว่าคนตกท่อ จึงเดินไปดูพบว่ามีคนตกลงไปในท่อ ลักษณะนั่งอยู่ ก็พยายามช่วยคนเดียว แต่ไม่ไหว จึงมาบอกคนในร้าน และลูกค้าที่นั่งกินข้าวอยู่ประมาณ 5-6 คน มาช่วยกัน โดยนำบันไดลงไป แล้วค่อย ๆ ช่วยกันพยุงตัวขึ้นมาด้านบน เพื่อรอกู้ภัยมาช่วยเหลือ


ขณะที่ นายธรรมรงค์ อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า หลังจากมีโครงการปรับปรุงขยายถนน ก็มีการทำฟุตบาทใหม่ด้วย โดยไม่มีการปิดฝาท่อ ปล่อยโล่งไว้หลายสิบจุด จริง ๆ ที่หน้าร้านของตนก็ไม่มี ตนต้องทำมาปิดเอง เพราะเกรงว่าลูกค้าจะพลัดตกลงไป จึงอยากฝากหน่วยงานเข้ามาดูแลตรงนี้ด้วย เกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำ

----------------

ต่อมา ผู้สื่อข่าวไปสำรวจถนนชัยพฤกษ์ พบว่าเป็นโครงการขยายผิวจราจรเพิ่ม เริ่มตั้งแต่จุดกลับรถเชิงสะพานพระราม 4 ฝั่งขาออก ไปจนชนถึงถนนราชพฤกษ์ เป็นระยะทางประมาณ 1 กม. จากนั้นจากถนนราชพฤกษ์ ฝั่งขาเข้า ถึงเชิงสะพานพระรามสี่ ระยะทางอีกประมาณ 1 กม. โดยทั้ง 2 ฝั่งอยู่ระหว่างทำทางเท้า ปูแผ่นปูน พบมีท่อระบายน้ำทั้ง 2 ฝั่ง เกือบ 100 ท่อ ฝาท่อเปิดออกทั้งหมด ไม่มีสัญลักษณ์ไฟ หรือป้ายบอกตามปากท่อ ไม่มีการกั้นปิดปากท่อ แต่ตรงจุดเกิดเหตุ มีราวเหล็กสีฟ้า ปิดปากท่อที่นางสมจิตตกลงไป


จากนั้น ผู้สื่อข่าวไปที่ รพ.ปากเกร็ด 2 เพื่อตามความคืบหน้าอาการ นางสมจิต พบว่า มีแผลแตกที่ศีรษะ เย็บ 5 เข็ม คางช้ำ มีแผลถลอกที่จมูก และใบหน้า แผลฟกช้ำตามร่างกาย แพทย์ทำ CT สแกน และส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.วชิระ ตามสิทธิ์รักษา ซึ่งนางสมจิตจำเหตุการณ์ไม่ได้ และบ่นปวดศีรษะตลอดเวลา


น.ส.อมรา อายุ 30 ปี ลูกสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตอนกู้ภัยโทรแจ้งว่าแม่ตกท่อ ตนถึงกับสติหลุด รีบตามมาที่โรงพยาบาล ตอนนี้ผล CT สแกนปกติ แต่แม่มีอาการตาพร่ามัว ปวดหัว สมองน่าจะกระทบกระเทือน แม่จำเหตุการณ์ไม่ได้ บอกว่าเหมือนภาพตัด รู้แค่ว่าไปเที่ยวงานที่วัดบัวขวัญกับน้า แล้วนั่งแท็กซี่จะกลับบ้านที่ไทรน้อย แต่แท็กซี่ไม่รู้ทาง แม่และน้าจึงขอลงตรงจุดเกิดเหตุเพื่อเปลี่ยนรถ ระหว่างรอรถแม่ปวดปัสสาวะ จึงเดินหาที่แอบขับถ่าย เพราะอายุมากแล้ว อั้นไม่ไหว ทำให้ตกลงไปในท่อ หัวกระแทกกับทางเท้า


ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าข้างในแม่เป็นอะไรบ้างต้องเอ็กซเรย์ และรอผลตรวจจาก รพ.วชิระอีกที ต้องดูอาการวันต่อวัน


หลังเกิดเหตุยังไม่มีหน่วยงานไหนติดต่อมา ตอนนี้ตนรู้สึกแย่มาก เมื่อไหร่เรื่องแบบนี้จะหมดไป ตนเคยแต่ฟังข่าว ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดกับครอบครัวตนเอง ต้องเป็นแบบนี้อีกกี่เคส กู้ภัยโทรมาตนก็ตกใจตนกลัวแม่เสียชีวิต ถ้าคืนเกิดเหตุน้าไม่อยู่ด้วยคงไม่รอด เพราะที่ทราบในท่อมีน้ำค่อนข้างสูง และแม่ตกลงไปเอาหน้าลง


ตรงจุดนั้นก็มืดมาก มองอะไรแทบไม่เห็น ดีที่มีร้านค้า และมีคนช่วย ซึ่งเขตก่อสร้างน่าจะต้องมีไฟ หรืออะไรกั้นให้เห็นชัดเจน มันเป็นทางเท้าปล่อยให้โล่ง ๆ ทั้งที่เป็นหลุมได้ยังไง หลังจากนี้ตนจะไปแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับผู้รับเหมาและหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อไม่ให่เรื่องนี้เกิดกับใครอีก


ต่อมาช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหน่วยงานรับผิดชอบลงพื้นที่จุดเกิดเหตุแล้ว โดยนายวรวุฒิ สุขแสวง ผู้จัดการโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ตรงจุดที่เกิดเหตุเป็นบ่อพักท่อระบายน้ำ ซึ่งฝาบ่ออยู่ในระหว่างก่อสร้าง และได้นำไม้พาเลทมาวางปิดไว้ แต่ไม้พาเลทได้หายไป เมื่อถามร้านค้าข้างทางยืนยันว่า มีคนมาหยิบเอาไป ซึ่งทางโครงการยังไม่ทราบเรื่องกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุ


หลังจากทราบข่าวได้เอาแบริเออร์มาวางทับแทน หลังจากนี้จะเร่งดำเนินการนำฝาปูนมาปิดทับ คาดว่าน่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ก่อนหน้านี้ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แต่ได้ย้ายโรงพยาบาลไปแล้ว จึงได้ประสานกับงลูกสาวผู้บาดเจ็บแล้ว ยินดีรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาทั้งหมด


ด้าน นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า หลังทราบเหตุตนได้ขับรถสำรวจทั้งสองฝั่งแล้ว พบว่า งานไม่เรียบร้อยจริง ทำให้ประชาชนสองข้างทางเดือดร้อน ซึ่งผู้รับเหมาห้ามปฏิเสธความรับผิดชอบ และต้องแก้ไขเบื้องต้นก่อน ตอนนี้ ได้สั่งการให้ระงับงานอื่นทั้งหมดก่อน และให้หาแผ่นเหล็กหรือแผ่นปูนมาปิดแก้ไขไปก่อน ไม่ให้ใช้ตะแกรงไม้แบบนี้ มันไม่แข็งแรง โดยสั่งให้ทำในเสร็จในวันนี้ทั้ง 2 ฝั่งเลย รวมแล้วประมาณ 100 บ่อได้ เรื่องนี้กรมฯ ได้กำชับมาตลอด ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการที่เกิดขึ้น และขอโทษผู้เสียหายด้วย ซึ่งจะมีการเยียวยาดูแลต่อไป

----------------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/S-doN974Kpw

คุณอาจสนใจ

Related News