สังคม

เขตบางพลัดแจงไม่ใช่ตึกถล่ม แค่เศษวัสดุร่วง ชาวบ้านเล่านาทีระทึก บ้านพัง ต้องย้ายไปพักที่อื่น

โดย nattachat_c

9 พ.ค. 2567

38 views

วานนี้ (8 พ.ย. 67) ช่วงสาย เพจ ที่นี่บางพลัด ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่อาคารพาณิชย์หลังหนึ่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถล่มลงมา จนเศษตัวอาคารกระจัดกระจายเกลื่อนทางเท้า และผิวการจราจร เหตุเกิดช่วง 10.23 น. บริเวณหน้าปากซอยจัญสนิทวงศ์ 93 เขตบางพลัด กรุงเทพฯ


โดยในคลิปจะเห็นว่า เศษซากอาคารถล่มลงมากลางถนนที่มีรถวิ่งอยู่ ฝุ่นคลุ้งกระจาย รถที่สัญจรไปมาต้องเบรกกลางถนน ขณะที่ คนงานต้องเร่งขนซากเศษปูนออกจากถนน เพื่อเปิดการจราจรเป็นการด่วน แต่โชคดี ที่อุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


บางคนขับรถผ่านถ่ายภาพหลังเกิดเหตุ จะเห็นว่า จุดที่มีการรื้อถอนเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น อยู่ระหว่างการรื้อถอน มีเพียงแผ่นสังกะสีกั้นไว้เท่านั้น โดยที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ 7 คูหา ถล่มจากการรื้อถอนของผู้รับเหมา


บางส่วนของอาคารพาดถล่มใส่อาคารพาณิชย์ของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตมาช่วยทำความสะอาดเพื่อเคลียร์พื้นผิวการจราจร และทางเท้า

----------------

นางวิไลลักษณ์ อายุ 65 ปี เจ้าของร้านซักแห้ง ที่อยู่ติดกับอาคารที่ถล่ม พาทีมข่าวขึ้นไปสำรวจความเสียหายบริเวณชั้น 2 ของร้าน 


พบว่า กำแพงของอาคารที่ถล่มพาดทับลงมา ทำหลังคาพังเป็นรูขนาดใหญ่ และมีเศษหิน เศษปูน เศษไม้ และสังกะสี จำนวนมาก หล่นใส่ร้าน ทำให้เสื้อผ้าลูกค้า และทรัพย์สินทั้งหมดเสียหาย ส่วนชั้นล่างที่เป็นห้องครัว ก็มีเศษปูนจำนวนมาก ไม่สามารถใช้งานได้


นางวิไลลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ 1 คูหา มานาน 40 ปี ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาก็ทยอยรื้อถอนอาคารบางส่วนมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นอีกฝั่งที่ไม่ได้อยู่ติดกับบ้านตนเอง ซึ่งผู้รับเหมาก็ไม่ได้มีการมาแจ้งอะไร


จนกระทั่ง เมื่อช่วงเช้า เวลาประมาณ 08.00 น. ผู้รับเหมาได้แจ้งว่า จะมีการรื้อถอนอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว เพื่อเวนคืนที่ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 1 ก่อสร้างทางยกระดับ และถนนฝั่งธนบุรี ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเสียงรบกวนมาถึงอาคารรอบข้าง


ตนเองจึงไม่ได้มีการท้วงติง และรับทราบ โดยคิดว่าจะมีการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย เนื่องจากบ้านตนเองนั้นอยู่ติดกับอาคารที่รื้อถอน ห่างกันเพียงแค่หนึ่งคืบ แต่สุดท้ายตนเองก็ไม่เห็นมีการนำอะไรมากั้น


ระหว่างที่ตากผ้าอยู่บริเวณชั้นหนึ่ง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น ตนเองรู้ได้ทันทีว่า เป็นเสียงตึกถล่มอย่างแน่นอน เเต่ไม่คิดว่าจะส่งผลทำให้บ้านตัวเองเสียหายอย่างหนัก เคราะห์ดีที่ภายในบ้านมีเพียงตนเอง เเละสามีอยู่ ส่วนลูกออกไปทำงาน จึงตัดสินใจวิ่งหนีออกมา ก่อนจะเห็นกลุ่มควันฟุ้งตลบอบอวล


ด้าน นายสุทิน สามีของนางวิไลลักษณ์ กล่าวว่า เบื้องต้น ตนเองได้พูดคุยกับผู้รับเหมา เนื่องจากบ้านพังเสียหาย ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ประกอบกับหวาดกลัวว่า อาคารจะถล่มลงมาซ้ำอีก ผู้รับเหมาจึงจะให้ตนเองย้ายออกไปพักที่อื่นชั่วคราว ส่วนค่าเสียหายต่าง ๆ ทางบริษัทผู้รับเหมาจะรับผิดชอบ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียด


ทั้งนี้ ปกติตนจะนั่งอยู่ชั้นล่างใกล้ห้องครัว แต่ตอนเกิดเหตุ ได้ออกไปนั่งหน้าบ้าน ถ้านั่งตรงนั้นคงขึ้นสวรรค์ไปแล้ว พอได้ยินเสียงดังก็รีบวิ่งออกจากบ้าน ฝุ่นฟุ้งเต็มถนน อยากฝากถึงผู้รับเหมา หากจะมีการรื้อถอนอีก ควรเซฟตี้ให้ดีกว่านี้

----------------

ด้าน ห้วหน้าคนงานบริษัทรับเหมา ยอมรับว่า ขณะที่มีการรื้อถอน คนงานรื้อถอนได้ใช้รถแบคโฮเจาะไปที่อาคาร เพื่อรื้อถอนอาคารพาณิชย์ 3 คูหา ฝั่งซ้ายสุด และพยายามดึงให้อาคารเทตัวไปทางขวา ซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง แต่ระหว่างที่ขาแบคโฮกำลังดึง เกิดแรงกระชากระหว่างตึก ทำให้อาคารเอียง และยุบตัวไปทางฝั่งซ้ายแทน จนถล่มใส่อาคารประชาชน


ก่อนหน้านี้ รื้อถอนอาคารพาณิชย์ใกล้เคียงไปแล้วทั้งหมด 14 คูหา โดยมีวิศวกรในการควบคุม และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีอันตราย แต่อาคารที่ถล่ม เป็นตึกที่เก่ามากแล้ว ทำให้เกิดการเอียง และทรุดตัวลงมาเลย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้


ขณะที่ ตัวแทนผู้รับเหมา กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มาจากความผิดพลาดในการทำงาน ก็ต้องขอโทษสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย มันเป็นเศษปูนเล็ก ๆ ที่ตกลงมาชั้นล่างสุด ด้านในไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เหมือนด้านนอกตัวอาคาร มันดันที่กั้นออกมา ซึ่งที่กั้นที่เราทำไว้ มันช่วยเราได้มาก ๆ เพื่อไม่ให้ใครได้รับความเสียหาย หรือได้รับบาดเจ็บ


เราทำโครงเหล็ก และมีเมทัลชีทติดไว้แน่นหนาตามมาตรฐาน แต่ความผิดพลาดมันก็เกิดขึ้นได้ในตอนทำงาน มันมีแค่เศษหินเล็ก ๆ ที่ตกลงไปบนถนน แต่ภาพมันน่ากลัวเพราะเป็นฝุ่นฟุ้ง โดยตอนที่จะทุบก็มีการแจ้งไปที่ประชาชนบ้านเรือนใกล้เคียง ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุ ก็ได้คุยกับผู้เสียหายที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว

--------------

ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่พร้อมนายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. โดยได้พูดคุยรายละเอียดเบื้องต้นกับตัวแทนผู้รับเหมา


ต่อมา นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ จะต้องไปตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจากที่ดูคลิปเบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และต้องถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ


ส่วนการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น ทางกรุงเทพมหานคร จะมอบหมายให้สำนักงานเขตบางพลัด เป็นตัวกลางในการประสานระหว่างผู้รับเหมากับประชาชนที่เดือดร้อน ในเรื่องของการเยียวยาความเสียหาย


"หลังจากนี้ จะต้องมีการกำชับความเข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัย และผลกระทบ เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการก่อสร้างหลายจุด โดยกำชับแต่ละสำนักงานเขตให้มีการตรวจตราว่า พื้นที่ไหนมีการก่อสร้าง และรื้อถอนอาคาร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน"


นางสาวอารียา เพ็งประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด เผยว่า จุดดังกล่าวเป็นอาคารเก่าที่ถูกเวียนคืน เพื่อใช้พื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย มีอาคารที่ถูกเวียนคืนทั้งหมด 21 คูหา รื้อถอนแล้วเสร็จไปแล้ว 14 คูหา เหลืออาคารที่กำลังรื้อถอนอีก 7 คูหา


สาเหตุที่มีเศษวัสดุของอาคารหล่นลงมาบนทางเท้า และผิวการจราจร เนื่องจากความบกพร่องของผู้รับเหมาที่เข้าทำการรื้อถอน ไม่เป็นไปตามหลักวิศกรรมที่ถูกต้อง

---------------

ล่าสุด สำนักงานเขตบางพลัด และ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า


ภาพที่เกิดขึ้นตามคลิป ไม่ใช่การถล่มของตึก แต่เป็นเศษชิ้นส่วนอาคารที่รื้อถอนหลุดหล่นออกมาบริเวณทางเท้า และถนน นอกแนวป้องกัน แต่ไม่มีประชาชนได้รับอันตราย หรือบาดเจ็บ มีเพียงเศษวัสดุของอาคารที่กำลังรื้อถอน ร่วงไปใส่บ้านของประชาชนที่อยู่ด้านข้าง ทำให้มีอาการตกใจ


ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และประชาชนที่สัญจรไปมา บนท้องถนน ทางสำนักงานเขตบางพลัด จึงออกคำสั่งให้ผู้รับเหมาหยุดการรื้อถอนอาคารชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานความปลอดภัย ให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรมที่ถูกต้อง และกำชับว่าห้ามให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งผู้รับเหมาก็ยินดีที่จะเร่งปรับปรุงแก้ไข


ส่วนการตรวจสอบใบอนุญาตการรื้อถอนอาคาร พบว่า ผู้รับเหมามีการขอใบอนุญาตการรื้อถอนถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ อยากทำความความเข้าใจกับประชาชนว่า ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่อาคารถล่ม แต่เป็นเพียงเศษวัสดุที่เกิดจากการรื้อถอน ร่วงหล่นลงมา

----------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5nf91JkKCCg


คุณอาจสนใจ