สังคม

รวบเจ้าแม่บัญชีม้า สารภาพหมดเปลือกการหาบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์

16 ก.พ. 2566

846 views

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCTชุดปฏิบัติการที่ 5 และทีมสืบสวนนครบาลแกะรอยสืบสวนทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการปราบปรามขบวนการเปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเด็ดขาด พบว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบการหาบัญชีม้าต่างไปจากเดิม โดยล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หรือหน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 สืบสวนพบว่านางมลเป็นเจ้าแม่เปิดบัญชีม้าให้กับบอสชาวจีน หัวหน้าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และสืบนครบาล จับกุมตัว นางสาวดวงกมล อายุ 37 ปี หรือ มล ชาวต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกง แสดงตนเป็นคนอื่นหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


สืบเนื่องจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดในปัจจุบันซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้วางแนวทางการป้องกันและปราบปรามในทุกมิติ เสมือนการทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้มีการจัดตั้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมคอยวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้


ต่อมาได้สืบสวนกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบหลอกให้หลงรักและลงทุนเหรียญดิจิทัล จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ทำการสืบสวนจนทราบแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้คือ จะมีการสร้างโปรไฟล์เป็นหนุ่มเกาหลีที่มีโปรไฟล์ดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาตีสนิท โดยพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ


เมื่อพูดคุยก็รู้ว่าคนร้ายเป็นคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้จริง ๆ ทำให้เกิดความเชื่อใจ คนร้ายจึงชักชวนลงทุนเทรดสกุลเงินดิจิทัลคริปโตเคอเรนซี ซึ่งผู้เสียหายก็มีความรู้ด้านสกุลเงินดิจิทัลคริปโตเคอเรนซีอยู่บ้าง จึงหลงกลคนร้ายลงทุนเทรดผ่าน แอปฯและเว็บไซต์ ซึ่งสามารถถอนออกได้จริง จึงหลงกลอุบายของคนร้าย ทำให้ใช้เงินลงทุนมากขึ้น โดยมีการโอนเงินไปให้กับคนร้ายที่บัญชีชื่อ น.ส.ดวงกมล


จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงกมล 3 หมาย คือ


1.หมายจับศาลอาญา ที่ จ.1098/2565 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น

2.หมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.27/2566 ลงวันที่ 11 มกราคม 2566 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง

3.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน


ต่อมาวันที่ 15 ก.พ. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 และสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ดวงกมลฯ คนร้ายกบดานอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีพฤติกรรมพบปะกับบอสชาวจีนที่โรงแรมชื่อดังในพื้นที่พัทยาบ่อยครั้ง จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ดวงกมลฯ ตามหมายจับ


ในชั้นจับกุม น.ส.ดวงกมลฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเองไม่มีงานทำและติดการพนันออนไลน์ประเภทปั่นสล็อต และได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งทางเฟซบุ๊กซึ่งชักชวนให้เปิดบัญชีม้า ตนเองต้องการใช้เงินจึงยอมทำทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย


โดยจะมีคนพาไปที่ธนาคารและให้ตนเองเข้าไปเปิดบัญชีคนเดียว เมื่อเสร็จแล้วก็จะส่งมอบสมุดบัญชีและบัตรให้ จากนั้นจะซื้อซิมเปิดเบอร์โทรศัพท์ให้ และพาไปพบกับบอสชาวจีนที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา เพื่อทำการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคารให้กับบอสชาวจีนคนนั้น


ซึ่งหลังเสร็จแล้วจะได้ค่าเปิดบัญชีละ 1,500 บาท โดยผู้ที่ให้เปิดบัญชีอ้างว่าจะนำบัญชีไปใช้หมุนเวียนเว็บพนัน ตนเองไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้หลอกลวงเยอะขนาดนี้ โดยยอมรับว่าเปิดบัญชีจำนวนมากให้กับคนนี้ไปหลายบัญชีแล้ว


หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT 5 ได้นำตัว น.ส.ดวงกมล ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ด้วยระบบแอปพลิเคชันของธนาคารในปัจจุบันมีการพัฒนา มีมาตรการที่รัดกุมมากขึ้น และด้วยจากสื่อสังคมที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ทำให้ประชาชนได้ทราบถึงโทษของการเปิดบัญชีม้า ซึ่งทำให้เหล่าผู้รับจ้างเปิดบัญชีย่อมมีน้อยลง


แต่ด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มีการพัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา มีการปรับแผนประทุษกรรมในการหาบัญชีที่มีความยากและรัดกุมมากขึ้น ซึ่งเราจะมีการขยายผลเพื่อตัดช่องทางการเปิดบัญชีม้าเหล่านี้ให้สิ้นซาก และขอเตือนไปยังประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชีม้านั้น ผู้ที่มาจ้างเปิดนั้นย่อมนำไปใช้ในทางที่ผิดอยู่แล้ว มิเช่นนั้นก็คงไม่ใช้ชื่อผู้อื่นเป็นคนเปิด และด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการระดมจับกุมกวาดล้างเหล่าผู้ต้องหา บัญชีม้า อย่างเข้มข้นตลอดมา ตามนโยบายของ


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขอเตือนว่าอย่าคิดที่จะรับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้ใด มันไม่คุ้มได้คุ้มเสีย เพราะเมื่อได้รับจ้างเปิดบัญชีให้เหล่ามิจฉาชีพแล้ว อย่างไรก็ต้องถูกจับกุม เพียงแต่จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง

คุณอาจสนใจ