สังคม
ปธ.คอนโด เล่าเหตุน้ำทะลัก แค่ 10 นาที น้ำเต็มลานจอดรถชั้นใต้ดิน - หาทางเยียวยาเบนซ์ป้ายแดง จมน้ำไม่มีประกัน
โดย thichaphat_d
12 ก.ย. 2565
28 views
จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด เผยเหตุการณ์น้ำท่วมลานจอดรถชั้นใต้ดินของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ริมถนนเทพรักษ์ ย่านสะพานใหม่ กรุงเทพฯ ซึ่งมีรถหลายคันจมอยู่ใต้น้ำ
วานนี้ (11 ก.ย.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พร้อมนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และทีมงาน เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้พักอาศัยในคอนโดดังกล่าว เบื้องต้นพบว่ามีรถจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด 3 คัน เป็นรถเบนซ์ 2 คันและรถฮอนด้าแอคคอร์ด 1 คัน โดยรถเบนซ์คันหนึ่งเป็นรถป้ายแดงที่ประกันหมดอายุ
นายเอกภพ เผยว่า จากการเข้าไปสำรวจ ระดับน้ำยังสูงเกือบมิดหลังคารถ แม้จะลดลงมาจากเมื่อคืนประมาณ 60 เซนติเมตร จึงประสานนำเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่องจากหน่วยดับเพลิง เข้ามาเพื่อเตรียมสูบน้ำออกในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการสูบน้ำก็จะแห้งหมด
ด้าน น.ส.พิชามุญช์ วัชรศิริภัสร ประธานกรรมการคอนโดมิเนียม กล่าวว่า เมื่อคืนฝนที่ตกหนักทำให้น้ำหลากเข้าท่วมพื้นผิวการจราจร ก่อนจะเอ่อเข้ามาภายในคอนโดมิเนียม ซึ่งไม่ถึง 10 นาทีน้ำก็ท่วมเต็มอาคารจอดรถชั้นใต้ดิน แม้จะรีบแจ้งลูกบ้านแล้วก็ไม่ทัน เพราะตอนนั้นน้ำท่วมสูงถึงระดับประตู ทำให้รถไม่สามารถสตาร์ทออกไปได้แล้ว เป็นเหตุให้รถ 3 คันถูกน้ำท่วมทันที
ยืนยันว่าตัวอาคารมีระบบสูบน้ำอยู่ แต่ด้วยปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างหนัก ทำให้เครื่องสูบไม่สามารถทำงานได้ทัน ประกอบกับน้ำด้านหน้าคอนโดมิเนียม มีการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ทำให้เวลามีฝนตกหนัก น้ำท่วมมักท่วมขังผิวการจราจรเป็นประจำอยู่แล้ว
ส่วนตัวจึงเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมเป็นเพราะการก่อสร้างดังกล่าว จึงอยากวิงวอนขอความเห็นใจจากหน่วยงานที่ ไม่อยากให้มองว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล หรือพื้นที่ของภาครัฐ อยากให้เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหา
สำหรับเจ้าของรถ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย คอนโดได้พูดคุยเบื้องต้นแล้ว พบว่ารถยนต์คันเบนซ์ป้ายแดง ประกันหมดอายุ แต่คอนโดจะหาวิธีเยียวยาเบื้องต้น เนื่องจากทางคอนโดมิเนียมทำประกันเอาไว้ ต้องไปตรวจสอบว่าครอบคลุมเรื่องของน้ำท่วมรถยนต์ด้วยหรือไม่
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. นายเอกภพ ระบุว่า สถานการณ์ล่าสุดถือว่าเป็นไปด้วยดี ซึ่งมีเครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิดหาบหาม (บรข.) ทั้งหมด 4 ตัว ของ กทม.อีก 9 ตัว สนับสนุนอีก 3 ตัว ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงไปมาก ทั้งนี้ น้ำที่ท่วมเข้าในลานจอดรถก็เป็นน้ำจากถนน โดยการสูบน้ำจะระบายลงในคลองลำผักชี คลองลาดพร้าว
อย่างไรก็ตาม ยังได้ประสานรองปลัด กทม.และ ผอ.สำนักงานเขตบางเขน ให้มาตรวจสอบโครงการก่อสร้างสะพานด้านหน้าคอนโด ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหรือไม่ เนื่องจากอาจมีหินหรือทรายอุดตัน ในท่อ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมขัง
ทั้งนี้ ลานจอดรถที่มีน้ำท่วมขังมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยน้ำที่ชั้นล่างสุดมีความสูง 2 เมตรกว่า จึงใช้ปั๊มสูบน้ำไดโวขนาด 2 นิ้วครึ่งทั้งหมด 8 ตัว และกำลังทยอยนำเข้ามาอีก เพื่อเร่งสูบน้ำออกทางด้านหลังคอนโด คาดว่าเย็นนี้จะทราบผลว่าน้ำจะลดลงหรือไม่ โดยเราได้เริ่มสูบน้ำตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ระดับน้ำลดลง 30-40 ซม. ขณะที่คอนโดเอง ก็มีเครื่องสูบน้ำที่ทำงานอยู่แล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. น้ำที่ท่วมขังในชั้นใต้ดินได้ถูกสูบออกจนแห้งแล้ว และได้นำรถทั้ง 3 คนออกจากพื้นที่แล้ว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบความคืบหน้าการสูบน้ำออกจากลานจอดรถคอนโดดังกล่าว
โดยนายชัชชาติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากมีน้ำเอ่อล้นจากคลองในพื้นที่แล้วไหลลงมาในลานจอดรถชั้นใต้ดินของคอนโดแห่งนี้ เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย โดยได้ประสานให้ ปภ.เข้ามาเร่งสูบน้ำออกพร้อมผลักดันลงคลองลาดพร้าว เพราะคลองลำผักชีมีน้ำเต็ม ซึ่งหลังจากนี้ หากน้ำแห้งลงก็ต้องดูว่าโครงการก่อสร้างในบริเวณนี้ ส่งผลให้ท่ออุดตันหรือไม่ และจะต้องทำระบบระบายน้ำให้ดีขึ้น
สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้ มีข้อจำกัดเรื่องน้ำล้นคลอง ต้องใช้เวลาสักระยะ คาดว่าภายใน 1-2 เดือนจะแก้ไขปัญหาได้ โดยจะผันเส้นทางการระบายน้ำที่ไม่เคยใช้มาก่อน แต่บางแห่งจะไม่มีเส้นทางผันน้ำ เช่น คลองประเวศ
นายชัชชาติ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำของ กทม.ได้ทุกจุด เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงสูง เกรงน้ำจะทะลักเข้ามา จึงต้องใช้วิธีสูบน้ำออกเท่านั้น ซึ่งหากน้ำในคลองลด ภาพรวมจะดีขึ้น โดยในคลองลำผักชี ยังมีผักตบชวากีดขวางทางน้ำ ซึ่งได้ประสานทหารเข้ามาให้ความช่วยเหลือขุดลอกคูคลอง
“ฝากขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ส่วนการเยียวยาผู้เสียหาย กำลังร่วมกันตรวจสอบกับนิติบุคคลว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือใดได้บ้าง ซึ่งทราบว่า คอนโดมิเนียมแห่งนี้ได้ทำประกันภัยอยู่แล้ว” ผู้ว่า กทม.กล่าว
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/heEbGdVWgik