สังคม
ตร.ยันไม่มีผู้เสียหาย ถอนแจ้งความคดี 'ปริญญ์' แจงไม่จำเป็นต้องพาเหยื่อทุกคน ชี้จุดเกิดเหตุ
โดย thichaphat_d
21 เม.ย. 2565
57 views
ความคืบหน้าคดีผู้เสียหาย ถูกอดีตนักการเมืองพรรคดัง ลวนลาม อนาจารและข่มขืน วานนี้ (20 เม.ย.65) พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.ดูแลด้านกฎหมายและคดี เข้าติดตามดูสำนวนคดี ใช้เวลาประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน นานกว่า 2 ชั่วโมง
โดยออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า หลังมีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความ รวมผู้เสียหายทั้งสิ้น 15 ราย แบ่งเป็น เหตุเกิดที่
จ.เชียงใหม่ 1 ราย
จ.เพชรบุรี 1 ราย
สน.ลุมพินี 14 ราย
สน.ห้วยขวาง 1 ราย
และนอกประเทศอีก 1 ราย
พร้อมรับคำร้องทุกข์เพิ่ม 8 คดี จากเดิม 3 คดี ในจำนวนนี้ ขาดอายุความ 2 ราย โดยทุกคดี แบ่งตามพฤติการณ์ก่อเหตุว่าเข้าข่ายอนาจารหรือข่มขืน
ล่าสุดกำลังพิจารณาคดีที่มีผู้เสียหายรายนี้ มีคลิปเสียงสนทนากับผู้ต้องหา โดยผู้เสียหายรายนี้ มีความลังเลใจในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ต้องหา เพราะหลังเกิดเหตุที่ถูกกระทำครั้งแรก โดยไม่เต็มใจ ก็ยังคงติดต่อกับผู้ต้องหา
สำหรับคดีใหม่นั้น ตำรวจจะตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป เนื่องจากบางคดีผ่านมานาน ซึ่งตะมีการตรวจสอบและสิบปากคำผู้เสียหาย ให้แล้วเสร็จภานใน 2 อาทิตย์ ภายหลังการพิจารณาแต่ละคดีแล้วเสร็จ หากมีพยานหลักฐานก็แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาเพิ่ม
ส่วนคดีเมื่อปี 2563 ที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้แต่ไม่มีความคืบหน้า ตำรวจได้ตรวจสอบแล้ว แต่ต้องสอบถามผู้เสียหายอีกครั้งว่ายืนยันจะดำเนินคดีหรือไม่ เพราะวันที่มาถามความคืบหน้าคดี ให้การในลักษณะที่ลังเลใจว่าจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุหรือไม่
ส่วนกรณีที่ทนายตั้ม ระบุว่า มีตำรวจชั้นนายพล เข้ามาพยายามไกล่เกลี่ยผู้เสียหายให้ไม่เอาผิดนั้น พล.ต.ต ไตรรงค์ ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องและ ผู้เสียหายรายนี้ก็ไม่ได้มีการถอนแจ้งความ ซึ่งคดีของผู้เสียหายรายนี้ ถือว่ามีความสมบูรณ์ ทั้งเหตุพึ่งเกิด มีหลักฐานวงจรปิดวันเกิดเหตุ และมีพยานเป็นแท็กซี่ ให้การด้วยจึงถือว่าเป็นคดีที่มีน้ำหนักมากที่สุด
ซึ่งคดีที่มีน้ำหนักมากมี 3 คดี
1.กรณีผู้เสียหายอายุ 18 ปี
2.คดีภรรยาไฮโซชื่อดัง
3. คดีผู้เสียหายเหตุเกิดเดือน ก.พ.65
ส่วนคดีที่ผู้เสียหายระบุว่า ขณะถูกกระทำ มีลักษณะหมดสติ คล้ายถูกวางยา พนักงานสอบสวนได้รับเลขคดีไว้ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วว่าซึ่งจะมีการเรียกผู้เสียหายและสอบปากคำพยานแวดล้อม ส่วนการจะตรวจสารที่ผสมในเครื่องดื่มนั้นไม่ได้เพราะเวลาล่วงเลยมานาน
ส่วนการตรวจค้นคอนโดที่เกิดเหตุในคดีข่มขืน 3 คดีแรกนั้น ในการตรวจสอบแม้จะหาหลักฐานได้น้อยตำรวจก็ต้องทำ โดยได้เก็บวัตถุพยานต่างๆ ส่งให้เจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน ทำแผนผังห้องที่เกิดเหตุ และภาพวีดีโอบันทึกห้องที่เกิดเหตุ นำมาเปรียบเทียบคำให้การผู้กล่าวหาว่ามีน้ำหนักเพียงใด
“สิ่งที่พนักงานสอบสวนกังวลใจ ตอนนี้คือข้อหาอนาจาร เพราะมีการก่อเหตุทั้งที่สาธารณะ และ สถานที่ส่วนตัวลำพังสองคน” หากกระทำกันเพียงลำพัง สามารถยอมความได้ และคดีมีอายุความ 3 เดือน ซึ่งเกรงว่า หากส่งสำนวนถึงอัยการ ในระหว่างนี้ หากผู้ต้องหาไปไกล่เกลี่ย กับผู้เสียหาย สามารถยอมความได้
และกรณีที่ผู้เสียหายให้การเท็จ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบ และเชื่อว่าคงไม่มีผู้เสียหายรายใดมาให้การเท็จเพื่อจะกลั่นแกล้งหรือหวังผลทางการเมือง หากตำรวตตรวจสอบพบ ก็จะถูกดำเนินคดี
ส่วนกรณี นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ที่เข้าไปตะโกนโวยวายวันที่ตำรวจเจ้าไปตรวจค้น คอนโดที่ใช่ก่อเหตุอนาจารและข่มขืนผู้เสียหาย
รอง ผบช.น.กล่าวว่า สน.ลุมพินี ได้รายงานเหตุมายังกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อรายงานให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณาแล้ว หากผิดกฎหมายก็จะดำเนินการต่อไป เพราะเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากเป็นผู้เสียหาย ไม่มีข้อบังคับให้ผู้เสียหายมาชี้จุด เว้นแต่เป็นเรื่องจำเป็น จะมีเพียงผู้ต้องหาเท่านั้นที่เป็นกรณีบังคับ
คดีนี้มีผู้เสียหายหลายราย จึงไม่จำเป็นต้องไปชี้จุดเกิดเหตุทั้งหมด หากพาทุกรายไปชี้อาจทำให้พื้นที่เกิดเหตุ มีการปนเปื้อน ส่งผลให้ไม่เป็นธรรมทั้งผู้ต้องหาและผู้เสียหาย จึงให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ถ่ายวิดีโอและทำแผนผัง ก่อนให้ผู้เสียหายมาชี้จุดตามที่จัดทำไว้ เพื่อประกอบสำนวนคดี
และก่อนเกิดเหตุ ตำรวจได้เชิญภรรยาไฮโซลูกนัท ให้มาชี้จุดจริง แต่เป็นร้านอาหาร ที่เดินทางไปพร้อมกับผู้ต้องหา ก่อนจะมาที่คอนโด โดยจุดที่คอนโดก็ได้ทำการชี้จุด แค่หน้าทางเข้าคอนโดเท่านั้น เพราะทนายจองผู้ค้องหาได้นื่นคำร้องขอศาลคุ้มครองกรณีการเข้าตรวจค้นห้องจึงเป็นที่มาทำให้ เกิดภาพขณะไฮโซลูกนัท ส่งเสียงโวยวายหน้าคอนโด
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/RfQJnVBLB8c