ลูกบ้านคอนโด หวั่นถูกทิ้ง หลัง "บริษัทอนันดาฯ" เงียบ ไร้ตอบแนวทางแก้ปัญหา

จากกรณีของคอนโดหรู แอชตัน อโศก ที่เป็นประเด็น หลังจากที่ล่าสุดทางศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาติก่อสร้างโครงการแอชตัน ของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมทุนกับ มิตซุย ฟูโดซัง จากประเทศญี่ปุ่น วันนี้ทีมข่าวได้พูดคัยกับ เจ้าของห้องพัก ที่ซื้อห้องในคอนโดดังกล่าว ขอเรียกร้องผ่านสื่อ เรียกร้องให้ทางเจ้าของโครงการออกมาชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหา เนื่องจากหลายคนต้องการทราบแผนการเยียวยาจากทาง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์


ทีมข่าวได้พูดคุย กับนาย พรชัย เจ้าของห้องพักที่ซื้อห้องในโครงการ แอชตัน อโศกไว้ 2 ห้องในราคา 18 ล้านบาท เล่าว่า เมื่อวานหลังมีคำสั่งศาล ทางผู้บริหาร บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ได้เปิดประชุมผ่านระบบซูมกับทางเจ้าของห้องพัก กว่า 300 คน


โดย ทางบริษัทได้แจ้งให้เจ้าของห้องทราบเพียงว่า ขอเวลา 14 วันในการดำเนินการแก้ปัญหา โดยที่เจ้าของห้องพยายามถามถึงแนวทางการดำเนินการ ข้อเรียกร้อง หรือการเยียวยา แต่ทางตัวแทนบริษัทกลับไม่ตอบคำถามหรือชี้แจงข้อมูลใดเพิ่มเติมให้ลูกบ้าน จนหลายคนเริ่มไม่พอใจ และมีความกังวล อยากให้ทางบริษัทรับซื้อห้องคืน แต่ก็ได้คำตอบเพียงว่า บริษัทและเจ้าของทุกคนก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบ เพราะในการก่อสร้างมีเอกสารอนุญาตและทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย ขอเวลา แก้ปัญหา หากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง


นายพรชัย ยังเล่าอีกว่า ตั้งแต่เริ่มต้น เหมือนถูกทางบริษัทหลอกขายห้องพัก เนื่องจากมีปัญหาตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง แต่บริษัทก็ไม่เคยแจ้งข้อพิพาทให้ผู้ซื้อทราบเลย จนมารู้จากข่าวเมื่อปี 2565 ที่ศาลปกครองเคยมีคำพิพากษาครั้งแรก ในครั้งนั่น ทางบริษัทได้ออกมาบอกกล่าวเป็นวาจากับทางลูกค้าว่า จะแก้ปัญหา โดยตอนนี้จะเจรจาขอซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงสถานี MRT สุขุมวิท เป็นทางเข้าออกคอนโด และมีแผนชดเชยเยียวยาลูกบ้านกรณีที่เกิดปัญหาจริง จนผ่านมาล่าสุดที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสิน ทางบริษัทกลับเงียบและไม่แจ้งแผนใด ๆ ให้ทางผู้ซื้อทราบเลย


นาย พรชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังมองไม่เห็นทางออกว่าทางบริษัทเจ้าของโครงการจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เนื่องจากเท่าที่ทราบ ที่ดินบริเวณข้างเคียงโครงการนั่นเจ้าของไม่มีใครยินยอมขายที่ บางจุดเป็นที่ดินบริจาคที่ตั้งสมาคม ไม่สามารถขายได้ หากถึงวันที่แย่ที่สุด ตนและลูกบ้านรายอื่น ๆ อาจจะต้องนำเต็นท์มากางนอนริมถนน


เมื่อถามเมื่อสอบถามถึงแนวทางที่ในโซเชียลมีการแสดงความคิดเห็นว่าหากทางบริษัทอนันดาฯ จัดซื้อที่ดินบริเวณด้านหลัง ซึ่งเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 19 ลูกบ้านคิดเห็นอย่างไร เรื่องนี้นายพรชัยระบุว่าจากที่ตนได้ศึกษาข้อกฎหมายมาบ้างทราบว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เนื่องจากข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารชุด ระบุไว้ชัดเจนกรณีที่เป็นที่พักอาศัยขนาดใหญ่สูงเกิน 50 ชั้น ต้องมีเส้นทางเข้าออกติดถนนหลัก เท่านั้นที่ดินบริเวณด้านซอยสุขมวิท 19 เป็นซอยขนาดเล็ก อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอีก


หลังจากนี้ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบ นายพรชัยและลูกบ้านรายอื่นๆ จะเดินทางไปร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในวันที่ 3 สิงหาคม เพื่อให้ช่วยเหลือในฐานะผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้า


ขณะที่ในกรุป LINE ลูกบ้านแอชตัน อโศก มีการ LINE สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความกังวล ว่าจะยังพักอาศัยอยู่ได้หรือไม่


โดยกรุป LINE ลูกบ้านแอชตัน อโศก ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันของผู้พักอาศัยในโครงการดังกล่าว หลังรู้คำสั่งศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้าง ต่างแสดงความกังวล เช่น ตึกนี้เรายังอยู่ไปได้เรื่อย มีกำหนดใช่ไหมว่าสิ้นสุดเมื่อไหร่ , มีคนเข้ามาตอบว่า อยู่ได้ แต่ขายไม่ออก ไม่มีคนซื้อ , อนันดาหวังปาฏิหาริย์ , มีการเสนอให้เชิญผู้บริหารอนันดาฯ มาคุยแบบตัวเป็นๆ ไม่ใช่ zoom , สรุปเราต้องรออีก 14 วันใช่ไหมคะ , บางรายนับเป็นข่าวร้ายในชีวิต เพราะเป็นบ้านหลังแรกที่ไทย หวังใจว่าจะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณ บางคนสอบถามถึงมาตรการเยียวยา รวมทั้งมีการเสนอให้รวมตัวกันฟ้องร้องเพื่อรักษาสิทธิ ผ่านทาง สคบ. เป็นต้น