ชาวสวนโคราชน้ำตาตก ประคบประหงมทุเรียนอย่างดี เจอพายุถล่มวันเดียว หล่นเสียหายหลายแสน

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 13 (91/2567)

ในวันที่ 7 พ.ค. 67 แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าว มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นหลายพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ค. 67 แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ค. 67 แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่

--------------

วานนี้ (6 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาเจ้าของสวนทุเรียนในพื้นที่ บ้านป้ายอุบล ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุฤดูร้อน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา

ซึ่งทำให้มีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง นานเกือบ 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ต้นทุเรียนโค่นล้ม และลูกทุเรียนที่กำลังเติบโตร่วงหล่นเกลื่อนพื้นสวน เจ้าของสวนต้องระดมคนงาน ช่วยกันเก็บลูกทุเรียนที่ร่วงหล่นมาเก็บรวบรวมไว้ โดยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับลูกทุเรียนที่ร่วงหล่นเหล่านี้ เพราะเหลือเวลาอีกประมาณเกือบ 1 เดือน จึงจะสามารถตัดลูกทุเรียนส่งจำหน่ายตามท้องตลาด หรือส่งนายหน้ารับซื้อได้

ด้าน สวนของนายโฮม วัย 70 ปี ซึ่งปลูกทุเรียนเอาไว้ รวม 10 ไร่ ปีนี้ กล่าวว่า ทุเรียนกำลังออกลูกให้ผลผลิตกว่า 100 ต้น นับผลผลิตที่ติดลูกรอเก็บเกี่ยวอีกไม่ถึงเดือน ได้เกือบ 4,000 ลูก แม้ว่าปีนี้จะต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด แต่ก็พยายามดูแลผลผลิตอย่างดีที่สุด ทำให้ได้ผลผลิตตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ แต่กลับต้องมาเจอลมพายุฤดูร้อนพัดถล่มแค่วันเดียว ก็ทำให้ทุเรียนที่กำลังจะได้ตัดส่งขาย ร่วงหล่นไปไม่น้อยกว่า 500 ลูก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท

นายชาญ เถาบุญ อายุ 61 ปี เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนบ้านป้ายอุบล บอกว่า ปีนี้ทุเรียนที่ปลูกเอาไว้จำนวน 22 ไร่ ตั้งเป้าที่จะได้ผลผลิตในชุดแรก ไม่น้อยกว่า 8,000 ลูก แต่ก็ต้องมาประสบปัญหาสภาพอากาศที่ร้อน และแล้งจัด จนทำให้ผลทุเรียนร่วงหล่นไปมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เหลือทุเรียนที่นับได้ไม่ถึง 2,000 ลูก

และต้องมาเจอกับพายุฤดูร้อน ลมกระโชกรุนแรงจนผลทุเรียนที่เหลืออีกไม่ถึงเดือนก็สามารถตัดส่งขายได้ ร่วงหล่นอีก เหลืออยู่ให้เห็นไม่ถึง 1,000 ลูก

หลังจากนี้ ยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติอะไรอีก ที่จะมากระหน่ำซ้ำโดยไม่คาดคิด และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปีนี้ ชาวสวนทุเรียนที่นี่ต้องน้ำตาตกกันแทบทุกคน จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยหาทางเข้ามาช่วยเหลือ และดูแลชาวสวนบ้าง อย่าปล่อยให้แก้ปัญหา และก้มหน้ารับชะตากรรมกันตามลำพัง

ทั้งนี้ พื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ถือเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะลูกทุเรียนมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา โดยข้อมูลของสำนักงานเกษตร อ.ครบุรี รายงานว่า อ.ครบุรี มีพื้นที่ปลูกทุเรียนในปัจจุบัน รวมกว่า 3,000 ไร่ มีเกษตรกรประมาณ 300 ราย ซึ่งทุเรียนในช่วงนี้กำลังให้ผลผลิต พร้อมเก็บเกี่ยวแล้วประมาณ 2,000 ไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 550 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นพืชเกษตรที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท

แต่ในปีนี้ สถานการณ์ภัยแล้ง และสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงประเมินผลผลิตปีนี้น่าจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ และตอนนี้ ยังต้องมาประสบกับปัญหาพายุฤดูร้อนที่สร้างความเสียหายซ้ำเพิ่มเติมอีก

เบื้องต้น ขณะนี้ มีรายงานทุเรียนของเกษตรกรที่เตรียมจะต้องตัดส่งตลาดในเดือนหน้า ถูกลมพายุพัดร่วงหล่น เสียหายไปแล้วประมาณ 3,000 ลูก หรือประมาณเกือบ 10 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท

----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/c0-5LcejPdY