สังคม

นายกฯ สิงคโปร์ ขอบคุณไทย ช่วยเหลือเหตุสิงคโปร์แอร์ไลน์ - เปิดชีวิตผู้กำกับละครเพลง เดินทางครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต

โดย petchpawee_k

23 พ.ค. 2567

70 views

ผู้โดยสารและลูกเรือสิงคโปร์แอร์ไลน์เดินทางกลับแล้ว ด้านนายกฯ สิงคโปร์ ขอบคุณทางการไทยให้การช่วยเหลือเหตุสิงคโปร์แอร์ไลน์


จากกรณีสายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์โบอิ้ง 777-300ER เที่ยวบินที่ SQ321 ประสบอุบัติเหตุตกหลุม อากาศ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 71ราย  ผู้เสียชีวิต 1 ราย ก่อนจะขอลงจอดฉุกเฉิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงเย็นของเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดผู้โดยสารเที่ยวบิน SQ 321 จำนวน 131 คนและลูกเรืออีก 12 คน เดินทางถึงสนามบินชางงี ของสิงคโปร์ เมื่อเวลา 5 นาฬิกา 5 นาที วานนี้ (22 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 4 นาฬิกา 5 นาที ตามเวลาบ้านเรา ส่วนผู้โดยสาร 79 คน และลูกเรืออีก 6 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเครื่องบินตกหลุมอากาศยังพักรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพ


ซาฟราน อัซมีร์ หนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางกลับมา ได้เล่าเหตุระทึกที่เกิดขึ้นให้กับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ส ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากสำหรับเขา มันเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 10 วินาที ไม่มีใครคาดคิด และเตรียมรับมือได้ทัน เขาบอกว่า เครื่องบินเริ่มเอียงและสั่น ตัวเขาคาดเข็มขัด จึงไม่เป็นอะไรมาก แต่คนที่ไม่ได้คาดเข็มขัด พวกเขากระเด็นขึ้นไปบนเพดานเครื่องบิน


ผู้โดยสารบางคนตะโกนตอบผู้สื่อข่าวที่ถามว่า บาดเจ็บหรือไม่ ผู้โดยสารก็บอกว่า พวกเขาโชคดี ไม่เป็นไร

รายงานระบุว่า นายโก๊ะ ชุน ฟอง ประธานบริหารบริษัทเอสไอเอ บริษัทแม่ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส มาต้อนรับและเตรียมรถรับส่งผู้โดยสารให้ถึงบ้าน หรือโรงแรมที่พวกเขาพัก ส่วนผู้โดยสารที่รอต่อเครื่อง ก็ได้จองเครื่องบินโดยสารให้ใหม่ รวมทั้งจัดหาโรงแรม หรือที่นั่งพักเพื่อรอเดินทางไปกับเที่ยวบินต่อไปด้วย

ในส่วนของการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้สำนักงานสืบสวนความปลอดภัยด้านการขนส่งของสิงคโปร์ หรือ TSIB เริ่มการสอบสวนเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศในครั้งนี้แล้ว และได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังกรุงเทพ ขณะที่สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯก็ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจสอบด้วย


สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางการบินจากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ ประสบกับสภาพอากาศปั่นป่วนอย่างกะทันหันเหนือลุ่มน้ำอิรวดีที่ความสูง 37,000 ฟุต และเครื่องบินลดระดับความสูงลงไปที่ 31,000 ฟุตภายในระยะเวลาอันสั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังเครื่องบินออกเดินทางได้ประมาณ 10 ชั่วโมง


นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และเปลี่ยนเส้นทางเครื่องบินไปยังกรุงเทพฯ เหตุดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 1 คน เป็นชายอังกฤษวัย 73 ปี เชื่อว่า เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย


ขณะที่ "ไฟลท์เรด้าร์ ทเวนตี้โฟร์" (Flightradar 24) แอพพลิเคชั่นติดตามเที่ยวบิน ได้เปิดเผยข้อมูลการบินเบื้องต้นของเครื่องบินโบอิ้ง 777-330 ER เที่ยวบิน SQ 321 ว่า เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และเครื่องบินมีการเปลี่ยนแปลงความสูง

---------------------------------

นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ โพสต์ข้อความ ขอบคุณประเทศไทย โดยระบุว่า ในนามของรัฐบาล และประชาชนชาวสิงคโปร์ ผมขอขอบคุณทางการไทยที่ให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ ดูแลผู้โดยสารและลูกเรือที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ทั้งนี้ ตนรู้สึกโล่งใจที่ทราบว่าผู้โดยสาร 131 คน และลูกเรืออีก 12 คน ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวดังกล่าว ได้เดินทางกลับสิงคโปร์อย่างปลอดภัยเมื่อเช้านี้ โดยสำนักงานสืบสวนความปลอดภัยด้านการขนส่ง กระทรวงคมนาคม สิงคโปร์ จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกครั้ง และขออธิษฐานให้ที่ได้รับบาดเจ็บ หายและกลับบ้านได้โดยเร็ว


เช่นเดียว นาย ชี ฮง ทาต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ก็โพสต์ข้อความ ขอบคุณทางการไทยที่ให้การสนับสนุนในการอพยพผู้โดยสารและลูกเรือ และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ ดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้

ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และภาวนาให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวอย่างราบรื่น และหวังว่าจะสามารถนำผู้บาดเจ็บกลับมาสิงคโปร์ได้โดยเร็วที่สุด

ส่วนการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศนั้น นั้น "รัฐมนตรี ชี ฮง ทาต" ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนความปลอดภัยการขนส่ง หรือ TSIB ของสิงคโปร์ ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แล้วเมื่อคืนนี้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER

นอกจากนี้ คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ หรือ NTSB ของสหรัฐอเมริกา ยังได้ส่งตัวแทน รวมถึงที่ปรึกษาทางเทคนิค จำนวน 4คน มาร่วมในการสอบสวนสาเหตุด้วย

---------------------------------

ผู้กำกับละครเพลง กับการเดินทางครั้งสุดท้าย ก่อนเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ


เว็บไซต์ independent.co.uk ได้รายงานเรื่องราวเกี่ยวกับผู้โดยสารที่เสียชีวิตรายนี้ว่า ชื่อ เจฟฟรี คิทเชน เป็นชาวอังกฤษ วัย 73 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากเครื่องบินตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ซึ่งครอบครัวของคิทเชนเปิดเผยว่า คิทเชน อยู่ระหว่างการเดินทางไปเที่ยวช่วงวันหยุดครั้งใหญ่กับภรรยา

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) แถลงว่า ภรรยาของคิทเชน ได้รีบไปโรงพยาบาลทันทีหลังเกิดเหตุ

ด้าน แอนนา พรอคเตอร์ ลูกสาวของ คิทเชน กล่าวถึงพ่อของเธออย่างอาลัยว่าเขาเป็น สุภาพบุรุษที่อ่อนโยน ใจดีอย่างที่สุดและเป็น “ตำนาน” แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่เธอก็เชื่อว่าพ่อของเธอยังมีเวลาอีกหลายปีที่จะได้ใช้ชีวิต

กลุ่มเพื่อนของสองสามีภรรยาสกุลคิทเชนซึ่งแต่งงานกันมากว่า 50 ปี เผยว่า ทั้งคู่เดินทางออกนอกประเทศ จากบ้านเกิดในเมืองธอร์นบูรีแห่งกลอสเตอร์เชอร์ครั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ค. 2567 เพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวซึ่งวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ โดยบอกว่าเป็นการ “ท่องเที่ยวครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต” 

ด้านสตีเฟน คิทเชน ญาติผู้เสียชีวิตเปิดเผยกับอินดีเพนเดนต์ จากเมืองเชปสโตว์ ว่า คิทเชน และลินดา ผู้เป็นภรรยา วางแผนที่จะหยุดพักผ่อนยาวด้วยกัน 6 สัปดาห์ หลังจากทราบเรื่อง พวกเขาก็ถึงกับช็อก และพยายามหาทางติดต่อกับลินดา

คิทเชน และลินดา เป็นนักเดินทางตัวยงและชอบเดินทางท่องเที่ยวมาก พวกเขารักการผจญภัย และการเดินทางในครั้งนี้ก็คาดว่าจะเป็นการเที่ยวครั้งใหญ่เพื่อส่งท้ายชีวิตนักเดินทางของพวกเขาซึ่งต่างก็มีอายุมากแล้วทั้งคู่ โดยมีแผนการว่าจะไปเที่ยวสิงคโปร์, อินโดนีเซียและออสเตรเลีย


“พวกเขารอคอยที่จะให้ถึงวันหยุด พวกเขาเป็นนักเดินทาง ทำหลายสิ่งมากเพื่อสิ่งนี้ และค่อนข้างชอบการผจญภัย ครั้งนี้ถือเป็นวันหยุดใหญ่ครั้งสุดท้ายของพวกเขา และคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้เจอพวกเขาก่อนออกเดินทางทั่วเอเชีย”


 โดยสตีเฟน เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วเขานัดเจอทั้งสองก่อนการเดินทาง แต่เนื่องจากทั้งคู่ติดธุระเรื่องวีซ่า จึงต้องยกเลิกนัดไป อย่างไรก็ตาม คิทเชนมีประวัติว่าป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่สุขภาพทั่วไปยังคงแข็งแรงดี


เมื่อถูกถามว่า หากเอ่ยถึงเจฟฟรี คิทเชน จะนึกถึงอะไร สตีฟเฟนกล่าวว่า เจฟฟรี คิทเชน เป็นนักดนตรีและได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มละครเพลงของ Thornbury Musical Theatre Group ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และเขายังเป็นผู้ชายที่น่ารักคนหนึ่ง

ขณะที่ Thornbury Musical Theatre Group ออกแถลงการณ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กว่า ยกย่อง คิทเชน ผู้อุทิศชีวิตทำงานอยู่ด้วยมายาวนานถึง 35 ปี ในตำแหน่งงานต่างๆ มากมาย และว่าคิทเชนว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้มีความซื่อสัตย์อย่างสูงสุดเสมอ และทำทุกสิ่งที่ถูกต้องเพื่อกลุ่มตลอด พร้อมขอส่งกำลังใจและคำอธิษฐานไปยังภรรยาและครอบครัวของเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และขอให้ทุกคนเคารพในความเป็นส่วนตัวของพวกเขา

ขณะเดียวกันนายโก๊ะ ชุน ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ได้แถลงการณ์ว่า สิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปที่กรุงเทพฯ อย่างรวดเร็วเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้วยการสนับสนุนภาคพื้นดิน โดยเที่ยวบินบรรเทาทุกข์ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 143 ราย ที่สามารถเดินทางได้ เดินทางไปสิงคโปร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนผู้โดยสารอีก 79 คนและลูกเรือ 6 คนยังคงอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งรวมถึงผู้บาดเจ็บที่ได้รับการรักษาพยาบาล ครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักบนเที่ยวบินด้วย เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของสิงคโปร์แอร์ไลน์จะให้การสนับสนุนที่เป็นไปได้ทั้งหมดต่อไป สายการบินได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวน

ข้อมูลการติดตามเที่ยวบินที่บันทึกโดยเว็บไซต์ "ไฟลต์เรดาร์ 24" แสดงให้เห็นว่าก่อนเกิดเหตุ เที่ยวบินของสิงคโปร์แอร์ไลน์ กำลังเดินทางที่ระดับความสูง 37,000 ฟุต หรือ 11,300 เมตร แต่หลังจากเวลา 08.00 น. ตามเวลามาตรฐานสากล หรือ 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เครื่องก็ดิ่งลงอย่างกะทันหันลงสู่ระดับ 31,000 ฟุต หรือ 9,400 เมตร ในช่วงเวลาประมาณ 3 นาที โดยเครื่องบินอยู่ที่ระดับความสูงดังกล่าวเป็นเวลาเพียงไม่ถึง 10 นาที ก่อนที่จะร่อนลงและลงจอดที่กรุงเทพฯ อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง.



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LcV7stJb-AQ





คุณอาจสนใจ

Related News