สังคม

อีก 1 ฮีโร่! สาวหล่อช่วย นร.ถูกไฟดูด – ยายน้องเรดิโอ ลงไปช่วยเด็กหมดสติข้างเสาไฟ เห็นชื่อถึงรู้เป็นหลานตัวเอง

โดย nattachat_c

19 ก.ย. 2565

48 views

จากเหตุการณ์ฝนตกหนัก จนน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และเกิดเหตุไฟฟ้ารั่วดูดเด็กนักเรียน จนได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ทุกคนปลอดภัย และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ


จากกรณี น.ส.จิดาภา เปรมปรีดิ์ (น้องเรดิโอ) นร.ชั้นม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ถูกไฟดูดนอนหมดสตินอนตะแคงข้างจมน้ำ ตรงจุดเสาไฟฟ้าส่องสว่าง ต่อมา

  • น.ส.สุภารัตน์ (น้องเอ๋) เข้าไปช่วย แม้ตัวเองจะมีอาการบาดเจ็บจาก จยย.ล้ม
  • น้องบอส นร. ชั้นม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ เข้ามาช่วยปั๊มหัวใจ
  • ฮีโร่อีกคนคือ นางสมถวิล เมืองณศรี อายุ 64 ปี ชาวบ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี


ถือว่าเคสนี้มีฮีโร่ 3 คน ที่เข้าไปช่วยน้องเรดิโอที่ถูกไฟดูด ร่วมกับน้องเอ๋และน้องบอส และนางสมถวิลเป็นคนถ่ายรูปที่แชร์ในโซเซียล ที่เป็นภาพน้องบอสใส่ชุดนักเรียน และสาวเสื้อส้มช่วยกันปั๊มหัวใจน้องเรดิโอ


น้องบอส ได้เล่าว่า ตอนนั้น เห็นคนมุงกัน ก็ยังไม่รู้ว่ามีคนโดนไฟดูด นึกว่าเด็กจมน้ำ ก็เข้าไปดู เห็นคนกำลังทำอะไรกันไม่ถูก คือทุบๆ อก เลยบอกว่า ผมรู้ๆ ให้ผมทำ แล้วก็ทำ CPR 


ซึ่งก่อนหน้าที่น้องบอสจะเจอแล้วทำ CPR คนที่ช่วยเด็กนักเรียนหญิง โดยไปดึงออกมาจากจุดที่ไฟรั่วคือ น้องเอ๋ น.ส.สุภารัตน์ โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เย็นวันที่ 16 ก.ย. ตนเองเดินทางจะไปคลินิกทำฟันกับแฟนสาว พอมาถึงถนนศรีชมชื่นด้านหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ปรากฏว่า แฟนที่ขับรถอยู่เห็นน้องผู้หญิงที่ยืนอยู่บริเวณเสาไฟ จู่ๆ ก็ล้มหงายหลังตึงทันที


พวกเราก็คิดว่าน้องเขาเป็นลม ร่างของน้องเขาก็จมน้ำที่กำลังท่วมถนน แฟนก็บอกว่าเข้าไปช่วยน้องเขาหน่อย เพราะน้องเขากำลังจมน้ำ ตนก็บอกกับแฟนว่า จะให้ไปจริงหรือ บาดเจ็บจากรถล้มอยู่นะ แต่เมื่อมองไปดูน้องเขาเห็นน้องเขานอนคว่ำหน้า จึงรีบเปิดประตูรถวิ่งขากะเผกจะไปช่วยน้องเขาทันที ก็ใช้มือซ้ายที่เจ็บ พยายามดึงร่างของออกมาเพื่อขึ้นไปบนพื้นคอนกรีตที่น้ำท่วมไม่ถึง


จากนั้นก็รีบปั๊มหัวใจ ปั๊มอยู่ประมาณ 2 นาที แต่เนื่องจากมือเจ็บทำอะไรไม่ได้มาก ก็เห็นน้องบอสที่ใส่ชุดนักเรียน และคุณยายวิ่งมาช่วย พวกเราก็สลับกันช่วยปั๊มหัวใจ ตอนแรกคิดว่าน้องเขาเสียชีวิตแล้ว เพราะตาค้าง ลิ้นจุกปาก มีเลือดออกทางจมูก คิดว่าคงไม่รอดแน่ แต่เมื่อช่วยกันปั๊มหัวใจช่วยกัน สุดท้ายเห็นน้องเขาลืมตาได้ เราก็ดีใจ ที่เราได้ช่วยให้น้องคนหนึ่งเขากลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม


ส่วนตนเองก็เจ็บขาและแขน แต่ในใจคิดว่าต้องช่วยน้องเอาให้ได้ มารู้ทีหลังว่าน้องถูกไฟดูดเราก็ตกใจ วิ่งเข้าไปช่วยน้องเขาได้อย่างไร หนูคิดว่าน้องเขาเสียชีวิตแล้วตอนแรก คิดในใจอยู่เสมอว่าต้องช่วยน้องให้รอด เพราหนูก็มีน้องสาวรุ่นราวคราวเดียวกับน้องเรดิโอที่ช่วยชีวิตเอาไว้ น้องเอ๋ฮีโร่อีกคนกล่าวตอนท้าย


ด้านนางสมถวิล เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังไปเฝ้าหลานสาว ว่า ช่วงเย็นวันนั้น ตนเองขับรถไปกับสามีเพื่อไปรับหลานสาว คือน้องเรดิโอกลับบ้าน ตอนแรกไม่รู้ว่าน้องที่ถูกไฟดูดเป็นหลานตัวเอง เห็นเด็กนร.ผู้หญิงในชุดนักเรียนนอนคว่ำข้างๆ เสาไฟฟ้า


เห็นน้องเอ๋วิ่งเข้าไปดึงร่างออกมา ตนเองก็วิ่งเข้าไปช่วย แต่น้องเอ๋มือด้านซ้ายเขามีบาดแผล เขาปั๊มหัวใจตอนแรกไม่ถนัด ตนเองจึงช่วยปั๊มหัวใจช่วย เพราะอดีตเคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่รพ.ศูนย์อุดรธานี ปั๊มไปสักพัก ดูแล้วน้องที่โดนไฟดูดคงไม่รอดแล้ว น่าจะตายแล้ว


ตนเองก็เลยจะพยายามถอดเสื้อชุดชั้นในออก เพื่อจะปั๊มหัวใจใหม่ พอพลิกร่างเพื่อจะถอดชุดชั้นใน เห็นป้ายชื่อนักเรียนชื่อจิดาภา จึงรู้ว่าเป็นหลานตัวเอง แทบช็อก ร้องจนเสียงหลง สติแตกไปเลย ทำอะไรไปไม่เป็น ด้วยความที่ตกใจที่เป็นหลานสาวถูกไฟดูด สติแตกไปแล้วก็ทุบหน้าอกหลานสาว จนน้องบอสบอกว่า ยายไม่ต้องทุบ ให้ผมปั๊มหัวใจเอง ไม่นานน้องก็ฟื้นกลับมา


ตอนแรกที่จำไม่ได้ว่าเป็นหลานตัวเอง เพราะหน้าตาน้องเขาเหมือนตายไปแล้ว หน้าซีด บวม มีเลือดออกทางจมูกและปากด้วย ยายจำไม่ได้จริงๆ ดีใจมากที่หลานชีพจรกลับมา เรื่องราวที่เกิดขึ้นยิ่งกว่าละครอีก ยายมีลูกสาวคนเดียวเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และมีหลานสาวคือน้องเรดิโอ รักหลานสาวคนนี้มาก จะมารับไปส่งทุกวันเลย


ตนขอขอบคุณน้องเอ๋กับน้องบอส ที่ช่วยหลานของยายให้ฟื้นชีวิตกลับมา รอดมาได้ขอขอบคุณน้องทุกคนที่ช่วยปฐมพยาบาลและปั๊มหัวใจให้น้องเรดิโอ หลานสาวรอดมาได้ จะไม่ลืมบุญคุณทุกคนเลย ยายสมถวิลกล่าวตอนท้าย พร้อมน้ำตาคลอ
-------------
จากเหตุการณ์ ที่ นายปรัชญา ใจบุญ หรือ น้องบอส อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ จ.อุดรธานี ได้เข้าช่วยชีวิตโดยการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตให้นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ที่นอนหมดสติจากการโดนไฟดูดบริเวณประตูหลังโรงเรียน จนสามารถฟื้นกลับมาหายใจและรอดชีวิต โดยภายหลังทีมกู้ภัยและประชาชนจิตอาสา ได้นำนักเรียนส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา


โดยน้องบอส ซึ่งเป็นนักศึกษาวิชาทหาร ระบุว่าได้ใช้ความรู้ในการช่วยชีวิตที่ได้เคยเรียนมาจาก หลักสูตรการเรียนการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) จนสามารถช่วยชีวิตเด็กนักเรียนได้ปลอดภัยตามที่ปรากฏเป็นข่าว


วานนี้ (18 ก.ย. 65) กองทัพบกขอแสดงความชื่นชมในการทำความดีของ “น้องบอส “ ที่กล้าหาญ มีความเสียสละ ใช้สติและจิตใจที่ดีงาม มีวิจารณญาณและวุฒิภาวะ เข้าให้การช่วยเหลือผู้อื่นในเหตุการณ์วิกฤติได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย โดยมิได้คำนึงถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเอง


ซึ่ง พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความชื่นชมน้องบอส ระบุเป็นตัวอย่างของเยาวชนในการทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น พร้อมให้หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเตรียมมอบรางวัลให้กับ นายปรัชญาหรือน้องบอส ที่เป็นนักศึกษาวิชาทหารและได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้รับการฝึกฝนมาให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคมได้อย่างน่ายกย่อง


อีกทั้งชื่นชมครอบครัวในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูเยาวชนคนดีผู้นี้ด้วย และยังสอดคล้องกับนโยบายของกองทัพบก ในการส่งเสริมคนดี ช่วยคนอื่นที่ได้รับความเดือดร้อน ทำให้สังคมไทยน่าอยู่ เป็นสังคมของความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อต่อกัน


สำหรับการเรียนการสอนในหลักสูตรการฝึกและศึกษาวิชาทหาร กองทัพบกได้มีการบรรจุเนื้อหาวิชาปฐมพยาบาลและเวชกรรมป้องกัน ตั้งแต่ นศท.ชั้นที่ 1 เพื่อให้ความรู้ในการช่วยชีวิตเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการดูแลตนเองหรือบุคคลอื่น นอกจากนี้ยังเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติ เสียสละเพื่อส่วนรวม จิตอาสาช่วยเหลือสังคม ให้กับนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อให้เป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตได้อย่างเข้มแข็งต่อไป

-------------

วานนี้ (วันที่ 18 ก.ย.) เวลา 13.00 น. แพทย์เจ้าของไข้ได้อนุญาตให้นายอรรถชัย อาจอุดม หรือน้องบาส ฮีโร่ช่วยน้องโซดาถูกไฟดูดกลับบ้านได้แล้ว ส่วนน.ส.จิดาภา เปรมปรีดิ์ หรือน้องเรดิโอ อายุ 15 ปี และ ด.ช.ชัยยุทธ เลยชัยภูมิ อายุ 12 ปี หรือน้องโซดา ยังคงต้องนอนรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อสังเกตอาการอีกระยะ


โดยวานนี้ นายวิจารย์ คลังบุญครอง ผช.ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 จ.อุดรธานี พร้อมคณะผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 ได้เดินทางนำกระเช้ามามอบเยี่ยมและให้กำลังใจกับน้องบาสฮีโร่ช่วยชีวิต น้องเรดิโอ นร.หญิงชั้นม.3 และน้องโซดา นร.ชั้นม.1 ด้วย


นายวิจารณ์ เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ทางการไฟฟ้าฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยการไฟฟ้าจะได้ร่วมกับเทศบาลนครอุดรธานี จะร่วมมือกันดำเนินการแก้ไขในส่วนของเสาไฟแสงสว่างตามถนนจุดอื่นๆ ในเขตจ.อุดรธานี ในวันที่ 20 ก.ย.65 นี้ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าสาธารณะดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว (RCD) และตรวจสอบสายไฟฟ้าและจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะของประชาชนในพื้นที่ทั่วเมือง


ทางด้านน้องบาส ฮีโร่ที่ออกจากรพ.วานนี้ เปิดเผยว่า กรณีผู้ใหญ่ใจดีที่ต้องการสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องทุนทรัพย์ ตอนนี้ผมมีความเพียงพอแล้ว หากต้องการจะช่วย ขอให้ช่วยเหลือน้องๆ ที่ถูกไฟฟ้าดูดจะดีกว่าเพราะน้องๆ โดนหนักกว่าผม ตอนนี้ตนเองร่างกายยังแข็งแรงดี วันนี้ก็ได้ออกจากรพ.แล้ว


ส่วนเงินที่ได้ก็จะให้ยายไปใช้หนี้ และเก็บไว้ทุนหากตนเองจะเรียนต่อ ผมอยากเรียนว่าหากในอนาคตหากตนเองเกิดผลข้างเคียงกระทบตามมาจากไฟดูด หรือน้อง ๆ ทุกคนเป็นอยู่ตอนนี้ อยากจะขอให้ผู้ใหญ่ทุกท่านหรือทางหน่วยงานที่เกี่ยวช่วยเหลือในส่วนของการรักษาก็เพียงพอแล้ว


แต่หากจะขอเงินเยี่ยวยาเป็นตัวเงินนั้นเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนเรื่องหัวใจผมยังโสด ผมยังไม่มีแฟน ขอใช้ชีวิตอยู่กับคุณยายดูแลคุณยาย และฝันอยากเป็นคนส่งของของไปรษณีย์ไทยทำงานใกล้ๆ บ้านดูแลคุณยายก็พอ


โดยการเดินทางกลับบ้านไปพักผ่อนของน้องบาสครั้งนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้สั่งการให้คนขับรถนำรถเก๋งหรูประจำตำแหน่ง ไปรับน้องบาสและคุณยายส่งกลับบ้าน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับฮีโร่ของชาวอุดรธานีคนนี้ด้วย

---------------

วานนี้ (18 ก.ย. 65) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างในหลายพื้นที่ จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากอุบัติภัยในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอุบัติภัยจากไฟฟ้าทั้งไฟฟ้าช็อตและไฟฟ้าดูด ที่อาจทำให้ได้รับอันตรายแก่ชีวิตได้ ดังกรณีเหตุการณ์ไฟฟ้าดูดเนื่องจากฝนตกน้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน จ.อุดรธานี


จึงสั่งการให้จังหวัด กทม.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง เร่งตรวจสอบจุดเสี่ยงอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว รวมทั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้เสาไฟฟ้า


โดยเฉพาะในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้าแก่ประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง หากตรวจสอบพบมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล หรือประเมินว่าจะเกิดอันตรายต่อประชาชน ให้รีบตัดกระแสไฟฟ้าทันที พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย


ทั้งนี้ ให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชน สร้างการรับรู้ในการระมัดระวังตนเองจากไฟฟ้าที่มักความเสี่ยงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่มีฝนตกและมีน้ำท่วมขัง


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ขอให้ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และย้ายขึ้นที่สูงให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึง


หากมีน้ำท่วมบ้านให้สับคัตเอาท์เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า โดยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้า มาดำเนินการปลดสวิตช์ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว และเพื่อความปลอดภัยไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะที่ร่างกายเปียกชื้นหรือยืนแช่น้ำ


รวมถึงไม่ควรลุยน้ำเข้าใกล้แนวสายไฟ เสาไฟฟ้า หรือสัมผัสวัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่ว อาจจะทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์ไฟฟ้ารั่ว สามารถแจ้งเหตุได้สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ Line Official Account ปภ.รับเเจ้งเหตุ 1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป


และหากพบเห็นจุดเสี่ยงอันตรายจากไฟฟ้าสามารถโทรแจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สายด่วน 1129 ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ แจ้งได้ที่สายด่วน 1130 การไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขให้เกิดความปลอดภัย

---------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/2QY4z3885Ms

คุณอาจสนใจ

Related News