สังคม

ลูกชายติดยา อาละวาดแม่ทำกับข้าวไม่ถูกใจ พ่อตัดสินใจคว้าลูกซองยิงดับ

โดย paranee_s

5 ก.ย. 2565

390 views

วันที่ 5 ก.ย.65 ร.ต.อ.อภิรักษ์ มีธรรม รอง สว. (สอบสวน) สภ.แจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำตัวนายอุดม อายุ 62 ปี ผู้ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองยิงนายอุดร อายุ 36 ปี ลูกชายเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ


โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 ก.ย. 2565 ร.ต.อ.อภิรักษ์ มีธรรม รอง สว. (สอบสวน) สภ.แจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณถนนคอนกรีตหน้าบ้านหมู่ 10 ต.แจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์รพ.แจ้ห่ม และหน่วยกู้ภัยแจ้ห่ม


ที่เกิดเหตุบริเวณถนนคอนกรีต ในหมู่บ้านหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบศพนายอุดร สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเข้าที่บริเวณหลัง 2 นัด กระสุนกระจายไปสีข้างหลังด้านขวา และกลางหลังจำนวนมาก


นอกจากนี้ยังมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณท้ายทอย จนกะโหลกแตกและมีแผลฉีกขาด ใกล้กับศพ ยังพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าสปาร์ค สีแดง หมายเลขทะเบียนลำปาง ล้มลงใกล้อีก 1 คัน ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอุดม ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตาย หลังก่อเหตุก็ไม่ได้หนีไปไหนยืนรอมอบตัวกับตำรวจ


จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายโมโหแม่ที่ทำกับข้าวไม่ถูกใจ เพราะมื้อนี้มีเพียงผักต้มกับน้ำพริก ทำให้ผู้ตายโมโห และต่อว่าแม่อย่างรุนแรง จนพ่อได้เข้ามาห้ามและต่อว่า


พ่อกับลูกจึงเกิดการโต้เถียง ทะเลาะวิวาทกัน ก่อนลูกชายมีการท้าดวลปืน จึงสุดจะทน นำปืนลูกซองยาวของผู้ตายที่ตนเคยนำไปซ่อนไว้มาดักรอยิงผู้ตายอยู่ที่ริมถนนใกล้กับทุ่งนาหน้าบ้าน ระหว่างที่ลูกกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน และกำลังจะไปปิดประตูรั้วจึงยิงปืนใส่ไป 1 นัด


แต่ผู้ตายวิ่งหนีไปที่ทุ่งนาตนเองจึงหันไปยิงซ้ำไปอีก 1 นัด ก่อนที่ต่อมาลูกชายเข้ามาแย่งปืน และเข้ามาทำร้ายจนเกิดการชุลมุนกัน ต่อมาผู้ตายก็วิ่งกลับไปที่รถจักรยานยนต์ ก่อนล้มลง และด้วยการที่ลูกชายเคยบอกว่าเขาหนังเหนียว ตนเองจึงกลัวลูกปืนจะยิงไม่เข้า เพราะตอนนั้นมืดมากจึงไม่รู้ว่ายิงถูกหรือไม่ ประกอบกับเห็นลูกชายยังวิ่งหนีได้อีก และด้วยการที่กลัวว่าลูกชายจะลุกขึ้นมาทำร้ายตนเองจึงไปคว้าท่อนไม้และก้อนหินที่อยู่ใกล้ ๆ ทุบไปที่ศีรษะและท้ายทอยลูกชายจนแน่นิ่งไปก่อนที่จะนำปืนและปลอกกระสุนปืนไปซ่อนที่ในป่าห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร และรอมอบตัวกับตำรวจดังกล่าว


ทั้งนี้ตนเองหากไม่สุดจะทนจริง ๆ คงไม่ฆ่าลูกชาย เพราะหากไม่ทำแบบนี้สักวันหนึ่งครอบครัวก็คงถูกลูกชายฆ่าตายอย่างแน่นอน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ปืน


จากการสอบถามนายอุดม ผู้ใหญ่บ้านทราบว่า ผู้ตายติดยาเสพติด เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น เคยนำไปบำบัดมาแล้วหลายที่แต่ก็ยังกลับไปเสพยาเหมือนเดิม ที่ผ่านมาผู้ตายเคยทำร้ายพ่อแม่หลายครั้ง บางครั้งถึงกับใช้มีดจี้คอพ่อก็มี บางครั้งก็เตะและทำร้ายคนในครอบครัว จนชาวบ้านเขารู้ทั่วทั้งหมู่บ้าน จนมาเกิดเหตุดังกล่าว และเชื่อว่าพ่อเขาคงสุดจะทนกับนิสัยของลูกชายเต็มทีแล้ว


คุณอาจสนใจ

Related News