สังคม
ภาพจากดาวเทียมชี้ ‘เชียงใหม่’ เผาไหม้แล้วกว่า 3 หมื่นไร่ / เหนือ-อีสาน จุดความร้อนพุ่ง เร่งดับไฟป่าหลายพื้นที่
โดย petchpawee_k
20 ก.พ. 2567
17 views
ภาพจากดาวเทียมชี้ เชียงใหม่พบพื้นที่เผาไหม้แล้วกว่า 3 หมื่นไร่ ขณะที่หลายพื้นที่ในภาค เหนือ อีสาน อ่วม ไฟป่าโหมกระพือหนัก จุดความร้อนพุ่ง
วานนี้ ( วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ) GISTDA เผยข้อมูลจากภาพดาวเทียม Sentinel-2B ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.49 น. แสดงภาพพื้นที่เผาไหม้บริเวณ อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง และอำเภอแม่แจ่ม ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความเสียหายแล้วกว่า 30,700 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้ ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมยังแสดงให้เห็นจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 (จุดสีฟ้า), วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 (จุดสีเหลือง) และวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 (จุดสีแดง)
ข้อมูลดังกล่าวจะใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าตรวจสอบในพื้นที่จริงร่วมกับจังหวัด เพื่อนำไปสู่การวางแผนฟื้นฟู ป้องกัน และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน อันจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน
----------------------------------------------
ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าหลายจังหวัดอ่วม
เริ่มที่ จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจ/จุดสกัดเพื่อเฝ้าระวังไฟป่า บริเวณจุดตรวจ/จุดสกัดบ้านปางกุ่ม ตำบลแม่ปะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง และจุดตรวจ/ จุดสกัดบ้านอ้อตำบลสันดอนแก้ว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เดินออกลาดตระเวน เพื่อป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ในพื้นที่
เมื่อไปถึง บริเวณป่า ห้วยเกี๋ยง ท้องที่บ้านวังพร้าว ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ในเขตอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จึงร่วมกับ ผู้นำชุมชนบ้านวังพร้าว และราษฎรเครือข่ายไฟป่า เข้าไปดับไฟป่า หลังจากมีกลุ่มควันไฟลุกลาม เป็นบริเวณพื้นที่ กว้าง และ ทาง จนท สามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้ โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมงสามารถควบคุมไฟป่าไว้ได้ โดย พบว่า มีพื้นที่ไฟ ไหม้ป่า เสียหาย ไป ประมาณ 10 ไร่
ขณะนี้พบว่า พื้นที่ที่ไฟไหม้ป่าส่วนใหญ่นั้นของจังหวัดลำปางเป็นพื้นที่ ป่า เต็งรัง อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ป่าครั้งนี้ น่าจะมาจากการที่ชาวบ้านนั้น ชอบเข้าไปหาของป่า แล้วจุดไฟเผาหญ้าและใบไม้แห้งจนเกิดไฟป่าลุกลาม สำหรับการเกิด ไฟไหม้ป่าจังหวัดลำปาง ที่ผ่านมาเกิด ส่งผลให้ สถานการณ์หมอกควันไฟ ในเขตพื้นที่จังหวัดลำปาง อยู่ในเกณฑ์ที่สูงและเป็นสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและการหายใจของประชาชน
ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1สาขาแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.ปาย พบว่าเกิดไฟป่าขึ้นมากผิดปกติ ทำให้ช่วงเช้าวานนี้ ดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS พบจุดความร้อนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพิ่มขึ้น 38 จุด แบ่งเป็นในพื้นที่ อ.ปาย 35 จุด , อ.แม่ลาน้อย 1 จุด และ อ.แม่สะเรียง 2 จุด
ส่วนวันที่ 18 ก.พ. พบจุดความร้อน 37 จุด ประกอบด้วย อ.ปาย 29 จุด , อ.ปางมะผ้า 4 จุด , อ.ขุนยวม 1 จุด , อ.แม่สะเรียง 1 จุด และ อ.สบเมย 2 จุด ส่วนอำเภอที่ไม่เกิดไฟป่าได้แก่ อ.เมือง กับ อ.แม่ลาน้อย
นายสมจินต์ กล่าวว่า ไฟป่าในพื้นที่ตำบลเมืองแปง อำเภอปาย มีจุดความร้อนเกิดขึ้นมาโดยต่อเนื่อง จึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า และชุดเหยี่ยวไฟกรมป่าไม้จากจังหวัดลำปาง เข้าสนับสนุนการดับไฟป่าแล้ว
ที่ จ.นครราชสีมา เกิดไฟป่าไหม้ลามในบริเวณแนวป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเรือนประชาชนประมาณ 30 เมตรเท่านั้น ทำให้นายสมหวัง นามเพ็ชร ผู้ใหญ่บ้านตลิ่งชัน หมู่ที่ 10 ต้องระดมลูกบ้าน ช่วยกันเอาถัง กะละมัง และภาชนะต่างๆ ที่พอจะหาได้ มาตักน้ำจากโอ่งไปสาดสกัดไฟป่า ไม่ให้ลามเข้ามาในเขตชุมชน
ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไปฟ่าทับลาน และอาสาสมัครเครือข่ายควบคุมไฟป่า กว่า 30 คน พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง ก็เข้ามาสมทบ และใช้เวลาในการดับไฟนานถึง 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ ท่ามกลางความโล่งอกของชาวบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องเข้าเคลียร์พื้นที่ดับไฟสุมตอและจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนกว่าจะแน่ใจว่าจะไม่มีไฟปะทุขึ้นมาซ้ำอีก
เหตุไฟป่าครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าริมแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 8 ไร่ โดยสภาพป่า เป็นป่าเต็งรัง ที่มีวัชพืชแห้งตาย รวมถึงเศษใบไม้และกิ่งไม้แห้งกระจายอยู่เต็มพื้นที่ จึงทำให้เป็นเชื้อไฟอย่างดี จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามสร้างความเสียหายอย่างรวดเร็ว ยังดีที่ช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าทับลาน ได้วางกำลังร่วมกับอาสาสมัครเครือข่ายควบคุมไฟป่าและชาวบ้าน จัดเวรยามคอยตรวจตราเฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชั่วโมง จึงสามารถเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ป่าไม่มากนัก
ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟป่าในครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์ที่อาจจะตั้งใจจุดไฟเผาเพื่อหาของป่าหรือหวังผลบางอย่าง
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/TEAuzp62rWk