สังคม
คุณหมอชวนถกประเด็นวัฒนธรรมการตีลูก
โดย onjira_n
8 พ.ย. 2565
109 views
วัฒนธรรมการทำโทษเด็กด้วยการ ตี ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด แม้จะมีหลายโรงเรียนออกกฏห้ามตีเด็กแล้วก็ตาม หรือแม้แต่วัฒนธรรมครอบครัว การตีลูกสำหรับพ่อแม่นั้นยังคงเป็นความเชื่อ ว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี
ล่าสุดกลายเป็นประเด็นถกเถียงในโซเชียล เมื่อคุณหมอ ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ได้เขียนประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ จนชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยคุณหมอได้นำเรื่องราวที่ตนพบเจอเมื่อไปต่างแดน ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมต่างแดน ระบุไว้ว่า
" เมื่อผมมีโอกาสทำงานที่ประเทศคานาดา ได้พาครอบครัวไปด้วยจึงไปพักในบริเวณที่เป็นที่พักของคนมีครอบครัวและเด็ก เช้าวันหนึ่งคุณแม่ชาวจีนโกรธลูกมาก มายืนด่าลูกอยู่หน้าบ้าน ก็ไม่มีใครเข้าใจว่าแกว่าอะไรแน่ แต่แกด่าเสียงดังท่าทางรุนแแรงมีตีด้วยมือเล็กน้อย ผู้คนรอบๆตกใจกันเล็กน้อย
บ่ายวันนั้นมีรถตำรวจมาจอดหน้าบ้าน เชิญคุณแม่ไปสอบสวน จบลงด้วยการที่คุณแม่ถูกตักเตือน
และถูกบังคับให้เข้ารับการอบรมการดูแลเด็ก
สำหรับประเทศคานาดา การดูแลเด็กเป็นหน้าที่ของสังคมด้วย ไม่ใช่ว่าพ่อแม่จะทำอะไรก็ได้ ความเสี่ยงทางร่างกายและจิตใจต่อเด็กเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่มายุ่งได้
เอาแค่ถ้าทิ้งเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบไว้ในบ้านคนเดียวก็มีโอกาสถูกตำรวจเชิญไปโรงพักได้แล้ว
ในโรงเรียนการตีเด็กเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย เด็กประถมหนึ่งจะถูกสอนเรื่องสิทธิส่วนตัวก่อน เด็กทราบว่า ใครจะมาแตะเนื้อต้องตัวต้องขออนุญาตเด็กก่อน และเด็กมีสิทธิปฏิเสธได้ ฯลฯ
ประเทศที่เจริญแล้วอื่นๆเช่นฟินแลนด์ก็คล้ายกัน
นั่นเมื่อ 30 ปีก่อนนะ
กลับมาประเทศไทย หวังอยากพัฒนาให้โรงเรียนของเราดี ก็ไปดูว่า เขาสอนวิชาอะไรกัน ไม่มีความเข้าใจว่า โรงเรียนจะดีได้ต้องปลอดภัย ต้องสอนวัฒนธรรมที่ถูกต้อง ต้องปลอดภัย นักเรียนต้องมีความเชื่อมั่นก่อน
การลงโทษคนด้วยการทำร้ายร่างกายเป็นวัฒนธรรมโบราณ สมัยที่เด็กและภรรยาเป็นทรัพย์สินของพ่อ บ่าวเป็นของนาย เราเลิกตีบ่าวไปแล้ว ยังตีภรรยากันบ้าง แต่ยังตีเด็กโดยคิดว่า เป็นเรื่องดี เป็นการสั่งสอน
มีการวิจัยมากมายที่แสดงว่า การตีไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว หากใช้นานๆครั้งอาจมีผลในระยะสั้นบ้าง แต่ถ้าทำประจำเด็กก็จะชิน ไม่ได้ประโยชน์อะไร
ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือ การยอมรับว่าการตีเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เป็นการสอนเด็กว่า การทำโทษผู้อื่นโดยใช้กำลังทำร้ายเป็นเรื่องที่ถูกต้องยอมรับได้ เราจึงมีเด็กวัยรุ่นที่ใช้กำลังลงโทษกันเองให้เห็นเป็นข่าวประจำ
ผมก็เคยตีลูก แต่ถึงวันนี้ผมไม่บอกแล้วแหละว่ามันเป็นเรื่องดี มันเป็นเรื่องไม่ดีและผมเสียใจที่ทำไป หากมีโอกาสอีกครั้งก็จะไม่ทำอีก
คนรุ่นผมจำนวนมากยังคิดว่า รักลูกให้ตี
หากอยากให้ประเทศไทยมีโอกาสก้าวหน้าบ้าง ถึงเวลาเอาความคิดโบราณเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องออกจากสังคมได้แล้ว
ไม่ได้แปลว่า คนที่เคยตีลูกทำผิดหรือมีเจตนาไม่ดี แต่ต้องยอมรับว่า มันเป็นวัฒนธรรมอีกแบบหนึ่งแล้ว ไม่ใช่แบบที่คนยุคนี้จำนวนหนึ่งเขายอมรับกัน
มันก็คล้ายกับการขับถ่ายในส้วม การเข้าคิว ที่เดิมไม่ใช่วัฒนธรรมของเรา สังคมที่ต้องการพัฒนาต่อไปก็ต้องค่อยๆยอมรับวัฒนธรรมใหม่เป็น new normal ไปด้วย
การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ได้มีเพียงแค่รวยหรอก "
แท็กที่เกี่ยวข้อง พ่อแม่ตีลูก ,หมอชวนถกวัฒนธรรมการตีลูก ,ตีลูกดีหรือไม่