สุดเจ๋ง! ครูวัย 33 ปีใช้นวัตกรรมสกัดยางพารา เป็นเชื้อเพลิง 1 ลิตรต้นทุนต่ำเพียง 4 บาท

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่มานาคาเฟ่ เลขที่ 91 หมู่ 13 บ้านทุ่งสวรรค์ ตำบลท่าศิลา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายทวีชัย ไกรดวง อายุ 33 ปี หรือ ครูน้อย ผู้ซึ่งมีความสมารถในการสกัดยางพารา ให้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงเพื่อใช้กับรถไถนา เครื่องสูบน้ำ โดยมีนายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ นายไสว ทะจรสมบัติ นายก ทต.ท่าศิลา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สท. เข้าร่วมสังเกตการณ์การสาธิตการผลิตและการทดลองใช้งาน ปรากฏว่าเมื่อเติมเชื้อเพลิงที่สกัดจากยางพาราใส่รถไถนาและเครื่องสูบน้ำ แล้วใช้ได้จริง เครื่องไม่มีสะดุด หรือมีปัญหากับเครื่องยนต์แต่อย่างใด

ครูน้อย กล่าวว่า ตนใช้เครื่องกรองน้ำในโรงเรียนรุ่นเก่าที่ไม่ใช้มาประดิษฐ์เป็นเครื่องสกัดน้ำมัน ใช้ทุน 4,500 บาท ขั้นตอนการผลิตส่วนผสม 1 ลิตร ใช้ต้นทุน 4 บาทในการกลั่นยางพารา เพื่อออกมาเป็นน้ำมัน ในช่วงแรกต้องการผลิตให้กับชุมชน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งตามหลักทฤษฎีป่าล้อมเมือง แต่ยังไม่ขายให้กับเอกชนที่จะนำไปทำกำไร เพราะจะทำให้เกษตรกรเสียโอกาสในการใช้น้ำมันที่มีราคาต่ำกว่าตลาด หากขายเครื่องให้เอกชนเอกชนก็จะเอาเครื่องไปสร้างกำไร แล้วดึงราคาน้ำมันให้เท่ากันหรือต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเครื่องพวกนี้ไปอยู่ประจำในตัวจังหวัด จังหวัดละ 1 เครื่องเป็นการจุดประกายเกษตรกรเล็ก ๆ

ส่วนการจดสิทธิบัตรหรือไม่นั้น ยังไม่จดสิทธิบัตรแต่ก็เปิด open ให้กับนักพัฒนานักประดิษฐ์ของประเทศไทย ได้ต่อยอดเพื่อเป็นการช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมยางพาราของประเทศไทยต่อไป ในยุคราคาตกต่ำสามารถแก้ปัญหาให้เกษตรกร อันแรกที่คิดไว้คือให้เกษตรกรนำยางพาราที่ตัวเองมีอยู่นำมาเข้าเครื่องสกัด เสียค่าการผลิตลิตรละ 4 บาท แล้วนำน้ำมันกลับบ้านเติมรถไถนาของตัวเองที่ทำการเกษตรเพื่อลดต้นทุนในการทำการเกษตรทำไร่ทำนา สร้างชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง ก่อนขั้นตอนต่อไปเป็นการรวมชุมชนสร้างรัฐวิสาหกิจการกลั่นยางพาราเป็นน้ำมัน เพื่อขายในระดับชุมชน ขั้นที่ 3 คือการสร้างเครื่อสกัดและให้ความรู้ในระดับจังหวัด 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันครูน้อย สังกัดโรงเรียนบ่อน้อยประชาสรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี สำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1

นายชัยมงคล ไชยรบ กล่าวว่า ตนให้คำแนะนำว่าควรไปขึ้นบัญชีนวัตกรรม กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา จากนั้นนำแนวคิดนี้ไปหารือกับกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อจัดหางบประมาณลงมาให้ท้องถิ่นดำเนินการ อาจจะจัดซื้อเครื่องสกัดมาไว้ตำบลละ 1 เครื่อง แล้วเกษตรกรนำยางพารามาขายเพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมัน