อาชีพสุดแปลก! เกล็ดปลาตากแห้ง แม่ค้าเผยลูกค้าติดต่อขอเหมารับซื้อไม่อั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ต.ค.2566 ที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นางบุญเพชร อายุ 53 ปี อาชีพ ค้าขายปลาแปรรูปทุกชนิด กำลังนำปลาวงมาตากแดดที่กำลังเปล่งประกายสดใสในช่วงเช้าวันนี้ ก่อนจะนำไปแพ็กขายทั้งส่งทั้งปลีก สร้างรายได้ให้กับครอบครัว





จนใช้สถานที่บ้านเปิดเป็นหน้าร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อป ปลาแปรรูปทุกชนิด ส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังมีบางอย่างซึ่ง นางบุญเพชร กำลังนำมาผึ่งแดดให้แห้ง โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่เห็นอยู่นี้คือเกล็ดปลาหลายชนิด และจะใช้เกล็ดที่มีแผ่นใหญ่ นำมาตากให้แห้งจำนวน 2 แดด รอขายให้กับคนมารับซื้อในหมู่บ้าน ในราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพใหม่ แปลกตาที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้มาก่อนว่า เกล็ดปลาเหล่านี้สามารถนำไปทำอะไรได้




นางบุญเพชร สุขสาเกษ เจ้าของร้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองทำอาชีพเกี่ยวกับการประมงและแปรรูปปลาขายมานาน ซึ่งเกล็ดปลาตากแห้งเหล่านี้ เดิมทีไม่เคยต้องเก็บมาตากแห้ง แต่เมื่อช่วง 2 ปีก่อน เห็นรถขนกระสอบนึกว่ากระสอบนุ่น ขับผ่านหมู่บ้านมารับซื้อปลา เห็นบ่อยๆจึงสงสัยเข้าไปสอบถามว่าคืออะไร ก็ทราบว่าเป็นเกล็ดปลา โดยรับซื้อราคา กิโลกรัมละ 20-30 บาท จึงเก็บมาตากแห้งขายบ้าง พอนำมาขายเรื่อยๆ พบว่าเป็นการสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี และเกล็ดปลาเหล่านี้ปกติก็มีแต่นำไปทิ้ง




ตอนนี้กลายเป็นมีคุณค่าสร้างรายได้เสริมจากอาชีพที่ตัวเองทำอยู่แล้ว จึงนำมาตากแห้งขายเรื่อยมา และในหมู่บ้านมีเพียง 2 เจ้าเท่านั้นที่ตากแห้งขาย โดยคนรับซื้อจะขับรถมารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท โดยในปีนี้พบว่าราคาในช่วงหน้าฝนจะอยู่ที่ 16 บาท ต่อ กก. และหน้าแล้งนี้อยู่ที่ 20 บาท ต่อ กก. ซึ่งเคยถามคนที่มารับซื้ออยู่ว่าเกล็ดปลาเหล่านี้นำไปทำอะไร




โดยพ่อค้าที่มารับซื้อบอกว่า จะมีคนรับซื้อส่งออกต่างประเทศ เพื่อนำไปทำอาหารเสริม และรับซื้อไม่อั้นมีเท่าไหร่รับซื้อทั้งหมด ซึ่งเกล็ดปลาที่จะนำมาขายได้นั้นจะต้องเป็นเกล็ดปลาที่มีแผ่นใหญ่ นำมาตากประมาณ 2 แดด ก็สามารถเก็บแพ็กใส่กระสอบรอขายได้แล้ว




นางบุญเพชร เจ้าของร้าน บอกอีกว่าขณะนี้ น้ำท่วมล้อมรอบตัวบ้านไปหมดแล้ว จึงไม่สามารถแปรรูปปลาส่งขายได้อีก น้ำที่ท่วมเป็นน้ำที่เอ่อออกมาจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เข้าท่วมพื้นที่บ้านและหมู่บ้านโนนสวรรค์ ท่วมซ้ำซากมา 3 ปีแล้ว แต่ปีนี้น้ำยังไม่สูงเท่าปี 2565 หลังจากที่น้ำมีปริมาณสูงขึ้น ส่งผลต่อการประกอบอาชีพอย่างมาก



จาก 100% ก็จะเหลือเพียง 20% เพราะน้ำเยอะ จับปลาไม่ได้ ถ้าจับได้ก็จับได้น้อย ไม่พอส่งขาย ลูกค้าที่จะมาซื้อปลาก็ไม่สามารถเข้ามาหาได้ แม้กระทั่งการขายออนไลน์ เมื่อลูกค้าเห็นว่าน้ำท่วมก็ว่าไม่มีสินค้า ออกไปส่งให้ลูกค้าไม่ได้ ทำให้ขาดรายได้ น้ำท่วมมาประมาณ 2 อาทิตย์ เสียรายได้ไปประมาณ 20,000-30,000 บาท เพราะความต้องการของลูกค้ามีมาทุกวัน แต่เราไม่มีสินค้าส่งให้ และมีปริมาณสินค้าที่จะส่งให้ไม่เพียงพอ เพราะปลาที่ชาวประมงจับได้น้อยลง ปลาที่นำมาแปรรูปก็น้อยลงด้วย