สังคม

รวบแล้ว "อดีตตำรวจ" 1 ราย แก๊งอุ้มชาวจีนรีดเงิน 2.5 ล้านบาท

โดย gamonthip_s

3 พ.ค. 2567

413 views

จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คน บุกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 หรือซอยสุทธิพร แขวงดินแดง เขตดินแดง เพื่ออุ้มชาวจีน 5 ราย ออกจากห้องพัก โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะรีดไถเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท ก่อนจะปล่อยตัวผู้เสียหาย



เมื่อวันที่ 3 พ.ค.67 พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยชุดสืบสวนประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย ในข้อหา “ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันกรรโซกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็น เจ้าพนักงานโดยตนเองมีได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการ ใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”



ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมตัว นายอถรรวุฒิหรือนายบอส บุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งนายบอสได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาควบคุมตัวผู้เสียหายกับพวก อ้างว่าชาวจีนทั้ง 5 รายกระทำผิดกฎหมาย จะต้องพาไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ โดยในระหว่างนั้นมีการพูดจาข่มขู่ และได้โชว์บัตรตำรวจ แต่ผู้เสียหายยังไม่ทันดูว่าเป็นบัตรตำรวจจริงหรือไม่ อีกฝ่ายก็เก็บบัตรไป จากนั้นก็พยายามจะพาตัวไปที่สถานีตำรวจ



โดยได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้เสียหายกับพวกมาขึ้นรถยนต์จำนวน 2 คัน ที่จอดรออยู่บริเวณหน้าโรงแรม และได้ขับพาผู้เสียหายไปที่บริเวณใดไม่ทราบแน่ชัด ระหว่างทาง กลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการเกลี้ยกล่อมผู้เสียหายให้ยอมจ่ายเงิน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี



ซึ่งระหว่างทาง ผู้เสียหายพยายามขอดูบัตรตำรวจอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายบังคับให้นั่งลงดี ๆ แล้วชูมือเหนือหัว ก่อนจะพูดว่า "ไม่ต้องคุยแล้ว เดี๋ยวไปคุยกับบอส" พร้อมบอกด้วยว่า "ไม่เชื่อใช่ไหมว่าเป็นตำรวจ เดี๋ยวจะโชว์ให้ดู" หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุได้ขับรถพาผู้เสียหายมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนจะพาลงจากรถ และพาไปเจอชายที่อ้างตัวว่าเป็นบอส อายุราว ๆ 50 ปี ได้แนะนำตัวว่าตนเองนั้นเป็นตำรวจ



จากนั้นคนที่เป็นบอสอ้างว่า "กลุ่มคนจีนนี้ มีเครื่องรูดบัตรอยู่ในห้อง ก็ถือว่าผิดกฏหมายแล้ว จ่ายมา 4 ล้านบาท" แต่ผู้เสียหายเห็นว่า แพงมากไม่มีเงินจ่าย อีกฝ่ายจึงเสนอจำนวนเงินเหลือ 3 ล้านบาท และเรื่องจะได้จบ ผู้เสียหายเกรงว่าจะถูกจับกุม จึงติดต่อหาเพื่อนชาวจีนที่อยู่ในประเทศกัมพูชา โอนเงินมาเข้าบัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัล ตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวต้องการ เป็นเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท เมื่อจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ปล่อยตัวผู้เสียหายให้ออกจากบริเวณดังกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News