สังคม

เช็กทางเลื่อน สนามบินดอนเมือง ใช้งานมา 27 ปี ตรวจเช็กทุกวัน - 'อ.อ๊อด' ชี้จุดอันตรายที่สุดคือส่วนปลาย

โดย nattachat_c

30 มิ.ย. 2566

43 views

วานนี้ (29 มิ.ย. 66) เวลา 08.27 น. ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้รับการจากท่าอากาศยานดอนเมือง ผู้โดยสารหญิง ขาข้างซ้ายถูกดูดเข้าไปติดในทางเลื่อน บาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นขาขาด เหตุการณ์บริเวณทางเลื่อนที่ 2 ระหว่างสะพานเทียบเครื่องบิน หรืองวงช้าง 4 กับ 5 ขาออก อาคาร 2


ที่เกิดเหตุพบ คุณสุวรรณี อายุ 57 ปี นั่งร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตรงปลายทางบันไดเลื่อน ขาข้างซ้ายหลุดเข้าไปติดใต้ทางเลื่อน มีบาดแผลฉกรรจ์ ขาข้างซ้ายถูกเครื่องจักรด้านล่างตัดขาดช่วงเลยหัวเข้ามาเล็กน้อย 


ใกล้กันพบกระเป๋าถือสีขาว และกระเป๋าเดินทางสีชมพูแบบมีล้อเลื่อนล้มอยู่ มุมกระเป๋าด้านล่างขวา พังเสียหาย หล้อหน้าและล้อหลังหลุด 


นอกจากนี้ บริเวณซี่หวียึดหัวสะพานทางเลื่อนหลุดออกมา 2 ชิ้น ทำให้พื้นทางเลื่อนทรุดตัว ขาจึงรอดลงไปติดอยู่ 


ทีมแพทย์ของสนามบินดอนเมืองได้รีบเข้าไปช่วยเหลือ แต่ต้องใช้เวลากว่า 20 นาที ถึงสามารถนำผู้บาดเจ็บออกมาได้ แล้วถึงได้เห็นแผลฉกรรจ์ช่วงเหนือเข่าเล็กน้อย ลักษณะขาถูกตัดขาด เลือดไหลโชก จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ภูมิพล


หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบใต้ทางเลื่อน พบชิ้นส่วนขาซ้าย ตั้งแต่ช่วงเหนือเข่ามาถึงปลายเท้า 1 ท่อน ล้อหล่น 2 ล้อ จึงรีบนำขาไป รพ.ภูมิพล

------------

สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้บาดเจ็บเป็นผู้โดยสารของสารบินนกแอร์ ดอนเมือง-นครศรีธรรมราช กำลังจะกลับบ้าน ระหว่างเดินทางมาทางเลื่อน เหมือนทางเลื่อนมันทรุด ผู้บาดเจ็บก็ล้มลง แล้วขาติด จนขาถูกตัดขาด 


ผู้โดยสารคนหนึ่งที่เดินอยู่นอกทางเลื่อนเผยนาทีสยองว่า ขณะผู้บาดเจ็บยืนอยู่บนทางเลื่อนจะสุดทางอยู่แล้ว ทางเลื่อนทำงานผิดปกติสะดุดติดขัด ทำให้หญิงผู้บาดเจ็บและกระเป๋าเดินทางล้มลงไปด้วยกัน ขาข้างซ้ายถูกดูดลงไปติดอยู่ใต้ทางเลื่อนร้องขอความช่วยเหลือด้วยความตกใจ แต่ระบบทางเลื่อนยังไม่หยุดทำงานทันที ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าเจ้าหน้าที่จะมาตัดการทำงานทางเลื่อน

------------

ทีมข่าวเดินทางไปถึงสนามบินดอนเมืองไ ด้พบกับหนึ่งในผู้โดยสารที่กำลังจะเดินทางเข้าทางเลื่อนที่เกิดเหตุครั้งนี้ ให้ข้อมูลด้วยท่าทีตกใจว่า ขณะเกิดเหตุนั้นเธอเห็นผู้บาดเจ็บเดินเข้าไปบริเวณทางเลื่อนตามปกติ ซึ่งตัวเธอนั้นอยู่ด้านหลัง แต่ไม่ได้เข้าทางเลื่อน เป็นการเดินอยู่ข้างๆ


จากนั้นไม่นานพบเห็นว่า มีลักษณะคล้ายการสะดุด ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการสะดุดของทางเลื่อน หรือผู้บาดเจ็บ หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และก็เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น


ซึ่งผู้โดยสารที่ให้ข้อมูลท่านนี้บอกว่า ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำให้ไม่สามารถเดินทางไปต่อได้ โทรให้ญาติมารับกลับบ้าน ยกเลิกการเดินทางทันที เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
------------

พนักงานสอบสวนตรวจสอบหาภาพกล้องวงจรปิด ภายในท่าอากาศยานดอนเมืองที่เห็นเหตุการณ์ชัดๆ แต่ปรากฏว่ามีแต่ภาพระยะไกล เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บยืนอยู่บนทางเลื่อน มีกระเป๋าตั้งอยู่ด้านหน้า จนใกล้สิ้นสุดทางเลื่อนแล้วทันใดนั้นทางเลื่อนเกิดอาการสะดุด ทำให้ผู้โดยสารสาวและกระเป๋าเดินทางล้มลงพร้อมกัน ขาข้างซ้ายถูกสายพานทางเลื่อนดูดลงไปจนถูกตัดขาดดังกล่าว


หลังเกิดเหตุนายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมผู้บริหารท่าอากาศยานดอนเมือง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยปิดการใช้ทางเลื่อนชั่วคราว เร่งนำทีมวิศวกรเข้าสำรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด และตรวจสอบความปลอดภัยใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง

------------

ต่อมาเวลา 15.00 น. ทางท่าอากาศยานดอนเมืองแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง ชี้แจงว่า กรณีเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้น เมื่อเวลา 08.27 น. ในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศขาเข้า บริเวณ Pier 4 เกิดการยุบตัวลงในขณะที่มีผู้โดยสารใช้งานอยู่ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังจะเดินทางไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ทางเดิน South Corridor ระหว่าง Pier 4 – Pier 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2


ผู้โดยสาร เพศหญิงอายุ 57 ปี ถูกทางเลื่อนดูดขาไปติดตั้งแต่หัวเข่า ขึ้นไป ทำให้ขาขาดได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตอนั้น ทีมเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปประถมพยาบาล และรีบนำส่งโรงพยาบาลพยาบาลภูมิพล โดยเบื้องต้นทางโรงพยาบาลภูมิพลระบุว่าผู้โดยสารรายนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีการเสียเลือดจำนวนมากจึงต้องให้เลือด ทั้งนี้ผู้โดยสารมีสติและแจ้งความประสงค์ว่าขอไปรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการเคลื่อนย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สุขุมวิท


ส่วนสาเหตุขณะนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ว่าเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์หรือเกิดจากมีผู้กระทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นรวมไปถึงความการใช้งานของทางเลื่อนนี้เป็นเวลานาน


ส่วนกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์นั้นก็เป็นกล้องที่อยู่ในระยะไกลจึงทำให้ไม่เห็นภาพที่แน่ชัดจึงขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อนถึงจะแจ้งสื่อมวลชนให้เร็วที่สุด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบกับผู้โดยสารและความเชื่อมั่นในการใช้บริการ สนามบินดอนเมือง ทั้งนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา โดยให้หน่วยงานนอกคือ วสท.ร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม


เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากอุปกรณ์ หรือเกิดจากการสะดุดของผู้โดยสาร แต่ภาพที่ปรากฏหลังจากเกิดเหตุ จะเห็นได้ว่า ล้อของกระเป๋าหลุดออกไปติดอยู่ใต้สายพานทางเลื่อน


ซึ่งตามปกตินั้นซี่หวี จะต้องอยู่ครบไม่มีการหักหากมีการหักติดกันสองซีกจะมีการเปลี่ยนทันทีแต่ในกรณีนี้ก่อนเกิดเหตุไม่ได้หักแต่ภาพที่ปรากฏซื้อออกไปจะเห็นว่ามีการหักนั้นเกิดจากแรงกระแทกและยังไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใดซึ่งกรณีที่เกิดเหตุนี้เกิดจากสาเหตุอะไรนั้นจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีสิ่งใดไปกระแทกจนกระทั่งสิ้นปีนี้หลุดแล้วล้อกระเป๋าของผู้โดยสารตกไปอยู่ด้านล่างใต้สายพาน จนทำให้เกิดช่องโหว่และเกิดเหตุครั้งนี้หรือไม่


ทั้งนี้จะต้องมีการตรวจสอบทั้ง ในส่วนของ บริษัทที่ดูแลรับผิดชอบการซ่อมบำรุงและติดตั้งทางเลื่อนนี้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเกิดจากอะไรรวมไปถึงมีหน่วยงานส่วนกลางของ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยหรือ วสท. มาตรวจสอบด้วยเพื่อที่จะให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสที่สุด


ส่วนกรณีกล้อง ซีซีทีวี เห็นเหตุการณ์และมีรายงานว่ามีผู้โดยสารคนอื่นเห็นเหตุการณ์ ก่อนเกิดเหตุ มีการสะดุด ไม่แน่ชัดว่าผู้โดยสารสะดุดหรือ ทางเลื่อนสะดุด ผอ.ระบุว่ากรณีนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกเช่นกัน เพราะในกล้องซีซีทีวีอยู่ไกล ทำให้ไม่เห็นภาพชัดเจน


ในช่วงนี้ ทีมข่าวพยายามสอบถามขอคำตอบจากท่านผอ. ว่า กรณีนี้เกิดประชาชน ผู้โดยสาร อยากทราบ สาเหตุเบื้องต้น พอจะให้คำตอบได้หรือไม่เพราะภาพที่เห็นมันไม่ใช่การยุบตัวของทางเลื่อน


ผอ. บอกว่า ให้คำตอบยังไม่ได้ เพราะหาก วินิจฉัยออกไปเกิดความผิดพลาดสับสน จะทำให้ประชาขนไม่เชื่อมั่นในการใช้บริการสนามบินจึงต้องหาสาเหตุจริงๆก่อนและจะตอบนักข่าวอีกครั้ง


สำหรับทางเลื่อนในสนามบินดอนเมืองนั้นมีทั้งหมด 20 ตัวโดยเป็นตัวเก่า 14 ตัว ตัวใหม่ 6 ตัวและ “ตัวที่เกิดเหตุนี้ ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งหากนับรวมจนถึงปัจจุบันก็ใช้งานมาแล้ว 27 ปีโดยผู้อำนวยการยืนยันว่ายังสามารถใช้งานได้หากมีการบำรุงรักษาตามรอบ”


การบำรุงรักษาเป็นประเภทวันต่อวัน ทุก 7 วัน ต่อเดือนและทุกสามเดือนและรายปี และตรวจใหญ่ล่าสุด 21 มิถุนายน 66 โดยมีบริษัทที่ดูแลเข้ามาดูแลบำรุงรักษา คือบริษัทสยามฮิตาชิ ประเทศไทยจำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายบริการหลังการขาย ที่ได้รับการรับรองจากบริษัทฮิตาชิของญี่ปุ่นโดยตรง มีความเชี่ยวชาญและดูแลเป็นประจำทุกวันจะตรวจสอบก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งซี่หวี คือจุดสำคัญตัวสุดท้าย ปกติ รุ่นใหม่จะมีการแจ้งเตือนว่าระวังสิ้นสุดทางเลื่อนแต่รุ่นนี้ของสนามบินดอนเมืองไม่มีและไม่มีตัวแปรง ที่จะคอยกั้นป้องกันความปลอดภัยก่อนจะถึงตัวซี่หวีอีกชั้นหนึ่ง


โดยทางสนามบินมีการเตรียมของบประมาณในการเปลี่ยนแปลงทางเลื่อนทั้งหมดในปี 2568 แต่ในกรณีนี้เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นก็คงจะมีการขอพิจารณาเปลี่ยนเร็วขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกเป็นงบประมาณเร่งด่วนในปี 2567


ส่วนการทำงานของเซ็นเซอร์ กรณีเกิดเหตุนี้ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใดจึงทำให้เซ็นเซอร์ ซึ่งตามปกติหากมีวัตถุใดชนหรือเกิดเหตุไม่ปกติตัวเซ็นเซอร์จะทำงานหยุดทันทีแต่กรณีนี้เมื่อมีการซี่หวีหักและกระเด็นออกไปทำให้เกิดช่องว่างเป็นรูโหว่ระหว่างซี่ จึงทำให้การหยุดทำงานทางเลื่อนไม่ได้หยุดทันที ระบบเซ็นเซอร์จะค่อยๆหยุดทำงานตามรอบ


และในขณะเกิดเหตุก็มีผู้โดยสารมากดปุ่มหยุดการทำงานทางเลื่อนที่อยู่ด้านข้างจึงยังไม่แน่ใจว่าระหว่างการที่ผู้โดยสารมากดปุ่มหยุดการทำงานกับระบบหยุดเองนั้นเหตุใดเกิดขึ้นก่อนกัน


“ถ้าเกิดมีหลุมใหญ่หรือ รูโหว่ เกิดขึ้น เซ็นเซอร์การทำงานอาจจะตรวจจับได้ช้าลง จึงทำให้ทางเลื่อนไม่หยุดการทำงาน ทันที จึงทำให้ขาผู้โดยสารดูดเข้าไปและดึงเข้าไป”


ส่วนการดูแลเยียวยารักษาผู้โดยสาร ผอ.ระบุว่า จะดูแลอย่างเต็มที่ทั้งการรักษาอาการและการเยียวยาค่าใช้จ่าย โดยเบื้องต้นทางผู้โดยสารหรือญาติผู้โดยสารยังไม่ได้มีการเรียกร้องอะไร  หรือมีท่าทีจะดำเนินคดี


แต่ทางทอท. ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะดูแลอย่างเต็มที่พร้อมรับผิดชอบทุกกรณี ซึ่งผู้โดยสารรายนี้ ต้องเสียขาไป ก็จะต้องสอบถามกับครอบครัวถึงการดูแลว่าจะเป็นรูปแบบไหน ขอพิจารณาก่อนว่าจะดูแลกันในรูปแบบใด จะเป็นค่าเสียหาย หรือเป็นอะไรทางญาติที่จะเรียกร้องแต่จะทำให้เหมือนเดิมคงเป็นไปไม่ได้ (ทำขา) จะต้องมีการคุยกัน


ทั้งนี้ ต้องขอโทษ กับเหตุที่เกิดขึ้น ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการใช้บริการ ทอท.พร้อมจะตรวจสอบแก้ไขให้เกิดความปลอดภัย พร้อมขอแสดงความเสียใจกับผู้โดยสารและครอบครัวของผู้โดยสารคนดังกล่าวด้วย

-------------

ด้านนายชยาศิส บำรุงสวัสดิ์ ผอ.ฝ่ายไฟฟ้าและเครื่องกล อธิบายว่า ปกติทาง เลื่อนนี้มีระบบเซฟตี้ที่ดูแลเป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ทันสมัยเหมือนรุ่นใหม่ที่ปรากฏในสนามบินสุวรรณภูมิ


โดยตามปกติผู้โดยสารจะสังเกตว่าด้านข้างหรือด้านหน้าของซีวีก่อนจะถึงจุดสุดท้ายจะมีแปลงติดอยู่ด้านข้างเพื่อที่จะเป็นตัวกันเป็นส่วนหนึ่งในระบบเซฟตี้ป้องกันไม่ให้มีชิ้นส่วนหรือวัตถุเข้าไปภายในระบบทางเลื่อน


แต่ที่สนามบินดอนเมืองไม่มีแปลงตัวนี้ซึ่งไม่ได้หมายความว่าระบบเซฟตี้จะไม่ดีแต่มีระบบเซฟตี้อย่างอื่น ไม่จำเป็นต้องมีแปรงอย่างเดียวเท่านั้น


ซึ่งทางเลื่อนนั้นเป็นการใช้สิ่งของที่มีการเคลื่อนไหว บนทางเลื่อน ตามปกติแล้วหากมีวัตถุแปลกปลอมหรือมีการกระแทกบริเวณซีกบี๋จุดสุดท้ายก่อนจะสิ้นสุดทางเลื่อนนั้นเครื่องจะหยุดทำงานทันที นี่คือระบบเซฟตี้ โดย ทุกวันก่อนจะเปิดให้บริการ จะตรวจเช็คระบบ รอบเช้าประมาณ 6 โมงเช้าก็ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร


แต่เหตุครั้งนี้ถ้า พิจารณาจะเห็นว่าซี่หวีที่มีการกระแทกและหลุดออกไปจนทำให้เกิดรูโหว่ หรือ ช่องว่างตามปกติเซ็นเซอร์มันควรจะสั่งตัด และระบบการทำงานจะค่อยๆหยุด จนครบวงรอบจะหยุด ประเด็นนี้ ทางเราก็คาใจอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น


ไม่ได้หมายถึงเซ็นเตอร์ช้าแต่หมายถึงว่าเหตุการณ์นี้ต้องไปเช็คก่อน ว่าก่อนที่ผู้บาดเจ็บคนนี้มาใช้ทางเลื่อน มีใครทำให้ซี่หวีได้รับแรงกระแทก จนเสียหาย หรือ อาจจะเกิดขณะผู้บาดเจ็บคนนี้อยู่ก็เป็นได้

------------
วานนี้ (29 มิ.ย.) รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยถึง กรณีเกิดอุบัติเหตุที่สนามบินดอนเมือง บริเวณทางเลื่อนในอาคารผู้โดยสาร จนเป็นเหตุให้มีผู้โดยสารภายในสนามบินได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด โดยระบุ ว่า


ทางเลื่อนและบันไดเลื่อนมีหลักการทำงานเหมือนกัน หลักๆมันจะมีแผ่นซ้อน ที่ทำให้แผ่นเหล็กเลื่อนได้ เพราะฉะนั้นมันจะมีร่องที่สลับฟันปลากันอยู่ ซึ่งจุดอันตรายของทางเลื่อนและบันไดเลื่อน ที่อันตรายที่สุดคือตรงจุดปลาย เพราะฉะนั้นที่สนามบินจึงบอกว่า “ระวังสิ้นสุดทางเลื่อน” ซึ่งปกติแล้วหากเกิดอุบัติเหตุมันจะมีออโต้สวิตซ์ ที่จะปิดการทำงาน หากฝาเหล็กเปิดจะหยุดการทำงานทันที นอกจากนี้มันก็มีปุ่มที่เราสามารถกดเองได้ด้วย ซึ่งเคสดังกล่าวนี้ ตนคาดว่าถูกดูดตรงปลายพอดี


ขณะเดียวกัน รศ.วีรชัย ยังยกตัวอย่างจากการไปทดลองขึ้นบันไดเลื่อนว่า หากเกิดการชำรุด จะมีร่องที่สามารถดูดได้ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นการดูดรองเท้า หรือพอดูดเข้าไปแล้วติด ตัวออโต้สวิตซ์มอเตอร์จะหยุดทันที


แต่เคสนี้ตนมองว่ากระเป๋าไปสะดุดก่อนล้ม ในลักษณะพับล้ม คือขาพับลง จึงถูกดูดเข้าไป ซึ่งเคสนี้ผู้เสียหายสวมใส่กางเกงยีนส์ เริ่มจากกางเกง จากนั้นในส่วนของขาก็โดดดูดไปด้วยเลย และหากถามว่าทำไมขาถึงลงไปได้ เนื่องจากว่าตัวเหล็กบริเวณตรงปลาย จะมีโค้ง สามารถพับได้ แต่ว่าความคมของเหล็กที่เหลืออยู่เหมือนกับดันเราเข้าไปโดนใบมีด ทำให้สูญเสียอวัยวะไป


สำหรับเคสนี้ รศ.วีรชัย ได้วิเคราะห์ว่า ทางเลื่อนดังกล่าวอายุการใช้งานเยอะ และมั่นใจว่าไม่ได้เปลี่ยนมา 27 ปี ตามการแถลงข่าว เพราะฉะนั้นหากเหล็กมีการเผยอ ก็จะทำให้ถูกดูดมากขึ้น ส่วนประชาชนคงไม่รู้หรอกว่าจะมีตัวสวิตซ์ตบให้บันไดเลื่อนหยุดได้


ทั้งนี้ รศ.วีรชัย ย้ำชัดเลยว่า เคสนี้ตนมองว่าไม่มีอะไรมากขอใช้คำพูดสั้นเลยว่า “เก่า” ส่วนการบำรุงรักษาบอกว่ามีการบำรุงรักษาทุกๆ 3 เดือน แต่ตนมองว่าช่างน่าจะเป็นการดูแค่ตัวมอเตอร์ และจาระบีเป็นหลัก ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ คาดว่าน่าจะเกิดจากความประมาท ตรงนี้ต้องไปดูว่าเหล็กตำแหน่งที่ม้วนลงเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเคสนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบเช่นกัน


เมื่อถามว่ารองเท้ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ รศ.วีรชัย กล่าวว่า แม้แต่รองเท้ายาง มองว่าไม่น่าที่จะดูดได้ หากโลหะที่ทำมีการบำรุงรักษา ต่อให้ยืนอยู่เฉยๆ เท้ายังสามารถเกยขึ้นไปได้เลย แต่ถ้าโลหะและตำแหน่งตรงปลายเกิดการเผยอ ชำรุด และเปิด ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ายาง รองเท้าหนัง หรือรองเท้าประเภทใดสามารถดูดได้หมดเลย


รศ.วีรชัย ฝากทิ้งท้ายเป็นอุทาหรณ์ว่า เรื่องความประมาทเป็นหนทางสู่ความวิบัติ และเคยมีเหตุการณ์ เช่น ผู้โดยสารรองเท้าติดมาแล้ว นั่นหมายความว่า ทางเลื่อนมีปัญหา และผ่านมา 27 ปี แล้วมองว่าต้องมีการบูรณาการแล้ว รวมทั้งตึกต้องมีการตรวจสภาพด้วยเช่นกัน อุปกรณ์บางอย่างถึงเวลาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน

-------------




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Y9VGtGMDR1I

คุณอาจสนใจ

Related News