น้องออมสิน-กระปุก น้ำตาซึมแยกจากป้า ไปอยู่บ้านพักเด็ก เผยมี 3 รายยื่นขออุปการะ 'ชนม์สวัสดิ์ ' ร่วมด้วย

ความคืบหน้ากรณีสองพี่น้องออมสิน-กระปุก เด็กหญิงอายุ 11 ขวบและ 9 ขวบ สองพี่น้องที่ต้องสูญเสียคุณแม่จากการติดเชื้อโควิด และทั้งสองคนก็ติดเชื้อโควิด พร้อมกับลุงป้าข้างห้องที่คอยดูแล ตามที่เรานำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วานนี้ (12 ส.ค.64) เจ้าหน้าที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย พม.จังหวัดสมุทรปราการ และตัวแทน คุณชนสวัสดิ์ อัศวเหม ประธานสภาหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ รอรับน้องออมสินและน้องกระปุก สองพี่น้อง ที่โรงพยาบาลสนาม สถาบันราชภัฎธนบุรี จังหวัดสมุทรปราการ

โดยการออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นการแยกจากกันของลุงป้าข้างห้องและเด็กๆ เพราะสองพี่น้องต้องไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กจังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อวานตอนที่เด็กออกมาจากโรงพยาบาล ก็ถือรูปแม่ลงมา พร้อมกับลุงป้าข้างห้อง ยืนรอรถ โดยมีเจ้าหน้าที่พม.จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กมารอรับ ช่วงที่ออกมาจากรพ.ช่วงแรกน้องสองคนก็มีรอยยิ้ม สดใส และบอกว่าดีใจที่จะได้ออกจากรพ.แต่ไม่มีบ้านให้กลับ ต้องไปอยู่บ้านพักเด็ก

ป้าบังอร ป้าข้างห้องที่คอยดูแลเด็กๆ มาตลอด เล่าว่า เมื่อคืนทั้งสองคนก็เอาการ์ดวันแม่มาให้ และก็กราบป้า ก็ซึ้งใจและรักทั้งสองคนเหมือนลูก เด็กๆบอกว่าจะกลับมาหาลุงกับป้าเมื่อโตแล้ว ป้าบังอร บอกว่า ใจจริงก็อยากรับดูแลเด็กๆทั้งสองคนเอง แต่ก็ไม่มีกำลังที่จะดูแล ก็ให้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่และจะไปเยี่ยมเด็กๆ

ในช่วงระหว่างที่รอรถมารับ สังเกตว่า น้องออมสินถือรูปคุณแม่ และมีกระดาษข้อความติดอยู่ น้องออมสิน เขียนข้อความว่า ออมสิน-กระปุก รักแม่โอ๋มากๆ ค่ะ น้องบอกว่าเขียนไว้ให้แม่รู้ว่า วันแม่ปีนี้ไม่มีแม่แล้ว แต่แม่ก็อยู่กับพวกหนู แต่มีลุงมีป้าอยู่ด้วย

จากนั้นเมื่อรถมาถึงหน้าโรงพยาบาล น้องออมสินและก็ปุก ก็โผเข้ากอดป้าบังอร กอดกัน 3 คน ป้าบังอรบอกว่า เป็นเด็กดี อยู่ดูแลกันดูแลน้อง ป้าจะไปหานะ ไม่ต้องกลัวนะลูก

เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กสมุทรปราการ ก็พาเด็กสองพี่น้องมาถึงบ้านพัก โดยอาศัยรวมกันกับเด็กๆในอุปการะอีก 9 คน คุณสุทธิ จันทรวงษ์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายการสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็มอบถุงพระราชทาน และแจ้งกับเด็กๆเรื่องการเรียนและดูแลโดยมูลนิธิ จะรับดูแลเรื่องการศึกษากับเด็กทั้งสองคนให้ได้เรียนจนถึงขั้นสูงสุด

ซึ่งจากการระบาดโรคโควิด ทำให้มีเด็กที่ขาดโอกาสในการศึกษาเนื่องด้วยบิดา มารดา หรือผู้ปกครองที่อุปการะเสียชีวิต มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้มอบโอกาสให้เด็ก สามารถศึกษาเล่าเรียนได้สูงสุดตามความสามารถ โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ โดยรับเด็กเป็นนักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาสงเคราะห์ จนกว่าจะสำเร็จการศึกษาสูงสุดตาม เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือและมีที่พักอาศัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเบื้องต้นได้มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในตรวจสอบและพิจารณาตามขั้นตอนของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ

ด้าน คุณสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. เปิดเผยว่า จากการสอบถามเด็กๆและทีมแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์ที่ดูแลเด็กระหว่างรักษาตัว พบว่าสภาพจิตใจน้องเข้มแข็งมาก และสภาพจิตใจดี จากนี้ก็รับดูแลตามขั้นตอน โดยประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีการทอดทิ้งและดูแลเป็นอย่างดี โดยจะเริ่มต้นดูแลจากการปรับสภาพจิตใจ และร่างกายให้เด็กสองคนหายดีก่อน จากนั้นก็จะตรวจสอบเรื่องการศึกษา โดยในระบบพบประวัติการเรียนของน้องที่มีหลักฐานการศึกษามีเพียงแค่ ป.1 เท่านั้น ก็จะมีการทดสอบและเข้าเรียนตามระบบ

นอกจากนี้ ก็จะมีการเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการหาครอบครัวทดแทนที่เสนอมาอุปการะ โดยตอนนี้มีผู้ยื่นเสนอมา 3 รายคือ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานสภาหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ / ผู้แทนรพ.เอกชนชื่อดัง และประชาชนรายหนึ่ง โดยขั้นตอนจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบผู้อุปการะเด็ก ทั้งสภาพทางการเงิน ความพร้อม ที่อยู่อาศัยและสภาพจิตใจของผู้อุปการะด้วย

จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอน โดยไม่ได้มีการมอบเด็กให้อยู่กับผู้อุปการะทันที แต่จะมีการสอบถามความสมัครใจของเด็กเป็นหลัก หลักเกณฑ์ต่างๆที่กำหนดไว้ ส่วนบุคคลอื่นที่แอบอ้างเป็นญาติและจะขอรับเด็กไปดูแลนั้น จากการตรวจสอบพบว่าญาติเด็กมีเพียงน้ารายเดียวที่แจ้งความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่แล้วดูแลเด็กทั้งสองคน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/K6I9Yptsrkk