สังคม

พระเกจิจ้างเด็กคนละ 200 ราดน้ำกรดใส่มือ ลองของขลัง 'พระสมเด็จปาฏิหาริย์' สุดท้ายเด็กเจ็บ พ่อแม่เอาเรื่อง

โดย thichaphat_d

2 พ.ค. 2567

144 views

เจ้าของเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวว่า เกิดเหตุวุ่นวายที่วัดเขาแร่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เมื่อผู้ปกครองเด็กวัย 13 ปี  ไปแจ้งความที่ สภ.ทุ่งเสลี่ยม ว่า มีพระรูปหนึ่งในวัดเขาแร่ ลองของด้วยการให้เด็กกำวัตถุมงคลเอาไว้ในมือ แล้วเอาน้ำกรดราดมือเด็ก โดยให้ค่าจ้างให้กับเด็ก 200 บาท แลกกับการลองของขลัง  ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ

แต่เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง  พระรูปดังกล่าวไม่ยอมออกมาพูดคุยกับผู้ปกครองเด็ก รวมทั้งยังให้ลูกศิษย์ออกมารับหน้าและรับผิดแทน โดยบอกว่าจะรับผิดชอบค่าเสียหายและการรักษา จนกว่ามือเด็กจะหาย แต่การพูดคุยเจรจาดังกล่าวไม่ได้ข้อยุติ เพราะผู้ปกครองเด็กต้องการให้พระออกมารับผิดชอบด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นัดให้พระผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายไปพบที่ สภ.ทุ่งเสลี่ยม  

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากพ่อของเด็กที่บาดเจ็บ พบว่า มีเด็ก 4-5 คน ที่ตกเป็นเหยื่อลองของ  โดยพ่อของเด็กอายุ 13 ปีที่ไปแจ้งความ กล่าวว่า  ทราบมาจากลูกศิษย์ของพระรูปดังกล่าวว่า พระทำของขลังและมาลองกับตัวแล้วไม่เป็นไร เลยให้เด็กๆ 5 คนมาลองของดู  ซึ่งของขลังเป็นลักษณะพระผง รูปคล้ายพระสมเด็จและสมเด็จโต ใส่กรอบพลาสติก ซึ่งลูกชายของตนได้รับบาดเจ็บถูกมือน้ำกรด ที่หลังมือเริ่มมีรอยพุพอง ซึ่งตนเองคิดว่าการกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสมและจะเอาเรื่องพระที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดเขาแร่ พบว่าบริเวณวัดมีกลุ่มลูกศิษย์และชาวบ้านบางส่วน จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้น  ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจที่มีคนนำเรื่องนี้ไปโพสต์ในโซเชียล เพราะถูกชาวเน็ตด่าทอวัดจนเสียหาย จากนั้น พระบุญส่ง อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นพระที่ถูกกล่าวหา จึงไปที่ สภ.ทุ่งเสลี่ยม พร้อมกับลูกศิษย์และชาวบ้าน เพื่อให้ปากคำ

เมื่อไปถึง ก็พบกับผู้ปกครองและเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่ พม.และพระชั้นปกครอง  ทั้งหมดเข้าไปพูดคุยกันในห้องไกล่เกลี่ยของโรงพัก  โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป

หลังจากพูดคุยเจรจาเสร็จสิ้น  พ.ต.อ.นิคม พรมพิราม ผกก.สภ.ทุ่งเสลี่ยม  เปิดเผยว่า หลังจากผู้ปกครองนำเด็กผู้เสียหายเข้าแจ้งความ พนักงานงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ  แล้วจะประสานสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบถามเด็ก ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง  เนื่องจากเด็กผู้เสียหายมีหลายคน แต่จะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  ส่วนทางด้านคณะสงฆ์ ทางพระผู้ใหญ่ได้นำเรื่องรายงานในระดับสูงแล้วซึ่งจะมีการตั้งคณะสอบสวนเรื่องราวโดยละเอียดและดำเนินการในส่วนของสงฆ์  ทุกฝ่ายพึงพอใจในการพูดคุยเจรจา จึงแยกย้ายกันกลับ

ด้าน ด.ช.โป้ง (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนกับเพื่อนเข้าไปเล่นในวัดเนื่องจากเพื่อนบวชเป็นสามเณรอยู่ เจอรุ่นพี่ชักชวนว่ามีเครื่องรางของขลัง ช่วยให้แคล้วคลาด ปลอดภัย ใครอยากลองจะมีเงินให้ 200 บาท  พวกตนอยากได้เงิน  จึงเข้าไปในกุฏิหลวงตาบุญส่ง  หลวงตาจึงมอบพระสมเด็จปาฏิหาริย์ ให้คนละองค์ แล้วใช้น้ำกรดราดที่หลังมือ ตนรู้สึกปวดแสบปวดร้อน และหลังมือไหม้ ต่อมาเป็นแผลพุพอง จนผู้ปกครองรู้เรื่อง จึงพามาแจ้งความ

ด้านนางนงค์  อายุ 50 ปี ป้าของเด็กผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลานชายตนอายุ 13 ปี  อาศัยอยู่กับปู่และย่า เนื่องจากพ่อแม่ไปทำงานต่างจังหวัด  ซึ่งย่าสังเกตเห็นแผลไหม้ผุพองที่หลังมือของหลานขณะดื่มน้ำ จึงสอบถาม จนหลานบอกว่า พระเอาน้ำกรดราด จึงรีบโทรแจ้งพ่อแม่หลานแล้วพาเข้าแจ้งความ

อย่างไรก็ตาม บรรดาลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธา เช่น นายชัย (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเครื่องรางของหลวงพ่อบุญส่งมีความศักดิ์สิทธิ์จริง เนื่องจากตนก็เคยลองของแบบนี้เช่นกันเมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ และตนยังคล้องคอบูชาอยู่จนทุกวันนี้  


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/bCV58AtpPd0


คุณอาจสนใจ

Related News