“ทนายเดชา” แจ้งความ “เต้” พร้อมเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจนพ้นสภาพส.ส.

จากกรณีที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ออกมาเปิดเผยว่า ถูกข่มขู่จากนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หลังจากที่มีการติดต่อกันทางโทรศัพท์ ซึ่งทาง ส.ส.เต้ มีการใช้คำพูดข่มขู่ว่า หากไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวหรือออกมาพูดพาดพิงคดีแตงโมจะใช้วิธีการนอกระบบ จะไม่ใช้การดำเนินการทางกฎหมาย จึงอยากให้ ทนายเดชา หยุดการกระทำที่พาดพิงต่อคณะทำงานคดีแตงโม


ในวันนี้นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนาย เดชา จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับทาง ส.ส.เต้ โดยมีการนำหลักฐานเป็นคลิปเสียงดังกล่าว มายื่นประกอบการแจ้งความด้วย โดยทรายเดชา ระบุว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ ในข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และความผิดในฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว รวม 2 ข้อหา ซึ่งนายเดชาได้นำหลักฐานคลิปเสียงการสนทนามาให้กับพนักงานสอบสวนด้วย


หลังจากนี้จะไปร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดเกี่ยวกับพฤติกรรม และจริยธรรมนักการเมือง ของนายมงคลกิตติ์ที่เป็นถึง ส.ส. แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่ประชาชน เพราะขณะที่ตนเองเป็นคนที่มีชื่อเสียงในด้านกฎหมายสังคมและประชาชนทั่วไปรู้จัก ยังกล้าออกมาข่มขู่เอาชีวิต จึงไม่อยากคิดว่าหากเป็นประชาชนทั่วไป อาจจะต้องมีคนเคยถูกข่มขู่ในลักษณะนี้มาก่อน


ตนเองยังทราบมาอีกว่ายังมีทนายผู้หญิงที่เคยถูกบุคคลนี้ข่มขู่มาแล้ว ก่อนหน้าก็อยู่ระหว่างการรวบรวมกลุ่มคนที่เคยถูกข่มขู่มาเพื่อดำเนินการทางกฎหมายเหมือนเช่นตนเอง ยืนยันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายเอาผิดกับบุคคลนี้ให้ถึงที่สุด เพราะเป็นบุคคลที่ไม่สมควรเป็นผู้แทนราษฎร และตนเองมองว่าบุคคลนี้คือมาเฟีย ไม่ใช่คนทำงานเพื่อประชาชน โดยการดำเนินการจะเอาให้จนพ้นสภาพการเป็นผู้แทนราษฎร


ซึ่งหากทางคู่กรณีติดต่อมาเพื่อขอเจรจา ตนเองจะไม่ยอมรับการเจรจา ส่วนการให้ความเห็นทางกฎหมายในคดีนี้ตนเองยืนยันว่าจะหยุดดำเนินการแค่เพียงวันนี้เนื่องจากต้องเดินหน้าเอาผิดกับคู่กรณีก่อนส่วนหลังจากนี้ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ความเห็นทางกฎหมายไปตามขั้นตอนเพราะเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนสามารถทำได้ และตนเองก็เป็น ผู้ที่มีชื่อเสียงด้านกฎหมาย ที่ประชาชนทั่วไปรู้จักจึงอยากให้ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน


ส่วนกรณีที่ ส.ส.เต้ บอกว่าจะดำเนินการทางคดีกับตนเองในมาตรา 24 พ.ร.บ. โทรเลขรวมถึงจะยื่นตรวจสอบมรรยาททนาย ตนเองอยากให้ทาง ส.ส.เต้ กล้าออกมาดำเนินการกับตนเองสักทีไม่ใช่ดีแต่พูดเนื่องจาก ว่าเรื่อง การโทรมาข่มขู่ตนเองยังไม่กล้ารับความจริงโดยอ้างเป็นเพียงว่าโทรมาเพื่อล้อเล่น และสนิทกับตนเองซึ่งในประเด็นนี้ขอยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยสนิทกับ ส.ส.เต้ เพราะตนเองอายุ 60 แล้วขณะที่คู่กรณีอายุเพียง 40 และไม่เคยมีการโทรคุยกันเพื่อพูดคุยเล่นตามที่มีการกล่าวอ้างถึง


นายเดชา ยังระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงใช้วิธีการตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อปกป้องตนเองและครอบครัว รวมทั้งสุนัขอีก 2 ตัว ที่รู้สึกหวาดกลัวกันทางบ้าน ต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจาก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายเดชาได้ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์วิพากษ์วิจารณ์และเตือนกรณีที่นางภนิดาจะให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายและทนายความชุดใหม่ที่แต่งตั้งขึ้นฟ้องร้องดำเนินคดีกับ 5 ผู้ต้องหาที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ท ในข้อหาฆาตกรรมว่า หากไม่มีหลักฐานแน่นพอ ฟ้องร้องไปแล้วแพ้คดี อาจถูกฝ่ายตรงข้ามฟ้องกลับในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ควรหาที่ปรึกษาทางกฎหมายดีๆ เพราะถ้าถูกฟ้องกลับแล้วแพ้คดี อาจได้รับโทษหนักเพียงคนเดียว ซึ่งจากการไลฟ์สดดังกล่าว ทำให้นายมงคลกิตติ์ไม่พอใจโทรศัพท์ไปข่มขู่นายเดชาดังกล่าว