รับศพ 'น้องพอส' ฮีโร่ดับเพลิง เพื่อนอาสาจัดขบวนรถสมเกียรติ แม่ภูมิใจลูกเสียสละชีวิต ยันไม่เคยขอรับบริจาค

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล ในซอยกิ่งแก้ว21 ส่งผลให้นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ หรือ น้องพอส อาสาสมัครดับเพลิงหน่วย กู้ภัยสมเด็จเจ้าพระยา หรือ ธน 28 วัย 19 ปี เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

วานนี้ครอบครัวได้รับศพ ที่โรงพยาบาลจักรีนฤบดินทร์ โดยร่างน้องพอส คลุมด้วยธงชาติ เคลื่อนขบวนจากโรงพยาบาล ไปยังวัดทุ่งครุ ซึ่งกลุ่มอาสาจัดขบวน ขบวนรถกู้ภัย รถดับเพลิง และมูลนิธิต่าง ๆ กว่า 20 คัน เปิดสัญญาณนำขบวนพาร่างของน้องพอส มาส่งถึงวัดอย่างสมเกียรติ

บรรยากาศที่วัดทุ่งครุ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก มีกลุ่มอาสามาจีดเตรีตมงานพิธีรดน้ำศพ เริ่มในเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานน้ำหลวงอาบศพให้กับน้องพอสด้วย ก่อนที่เวลา 17.00 น. เป็นพิธีสวดพระอภิธรรม ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก มีเพื่อน ๆ อาสา เเละกู้ภัย พร้อมทั้งเพื่อนคนสนิท เเละครอบครัว มาร่วมเเสดงความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก

จากนั้นครอบครัวและหัวหน้าหน่วยกู้ภัยที่น้องพอสสังกัดอยู่ แถลงข่าว พร้อมกับคุณแม่น้องพอส เพื่อชี้แจง ประเด็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่วันเกิดเหตุและการเปิดบัญชีรับบริจาค

โดยนายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ หัวหน้าทีมอาสากู้ภัย ธน 28 ระบุว่า การบริจาค ช่วยเหลือน้องพอส ที่มีการแขร์ทางเฟซบุ๊ก นั้นไม่เป็นความจริง ทางครอบครัวไม่ได้เปิดรับบริจาค คนที่นำไปแชร์นั้นเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งครอบครัวได้ไปแจ้งความดำเนินคดี

ส่วนบัญชี ที่เปิดรับบริจาคจริงๆ มีเพียง 2 บัญชีเท่านั้น คือ บัญชีชื่อ นายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ หัวหน้าทีมอาสากู้ภัย ธน 28 บัญชีนี้ ซึ่งทางกลุ่มอาสาจะดูแลและชี้แจงยอดบริจาคทั้งหมด

หลังเสร็จงานฌาปนกิจศพจะรวบรวมและแบ่งเงิน 2 ส่วน คือ 1.ให้แม่ของน้องพอส 2.ให้กับพี่ชายน้องพอส เพื่อเป็นทุนการศึกษา ตามความตั้งใจ ของน้องพอส ที่อยากให้พี่ชายเรียนสูงๆ เพราะน้องพอสเรียนจบแค่ ม.3 และออกมาทำงานหาเงินแบ่งเบาภาระครอบครัว ซึ่งตอนนี้ น้องเพชร พี่ชาย เรียนมหาวิทยาลัยนวมิทราธิราช สาขาการจัดการสาธารณภัย ซึ่งถือว่าทางครอบครัวทำงานเกี่ยวกับอาสากู้ภัยมาโดยตลอด

ส่วนอีกบัญชีชื่อ นายสุพจน์ ชมสินทรัพย์ ทีมงานอาสาสมัครฯ จะแบ่งเป็น 2 ส่วนเช่นกัน คือ 1.ช่วยงานศพและ 2.ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล

พร้อมฝากถึง ผู้ที่แสดงความคิดเห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่ว่า น้องพอสเข้าไปด้วยความประมาท ขอชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเปลวเพลิงจะปะทุขึ้นมา จากคลิปเหตุการณ์จะเห็นว่า จุดที่น้องพอสยืนอยู่ เเละไม่มีใครรู้ว่าของเหลวที่ระเหยออกมา ถึงจุดอิ่มตัว บวกกับความร้อนจึงเกิดเหตุดังกล่าว โดยไม่มีใครคาดคิด ซึ่งวลาที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ บุคคลกลุ่มเเรกที่จะไปถึงคืออาสา เพื่อจะระงับเหตุให้เร็วที่สุด

เเต่ขณะเกิดเหตุ ไม่มีหน่วยงานใดที่รับรู้ โครงสร้างของโรงงาน หรือแม้แต่หน่วยงานราชการ ที่รู้โครงสร้าง รู้ระบบ กลับไม่มีใครเข้ามาช่วย หรือมาประเมินว่า โครงสร้างของโรงงานเเห่งนี้ มีจุดไหนที่เป็นอันตราย หรือจุดไหนที่เป็นจุดปิดวาล์ว ที่จะระงับเหตุได้ทันท่วงที เชื่อว่าหน่วยงานรัฐในพื้นที่ต้องทราบ เพราะก่อนการก่อสร้าง ทุกโรงงาน ทุกบริษัท จะต้องยื่นแบบขออนุญาตก่อนทุกครั้ง แต่ตอนเกิดเหตุ กว่าจะนำแผนผังโครงสร้างแต่ละจุดในโรงงานมากาง เช่น จุดวาล์วเปิด ปิดถังสารเคมี , หรือ จุดต่อสายดับเพลิงต่างๆ ก็ไม่ทันการ

ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐหันมาให้ความสำคัญกับส่วนนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก เเละหากเป็นไปได้ ภาครัฐควรสนับสนุนอุปกรณ์ดับเพลิง เพราะที่ผ่านมา กลุ่มอาสาลงขันซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ จึงอยากให้นำเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน และพวกตนคืออาสา ที่ไประงับเหตุไปช่วยเหลือ หากเลือกได้ ก็ไม่อยากได้คำว่าวีรบุรุษ แต่ขอน้องเรากลับคืนมา

ทางด้านนางสายน้ำผึ้ง ชะนะแสวง คุณแม่ของน้องพอส เปิดเผยว่า แม่ภูมิใจมากที่ลูกได้สละชีวิตในการช่วยเหลือครั้งนี้ ครอบครัวเราเป็นครอบครัวอาสา แม่ก็เป็นอาสา น้องพอสเขารักงานอาสา แม่รู้ว่าลูกทำอาสานี้ มีความเสี่ยง แต่เขาชอบ ที่ผ่านมา จะบอกลูกตลอดว่าเวลาทำงานนั้นเสี่ยงอันตราย แต่ลูกก็ป้องกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องพอสทำดีที่สุดแล้ว จากนี้แม่จะสานฝันของน้องพอส ส่งพี่ชายให้เรียนสูงที่สุด

นอกจากคุณแม่แล้ว น้องพอสยังมี คุณพรวชิระ พรวรรณเสถียร ซึ่งเป็นคุณอาและเป็นแม่บุญธรรม เพราะเลี้ยงน้องพอสมาตั้งแต่เด็ก เปิดเผยว่า สะเทือนใจมาก ไม่คิดจะต้องมาสูญเสียน้องพอส โดยนิสัยของน้องพอสจะรักงานอาสามาก วันเกิดเหตุพอรู้ว่าไฟไหม้โรงงานตนก็แชทไปหาน้องพอส ซึ่งเป็นแชทสุดท้ายที่คุยกัน

มีข้อความว่า ได้ไปไฟไหม้หรือเปล่า ที่กิ่งแก้ว น้องพอสตอบกลับว่าไม่ และถามกลับอยู่ป้อมหรือเปล่า มารับแม่หน่อยจะไปซื้ออาหารให้จิ๋วหน่อย น้องพอสตอบว่า “ไม่ได้อยู่ครับ” คือประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกัน

ซึ่งอาบอกว่าไม่คิดว่าแชทนี้ จะเป็นแชทสุดท้ายที่คุยกัน ตอนแรกก็อุ่นใจที่น้องพอสไม่ได้ไปเหตุนี้ แต่พอตอนเที่ยง พี่ชายโทรมาบอกว่า พอสไม่อยู่กับเราแล้วนะ ตนตกใจมาก ซึ่งนิสัยของน้องพอส ถ้ามีเหตุที่ไหน ถ้าน้องพอรับทราบเหตุ จากวิทยุ ก็จะเป็นคนแรกๆในกลุ่มจะไลน์ถามทันทีว่า ใครไปเหตุนี้ และจะชวนเพื่อนไปช่วยกัน จากนี้ไม่มีน้องพอสแล้ว เราก็จะช่วยกันดูแลน้องเพชรพี่ชายตามความตั้งใจของน้องพอส

สำหรับศพของน้องพอส จัดบำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งครุ และจะทำพิธีฌาปนกิจ วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2564

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/a7uO0QlXMEE