ตำรวจเมากร่าง ป่วนร้านอาหาร พ่นควันบุหรี่ใส่ลูกค้า เจ้าของร้านวอนลงโทษหนัก

24 เมษายน 2567 กรณีเพจเฟซบุ๊กชุมชนข่าวขอนแก่น โพสต์คลิปชายคล้ายตำรวจเมาเอะอะโวยวาย พร้อมกันยังมีคลิปคาดว่าเป็นตำรวจคนเดียวกัน ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยชาวโซเชียลที่ทราบถึงพฤติกรรมของตำรวจรายนี้ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า เป็นตัวตึงประจำโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.แขนก่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางสุนิตรา อายุ 50 ปี เจ้าของร้านอาหาร จ.ขอนแก่น ซึ่งร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของสิบตำรวจเอกรายนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรม ระรานทางร้าน และลูกค้าของร้านมาหลายครั้ง จนลูกค้าไม่กล้าเข้ามาใช้บริการในร้าน ซึ่งโรงพักที่ตำรวจนายนี้ปฏิบัติหน้าที่ อยู่ตรงข้ามร้านอาหารของเธอ

นางสุนิตรา เล่าว่า ครอบครัวทำมาหากินอาชีพสุจริต เปิดร้านขายอาหาร หมูกระทะ เพื่อความอยู่รอด และไม่มีเคยปัญหากับใคร เปิดร้านมาร่วม 2 ปี ก็เงียบสงบดี ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ตำรวจนายดังกล่าวทำหน้าที่ช่วยพนักงานสอบสวน เดินมาซื้อแอลกอฮอล์ และนั่งดื่มในเวลาทำงานเป็นประจำ แต่ทุกคนก็ไม่มีใครใส่ใจ ต่อมาในช่วง1-2 เดือนนี้ เริ่มมีอาการหนัก เพราะทางร้านไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ น่าจะไม่พอใจ จึงไปดื่มจากที่อื่นมา จนมีอาการเหมือนคนเมา เข้ามาระรานในร้าน สูบบุหรี่พ่นควันใส่หน้าลูกค้า แถมข่มขู่ ไล่ลูกค้าออกจากร้าน จนลูกค้าหวาดกลัว ต้องรีบจ่ายเงินและกลับออกจากร้านไป

ซึ่งล่าสุดตำรวจนายนี้ ยังมายืนอยู่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวที่ติดกับร้านตน แล้วได้ตะโกนด่าทอ ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย จึงให้สามีเข้าแจ้งความ และขอเข้าพบผู้บังคับบัญชา ซึ่งทราบจากผู้บังคับบัญชาว่า ตำรวจนายนี้มีอาการป่วยทางจิตเวชมานาน ส่วนตัวเห็นว่า ป่วยจิตเวชก็ไม่สมควรจะรับราชการต่อไป ผู้บังคับบัญชาควรพิจารณาโทษ หรือให้ออกจากราชการ ไม่ใช่เพียงตักเตือนเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

ล่าสุด ผกก.สภ.บ้านเป็ด ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเอาผิดทางวินัยนายตำรวจดังกล่าวแล้ว ยอมรับ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ภาพรวมถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีแล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวน ทำการตรวจสอบหากพบมีการกระทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ หากเป็นความผิดทางวินัยด้วยก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป โดยส่วนของการทำงานของตำรวจนายนี้ เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ไม่ต้องพกพาอาวุธปืน เพราะลักษณะงานที่ได้รับมอบหมายไม่ต้องใช้ปืน ส่วนปัญหากับเพื่อนร่วมงานนั้น ไม่ปรากฎว่ามีในลักษณะที่มีเรื่องมีราวกัน ส่วนกรณีที่บอกว่า ป่วยจิตเวชและได้รับการรักษามาแล้วนั้น ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เพราะต้องเรียกพ่อแม่นายตำรวจมาสอบสวนก่อน หากป่วยจริงก็ต้องมีผลตรวจจากแพทยญ์ยืนยัน และจะมีการพิจารณาต่อไปว่าควรจะรับราชการต่อหรือต้องส่งตัวไปรักษา เบื้องต้นทราบว่ามีการไปตรวจที่รพ.ธัญญรักษ์ รับยามากิน

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายตำรวจนายนี้ บริเวณหน้าโรงพัก ซึ่งส่วนใหญ่ให้ข้อมูลแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเนื่องจากกลัว ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นวันสงกรานต์ ซึ่งก็ใส่ชุดเล่นสงกรานต์ แต่จู่ๆก็พบว่ามีปัญหากับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านเลี่ยงที่จะปะทะด้วยเนื่องจากทราบพฤติกรรมดี ก่อนที่ตำรวจนายนี้จะมาพาลถึงหน้าโรงพัก กล่าวหากลุ่มวัยรุ่นที่อยู่หน้าโรงพักว่าขโมยของจนมีปากเสียงถูกกลุ่มวันรุ่นรุมทำร้าย จนตำรวจในโรงพักต้องออกมาห้ามเหตุการณ์ และควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ภายในโรงพัก