หนุ่มนักธุรกิจ จ่อฟ้องฟิตเนสชื่อดัง หลังพระเครื่อง-นาฬิกาหรู-เพชร ถูกขโมยจากล็อกเกอร์ สูญร่วม 10 ล้าน

หนุ่มนักธุรกิจ สุดช้ำ เล่นฟิตเนสชื่อดังบนห้างย่านงามวงศ์วาน ถูกมือดีขโมยทรัพย์สินมีค่าพระสมเด็จฯ นาฬิกาฝังเพชรหรู เลส-แหวนเพชร สูญกว่า 10 ล้านบาท แฉมีลูกค้าของหายประจำแต่เรื่องเงียบ

วานนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสาธิต หนุ่มนักธุรกิจอายุ 35 ปี ชาวทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ว่าถูกมือดีขโมยฉกทรัพย์สินมีค่า ขณะเก็บไว้ในล็อกเกอร์ ตอนออกกำลังกายที่ฟิตเนสชื่อดังบนห้างย่านงามวงศ์วาน ทำให้เสียทรัพย์ไปกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 10 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา

นายสาธิต เปิดเผยว่า ตนชื่นชอบการออกกำลังกาย หลังทำงานเสร็จ มักจะแวะเวียนไปออกกำลังกายในฟิตเนส ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งนี้ย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี เป็นประจำ เพราะตนได้สมัครทำสมาชิกเอาไว้ ทุกครั้งที่ไปเล่น จะถอดเก็บสิ่งของมีค่าที่ใส่ติดตัวเป็นประจำ รวมกันเอาไว้ภายในกระเป๋าสะพาย แล้วใส่เก็บไว้ในล็อกเกอร์ที่เก็บของ ที่ทางฟิตเนสเตรียมให้ลูกค้าได้ใช้บริการ

เมื่อหลังจากออกกำลังกายเสร็จประมาณ 2 ชม.หรือเวลา 20.00 น. ตนได้เดินมาเปิดที่ล็อกเกอร์หมายเลข 017 เพื่อหยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่เก็บไว้ภายในตามปกติ แต่ต้องตกใจและใจหายวูบมาก เมื่อเปิดดูแล้วพบกับความว่างเปล่าอยู่ด้านใน กระเป๋าใบใหญ่ทั้งใบได้หายไปแล้ว ยังนึกเลยว่าเปิดล็อกเกอร์ผิดตู้ ผิดเบอร์หรือเปล่า จึงยืนตรวจสอบดูอย่างละเอียดอีกครั้ง จนแน่ชัดแล้วว่ากระเป๋าพร้อมของมีค่าได้ถูกโจรมือดีลักทรัพย์หายไปแน่แล้ว

ซึ่งภายในกระเป๋าสะพาย มีทรัพย์สินที่หายไป อาทิ พระเครื่อง / สมเด็จวัดระฆังเลี่ยมทอง หลวงพ่อโตเลี่ยมทอง / ครุฑเลี่ยมทอง / พร้อมสร้อยทอง / นาฬิกาโรเล็กซ์ฝั่งเพชร / เลสข้อมือฝั่งเพชร และแหวนเพชร พวงกุญแจรถใส่ห้อยไว้กับที่ห้อยหลุยส์วิตตอง สิ่งของที่หายไปหลายรายการ รวมกันมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ไม่น่าเชื่อทั้งที่ตนได้เก็บของทรัพย์สินมีค่าใส่กระเป๋าสะพายเอาไว้ในล็อกเกอร์ที่คิดว่าปลอดภัยเป็นอย่างดีสำหรับลูกค้า แต่กลับถูกขโมยไปทั้งกระเป๋าได้อย่างไรร่องรอยงัดแงะใดๆ

ต่อมาจึงรีบแจ้งทางพนักงานของสถานที่ออกกำลังกายดังกล่าว แล้วรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ซึ่งที่ฝาปิดตู้ล็อกเกอร์กลับไม่พบร่องรอยของการงัดแงะที่บริเวณล็อกเกอร์เก็บของแต่อย่างใด คาดว่าคนร้ายน่าจะอาศัยช่วงที่ตนไปออกกำลังกาย ใช้กุญแจสำรองอีกดอก มาไขเปิดเอาทรัพย์สินมีค่าไปทั้งกระเป๋าเลย ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ของมีค่ากระเป๋าของตนหายไปอยู่ล็อกเกอร์เดียว

เมื่อสอบถามทางพนักงานดูแลสถานที่ บอกเพียงแต่ว่าจะตรวจสอบให้ โดยในจุดนี้จะไม่มีกล้องวงจรปิดCCTV ติดตั้งบริเวณหน้าล็อกเกอร์ที่ใช้เก็บของมีค่าของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน ทั้งที่จุดอื่นๆ มีหมด จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี

จนถึงขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ติดต่อกลับมาเลย และได้ทราบข้อมูลมาว่า มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานที่ฟิตเนสชื่อดังแห่งนี้ ของได้หายไปหลายรายแล้ว ตนหวั่นว่าหากผ่านไปหลายวัน เคสของตนก็อาจเรื่องเงียบหายเข้ากลีบเมฆเหมือนกับรายอื่นๆ ซึ่งยังสงสัยว่ามีคนรู้ช่วงเวลา และหมายเลขตู้ที่ตนใช้เก็บของได้อย่างไร

จึงขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เร่งติดตามตัวจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย หวั่นว่าคนร้ายรายนี้จะก่อเหตุลักทรัพย์กับคนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ซึ่งทรัพย์สินต่างๆที่หายไป ตนต้องใช้เวลาทำงานกว่าจะเก็บหอมรอมริบอยู่หลายปี กว่าจะได้มาไม่ใช้เรื่องง่าย

ตอนนี้ทางครอบครัวตนได้ปรึกษาทนายความ เพื่อจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จำนวนกว่าหลายล้านบาท กับทางเจ้าของฟิตเนสแห่งนี้อยู่

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/in7ntkkL6LA