สังคม
ชัชชาติ ปลื้มข้าราชการกทม.ตื่นตัว ยึดหลัก "จงหันหลังใส่ผม แต่หันหน้าให้ปชช."
โดย taweelap_b
28 พ.ค. 2565
505 views
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 65 เวลา 16.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งตลอดระยะทาง ก็จะเห็นบรรยากาศของผู้ค้า และประชาชนที่มายืนรอ “ชนหมัด” และถ่ายรูปเซลฟี่ พร้อมร่วมพูดคุยกับผู้ค้า-ผู้ประกอบการ โดยมีนายสุธน สุวรรณภานนท์ ผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร มารอต้อนรับด้วย
นายชัชชาติ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรในวันนี้ ไม่ได้มาสั่งการอะไร แต่ตั้งใจมาเก็บข้อมูล เพราะที่นี่ถือเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ที่กทม.เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะมี 8,500 แผง และโซนต้นไม้อีก 800 แผง รวมทั้งหมด 9,300 แผง ซึ่งได้รับผลกระทบหนักตั้งแต่การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จากที่เคยมีคนเดินจาก 3 แสนคน/วัน ลดลงเหลือ 2 หมื่นคน/วัน และผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ผู้ค้า แต่ยังกระทบฐานเศรษฐกิจใหญ่ เพราะผู้ผลิตก็ลดจำนวนที่ส่งของมาขายที่นี่ ดังนั้นปัญหาที่เห็นเป็นแค่ภูเขาน้ำแข็ง
ทั้งนี้ ตนมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก 2 มิติ คือ 1.คนยังไม่กลับมาเพราะสถานการณ์โควิด 2.คนอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนั้น อนาคตตลาดจตุจักร จึงเป็นความท้าทาย จะบริหารแบบราชการไม่ได้แล้ว คงต้องเอามืออาชีพ เข้าใจการตลาด อาจต้องเป็นการขายแบบออมนิชาแนล (Omni Channel) ทั้งออนไลน์และการขายหน้าร้านพร้อมกัน ซึ่งกทม.อาจต้องมีแพลตฟอร์มรวมของตลาดมาช่วยกระจายไปทั่วโลก ฉะนั้น วิธีคิดต้องเปลี่ยน และปัญหาของตลาดจตุจักร จะเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะดูแลปากท้องประชาชน
เมื่อถามว่าก่อน กกต.รับรองการเลือกตั้ง จะเห็นการลงพื้นที่ไปตามเขตต่าง ๆ ต่อเนื่องหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะปัญหาของพ่อค้าแม่ค้า ทำให้ไม่มีเวลาฮันนีมูน เพราะว่า “เขาต้องการให้เรามาแก้นาทีแรกเลย ที่เราได้รับการรับรอง” ก่อนจะหันไปทาง ผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร ย้ำว่าการมาวันนี้ไม่ได้มาเจอ แต่ท่านกรุณามารับ เพราะตนอยากมาเจอพ่อค้าแม่ค้าอย่างไม่เป็นทางการ
“แต่ก็แปลกดี เราลงไปไม่ได้สั่งการอะไร แต่ท่านช่วยแก้ให้หมดเลย ผมว่าเป็นมิติที่ดีนะ ที่ข้าราชการตื่นตัวขึ้น และสุดท้ายทุกคนเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องหันหน้าให้ผม ขอให้หันหลังให้ผม แต่หันหน้าให้ประชาชน และเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น เรามีทั้งหมด 214 นโยยาย คือเรื่องผ้าอนามัยฟรี เรายังไม่ทันเข้าทำงานเลย ก็มีสำนักงานเขตบางเขนก็เริ่มทำแล้ว เพราะฉะนั้น 1 ใน 214 นโยบายเราทำแล้วตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าเข้าไปที่เสาชิงช้า ดังนั้นผมว่าเมื่อเรามีแผนทุกอย่างที่ชัดเจน ทุกคนสามารถปฏิบัติได้เลย นี่เป็นข้อดีของเรา เพราะถ้าไม่มีแผน งงละ หรือมีแผนหลวม ๆ ก็ต้องไปนั่งคิดอีกครึ่งปี จบหมดเทอม แต่เมื่อทุกอย่างพร้อม อธิบายแต่ละแผนต้องทำอย่างไร ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อดีตเราไม่ว่าแล้ว แต่ปัจจุบันต้องช่วยกันแก้ไขให้ดีขึ้น” นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย