สาวนักธุรกิจซิ่งรถยนต์ไฟฟ้าอัดท้ายพ่วง 22 ล้อ บาดเจ็บสาหัสติดคาซากรถ

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 3 ก.พ.67 ร.ต.อ.กรรณวุฒิ แสนสุด พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งไฟฟ้าชนท้ายรถพ่วง 22 ล้อจอดอยู่ข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดคาซากรถ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์มุ่งหน้าสามแยกพระสมุทรเจดีย์ ก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองบางปลากด หมู่ที่ 11 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานของรถกู้ชีพโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และรถกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนขวาสุดพบ รถยนต์เก๋งไฟฟ้า ยี่ห้อ NETA V สีขาว จอดอยู่ในสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงทราบชื่อต่อมา นางสาว ธนัญธิดา อายุ 32 ปี นั่งฟุบหน้าอยู่บนพวงมาลัย บริเวณศีรษะมีแผลแตกเลือดอาบใบหน้า แขนซ้ายหัก บริเวณร่างกายท่อนร่างถูกคอลโซนรถกดทับ เจ้าหน้าที่จึงใช้มือดึงก่อนเร่งปฐมพยาบาล และนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

ตรวจสอบภายในรถพบสมุดนามบัตรขนาดใหญ่ ภายในมีนามบัตรของห้างร้านต่าง ๆ นับ 10 ใบ และเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้บาดเล็กหล่นกระจายเต็มรถ และยังพบเอกสารการเคลมประกันของรถคันดังกล่าวลงวันที่ 27 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ห่างกันเล็กน้อยในเลนซ้ายสุดพบรถคู่กรณีเป็นรถพ่วงขนาด 22 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว กทม. บริเวณท้ายรถด้านขวามีรอยเฉี่ยวชนจนล้อหลังไปอัดติดกับล้อกลาง เศษอะไหล่รถของคู่กรณีหล่นเกลื่อนพื้นถนน

จากการสอบถาม นาย ธนพัฒน์ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งประจำจุด สภ.พระสมุทรเจดีย์ ทราบว่าในระหว่างที่ตน และทีมงานกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ประจำจุดได้รับแจ้งทางวิทยุจากศูนย์กู้ชี พและสั่งการโรงพยาบาลจ.สมุทรปราการ ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์มุ่งหน้าสามแยกพระสมุทรเจดีย์ จึงรีบออกเดินทางไปให้การช่วยเหลือ หลังช่วยคนเจ็บแล้วจึงได้เดินสอบถามประชาชนที่มายืนดูในที่เกิดเหตุทราบว่าไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวมาพบอีกครั้งตอนที่รถชนกันไปแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องต้น คาดว่าผู้บาดเจ็บน่าจะขับมาด้วยความเร็วแล้วเกิดหลับในทำให้รถเสียหลักไปชนท้ายรถบรรทุกพ่วงที่จอดข้างทางอย่างจังจนรถกระเด็นมาอีกเลน ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ก่อนที่จะบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อไป