แม่ค้าบ่นอุบหมูล้นตลาดยอดขายตกฮวบ ราคาดิ่งเหลือ 125 บาท

วันที่ 6 มี.ค.67 จากกรณีที่ปัญหา “หมูล้นตลาด” กลายเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งหาทางแก้ไข โดยทางนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ออกมาเปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันบริโภคเนื้อหมูเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลผลิตหมูมีชีวิตเกินความต้องการจากปกติ ซึ่งจะมีหมูออกสู่ตลาดเฉลี่ยวันละ 50,000 ตัว แต่ขณะนี้อยู่ที่ 58,000 ตัว จึงจำเป็นต้องเร่งระบายผลผลิตส่วนเกินกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือจากห้างสรรพสินค้าให้งดการจัดโปรโมชันลดราคาเนื้อหมูในช่วงนี้ เนื่องจากราคาเนื้อหมูในปัจจุบัน อยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม หากนำเนื้อหมูมาจัดโปรโมชัน อาจจะเป็นการกดราคารับซื้อหมูและกระทบกับเกษตรกร

โดยขณะนี้สถานการณ์ราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ กิโลกรัมละ 67-68 บาท และเกษตรกรยังต้องขายขาดทุน การตัดวงจรหมูจะช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น ทั้งนี้กรมจะเข้าไปช่วยดูแลด้านต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหารสัตว์นั้น

ล่าสุดเวลา 10.00 น. วันที่ 6 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตลาดสดภาษีซุง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชัยนาท พบว่าราคาหมูต่ำสุดอยู่ที่ 125-130 บาทต่อกิโลกรัมและราคายังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

นางยุพดี แม่ค้าเขียงหมูรายใหญ่ เผยว่า ยอดขายปลีกนั้นกระเตื้องขึ้นมาไม่มาก เพราะคนที่มาซื้อไปทำอาหารกินในครอบครัวก็มาซื้อตามปกติเพิ่มจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยอดขายส่งสำหรับรายใหญ่นั้นตกฮวบเพราะโรงเรียนใหญ่ๆ เริ่มใกล้ปิดเทอม บรรดาโรงครัวของโรงเรียนต่างๆ เริ่มสั่งของน้อยลงจากสั่งหลายสิบกิโลกรัมก็ลดจำนวนลง ซึ่งวงจรเช่นนั้นเป็นอยู่ตลอดอยู่แล้ว ใกล้ปิดเทอมราคาหมูจะตก ของจะล้น เพราะโรงเรียนปิด พอเปิดเทอมก็จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งเป็นวัฏจักร ทางร้านก็ลดจำนวนในการซื้อในการทำปรับให้เหมาะกับกำลังซื้อของประชาชน