ผู้ปกครองโวย ลูกชาย ป.3 ถูกลงโทษลุกนั่ง 300 ครั้ง จนไตทำงานผิดปกติ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ลงข้อความสมาชิกฝากแจ้งเรื่อง ลงโทษหนักไปไหมกับเด็กวัยขนาดนี้ พร้อมได้โพสต์ภาพ เด็กนักเรียนชาย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.รือเสาะ (ประชารัฐ) ถูกผู้ดูแลลงโทษให้เด็กลุกนั่ง จำนวน 300 ที จนต้องเข้าโรงพยาบาลอาการสาหัส ทำให้เด็กเดินไม่ได้


และที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้ตับไตทำงานไม่ปกติฉี่ไม่ออก เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กตัวแค่นี้ ถึงน้องจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่ควรทำถึงขนาดนี้มันเกินไปไหม จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ ถึงการลงโทษเด็กชายในครั้งนี้ไม่เหมาะสมและรุนแรงเกินกว่าเหตุ


จากการติดตามเรื่องดังกล่าว ณ โรงพยาบาลรือเสาะ จ.นราธิวาส ทราบว่า ด.ช.ป่วยจากการถูกลงโทษนอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกผู้ป่วยในชาย โดยมี น.ส.นิมูรณี อายุ 33 ปี ชาวต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ผู้เป็นมารดากำลังเฝ้าดูแลอาการบุตรชาย


โดยทางโรงพยาบาลได้นำป้ายงดเข้าเยี่ยมแพทย์กำลังตรวจผู้ป่วยมาตั้งไว้บริเวณประตูทางเข้าตึกผู้ป่วยในชาย และอนุญาตให้เพียงญาติ 1 คน ที่สามารถอยู่เฝ้าเตียงผู้ป่วยได้ ทำให้ยายและญาติของเด็กชาย รวม 2 คน ต้องออกมานั่งอยู่ที่บริเวณเก้าอี้ที่ตั้งไว้หน้าตึกผู้ป่วยในชาย ส่วน น.ส.นิมูรณี ผู้เป็นมารดา ได้แจ้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือมายังผู้สื่อข่าว หากแพทย์ทำการตรวจบุตรชายแล้วเสร็จ จะออกมาพบเพื่อให้รายละเอียดต่าง ๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น


โดยในระหว่างรอมารดาของเด็กชาย ญาติคนหนึ่งที่นั่งหน้าตึกผู้ป่วยในชาย ได้ให้รายละเอียดเบื้องต้นว่า เด็กชายเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนประจำ พักที่หอภายในโรงเรียนจันทร์ถึงศุกร์ ซึ่งในทุกวันศุกร์จะกลับบ้าน และเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมายายเห็นผิดปกติที่ไม่ยอมลุกเดิน เมื่อสอบถาม เด็กชายเอาแต่ร้องไห้


เมื่อคาดคั้นจึงทราบว่าถูกผู้ดูแลหอพักทำโทษ จากมูลเหตุไม่ได้ปิดก๊อกน้ำในหอพักล็อกชั้น ป.1 ถึง ป.3 ผู้ดูแลสอบถามนักเรียนในหอพักที่ใช้น้ำในล็อกดังกล่าว ต่างไม่มีใครนักเรียนคนใดยอมรับจึงถูกผู้ดูแลลงโทษนักเรียนทั้งหมดที่อยู่ในล็อกดังกล่าวด้วยการให้ลุกนั่ง จำนวน 300 ที ซึ่งเป็นที่มาที่ไปของอาการป่วยเด็กชาย


ต่อมานายซุลกอรนัย อายุ 45 ปี บิดาของเด็กชาย ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการบุตร และได้เปิดเผยถึงรายละเอียดถึงปมเหตุเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่า สาเหตุมาจากเด็กนักเรียนไม่ปิดก๊อกน้ำจึงโดนทำโทษลุกนั่งจำนวน 300 ครั้ง ในล็อกชั้น ป.1 ถึง ป.3 ทั้งหมด เหตุเกิดช่วงเย็นวันพฤหัสที่ 19 ม.ค.66 แกกลับมาบ้านรู้สึกเจ็บ ๆ แต่ยังไม่บอก ตกดึงแม่เฝ้าดูอาการพบว่าฉี่ไม่ออก ตอนเช้าตนกลับไปบ้านดูสภาพลูกแล้วน้ำตาไหล พอเย็นวันเสาร์ได้พาลูกมาโรงพยาบาล หมอตรวจเลือดพบค่าตับสูง ล่าสุดอาการดีขึ้นเริ่มฉี่ได้ จึงอยากฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวกับผู้ดูแลเด็กให้ดีกว่านี้


รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด น.ส.นิมูรณี มารดาเด็กชาย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เสกสรร เรืองฤทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 66 เวลา 12.57 น. โดยแจ้งว่าเมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 บุตรชายกลับมาจากโรงเรียนสังเกตเห็นอาการผิดปกติไม่สามารถเดินได้ จึงถามบุตรชายทราบว่า โดนสั่งลุกนั่งเพื่อเป็นการทำโทษจำนวนหลายครั้ง จนทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ จนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน


และในเวลา 11.00 น. วันนี้ น.ส.สุธิภรณ์ ขนอม รอง ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1 และนายจรัญ ผอ.โรงเรียน รวมทั้งผู้ดูแลหอพักนักเรียนชายอีก 2 คน ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการ ด.ช. ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกผู้ป่วยในชาย โดยทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรือเสาะ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในภายตึกผู้ป่วยในชาย รวมถึงก็ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพ แต่คาดว่าน่าจะเป็นการนำผู้ดูแลหอพักนักเรียนชายมาขอโทษ พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยเพื่อเชิญผู้ปกครองของ ด.ช.ไปตกลงกันเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรักษาทั้งหมด


ด้านนายจรัญ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีเด็กไม่รู้คนไหนเปิดน้ำทิ้งไว้ในห้องน้ำจนล้นมันได้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง พอครั้งที่ 2 ถามใครก็ไม่รับผิดชอบผู้ดูแลหาก็บอกว่าฉันจะทำโทษเธอน่ะยกห้องคือทั้งหมด 21 คน โดยบอกว่าจะให้ลุกนั่ง 500 ครั้ง ซึ่งให้ไปทำเรื่อยช้าๆ เพราะจะเข้าแถวไปกินข้าว พอละหมาดเสร็จทำเป็นปกติอย่างงี้ ซึ่งสั่งทำจริงไม่ถึง 100 ครั้ง เราก็มีมาตราการได้คุยกับผู้ดูแลหอทำโทษนั้นทำได้แต่ให้เก็บขยะ


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีการคาดโทษจะมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ก็มีครับตามลำดับเช่นการตักเตือนอะไรประมาณนี้


ต่อมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรือเสาะ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ ณ ตึกผู้ป่วนในชาย จึงได้ประสานผ่านไปยัง สสจ.นราธิวาส และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรือเสาะ อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพเพื่อติดตามอาการเด็กชาย


ขณะที่ นพ.ซัมซุดดีน หามะ ผอ.โรงพยาบาลรือเสาะ กำลังตรวจอาการเด็กชาย ซึ่งมีมารดาและเครือญาติจำนวนหนึ่ง สามารถเข้าเยี่ยมอาการได้ โดย นพ.ซัมซุดดีน กล่าวถึงอาการเด็กชาย ว่า ผู้ป่วยเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งวิธีการรักษาก็คือ การให้น้ำเกลือและติดตามค่าตับค่าไตทุกวัน ถ้าเกิดว่าค่าไตดีขึ้นค่าตับดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้