สังคม

นักร้องเวทีดังแสดงตัว ปมเบี้ยวเงินจ้างผลิตสินค้า-ยืมเงินลงทุน ทนายยันยินดีพูดคุยแก้ปัญหา

7 ชั่วโมงที่แล้ว

137 views

รายการโหนกระแส ได้เชิญกลุ่มผู้เสียหายถูก นักร้องจากเวทีประกวดชื่อดังกับภรรยา ที่ทำแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป ที่มีการไปว่าจ้างผลิตสินค้า และบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งมีการไปชักชวนพาร์ตเนอร์มาร่วมลงทุน แต่สุดท้ายก็เบี้ยวเงิน

คุณผ้าแพร อดีตนักร้องสาวจากเวทีประกวดเดียวกัน บอกว่า เรื่องราวเริ่มต้นประมาณเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ โดยเริ่มจากการขอยืมเงินก่อน จากนั้นนักร้องคนดังกล่าวก็มาเสนอโปรเจกต์ โดยอ้างว่าตนน่าจะทำธุรกิจต่อไปไม่ไหวแล้ว อยากให้ผ้าแพรเข้าไปผลิตสินค้าให้แทน โดยให้เข้าไปใช้โรงงานของเขาได้เลย แล้วเขาจะผันตัวไปเป็นผู้รับซื้อจากผ้าแพรแทน

ก่อนที่จะเริ่มโปรเจกต์ นักร้องคนดังกล่าวได้ขอยืมเงินอีกก้อนหนึ่ง อ้างว่าจะนำไปปิดหนี้ต่างๆ เคลียร์ระบบให้เป็นศูนย์ เพื่อที่ผ้าแพรจะได้เข้ามาผลิตและดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ผ้าแพรจึงให้ยืมไปอีก และเมื่อเข้าไปเริ่มผลิต ก็มีการโอนเงินค่าวัตถุดิบต่างๆ ให้ซัพพลายเออร์หลายเจ้าตามที่อีกฝ่ายแจ้งมา มีการเปิดใบสั่งซื้อ (PO) และทำใบแจ้งหนี้ กำหนดวันจ่ายเงินกันเรียบร้อย

ฝ่ายนักร้องยังได้นำใบออเดอร์จากต่างประเทศมาแสดงให้ดูว่ามีคำสั่งซื้อ 250 ลัง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยอ้างว่าเป็นการส่งออกทางเรือ และขั้นตอนการเงินก็ง่ายมาก คือ "ปิดตู้ปุ๊บได้เงินปั๊บ" ซึ่งทำให้ผ้าแพรเห็นว่าเป็นธุรกิจที่เงินหมุนเวียนเร็ว จึงตัดสินใจลงทุนเพิ่ม

แต่เมื่อผลิตเสร็จ 250 ลัง และส่งออกไปเรียบร้อยตามกำหนด กลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถาม อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยงไปว่าต้องรอเคลียร์ค่าปรับ

ส่วนออเดอร์ในไทยที่กำหนดชำระเงินภายใน 7 วัน ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเช่นกัน โดยนักร้องคนดังกล่าวอ้างว่าดีลเลอร์ในไทยก็ไม่จ่ายเงินเขาเหมือนกัน แต่ผ้าแพรมาทราบภายหลังว่า ดีลเลอร์จ่ายเงินไปหมดแล้ว สินค้าถูกนำไปจำหน่ายปกติ แต่เงินไม่มาถึงตน

ผ้าแพรบอกว่า เงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนใหญ่มากสำหรับตน แต่ที่ยอมให้ยืมเพราะไว้ใจ เชื่อใจ และเห็นว่าเป็นเพื่อน เป็นพี่ ที่สนิทสนมกันมานาน เมื่อเขาบอกว่าเดือดร้อน พนักงานจะสไตรค์ถ้าไม่ได้เงิน ตนก็ให้ยืมไป จากนั้น เขาก็มาขอทุนเพิ่ม อ้างว่ามีล็อตใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ อ้างว่าจะได้เงินคืนแน่นอน แต่ก้อนเก่ายังไม่จ่าย ก็จะมาขอก้อนใหม่อีก จนตนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว

ผ้าแพรบอกว่า สิ่งที่เสียไปไม่ใช่แค่เงินก้อนใหญ่ แต่หมายถึงมิตรภาพ ความเป็นเพื่อนที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน มันเสียไปด้วย โดยความเสียหายในส่วนของการผลิตและการลงทุนที่ผ้าแพรจ่ายไปอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านบาท ส่วนเงินที่ให้ยืมไปก่อนหน้านี้อีก 2 ก้อน คือ 3 แสนบาท และ 1 ล้านบาท รวมเป็น 1.3 ล้านบาท

ขณะที่ คุณฝ้าย เปิดเผยว่า ในส่วนของตนซึ่งเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ เสียหายเฉพาะค่าสินค้าที่จ่ายเงินไปแล้วแต่ไม่ได้รับของ เป็นมูลค่า 5.25 ล้านบาท (คิดเป็นสินค้าเกือบ 4 แสนซอง) จากยอดสั่งซื้อทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท โดยพฤติกรรมเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ฝ่ายภรรยานักร้องมาเสนอขายสินค้าล็อตใหญ่ในราคาพิเศษ อ้างว่าหากช่วยสั่งซื้อ จะได้โบนัสเป็นทองคำแท่ง ซึ่งภายหลังคุณฝ้ายมาทราบว่า โบนัสดังกล่าวไม่มีอยู่จริง

ต่อมาในเดือนธันวาคม คู่กรณีได้อ้างว่าจะมีการปิดโรงงาน 3 เดือน เพื่อย้ายฐานการผลิตจากนนทบุรีไปอยุธยา และได้ส่งภาพการก่อสร้างโรงงานใหม่และเอกสารต่างๆ มาให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะหว่านล้อมให้คุณฝ้ายสั่งสต็อกสินค้าล่วงหน้า 3 เดือน จากปกติที่เคยสั่งเดือนละ 2 แสนซอง ถูกผลักดันให้สั่งถึง 780,000 ซอง โดยลดราคาให้เหลือซองละ 14 บาท (จากปกติ 18 บาท) อ้างว่าเป็นราคาพิเศษเพื่อช่วยระบายวัตถุดิบที่สั่งมาเกิน

คุณฝ้ายตกลงสั่งซื้อและต้องชำระเงินล่วงหน้าเป็นงวดๆ แต่หลังจากชำระไปแล้ว 6 งวด พอถึงงวดที่ 7 คู่กรณีก็เริ่มส่งของล่าช้าและหยุดส่งในที่สุด คุณฝ้ายยังยืนยันด้วยว่า ออเดอร์ส่งออกต่างประเทศจำนวน 250 ลัง ที่คุณผ้าแพรเป็นผู้ผลิตให้ แท้จริงแล้วเป็นออเดอร์ของลูกค้าตน ซึ่งตนได้ชำระเงินค่าสินค้านี้ให้กับนักร้องไปล่วงหน้าแล้ว แต่เงินกลับไปไม่ถึงคุณผ้าแพรผู้ผลิต

คุณฝ้ายยังชี้แจงกลอุบายว่า เวลาที่คู่กรณีมาเอาเงินทุนไป จะเอาใบสั่งผลิต หรือ ใบ PO ที่เป็นชื่อของคุณณัฐธิชัย (ผู้ผลิตซอง) มาอ้างกับคุณฝ้าย เพื่อให้เชื่อว่ามีออเดอร์สั่งผลิตจริง แต่พอคุณฝ้ายได้มาเจอกับคุณณัฐธิชัย ถึงได้รู้ว่า เขาก็เอาเอกสารจากทางคุณฝ้าย (ดีลเลอร์) ไปอ้างกับคุณณัฐธิชัย (โรงงานซอง) เหมือนกัน

ขณะที่ทนายแชมป์ ทนายของบริษัทดังกล่าว โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า ในเคสของคุณผ้าแพร มี 3 ยอดหนี้ ยอด 3 แสนบาท เป็นยอดที่อยู่ในศาล และได้ทำข้อตกลงเจรจาผ่อนชำระหนี้ตามที่คุณผ้าแพรเล่าไป ส่วนยอด 1 ล้านบาท ได้ทำสัญญารับสภาพหนี้ กำหนดชำระ 18 เดือน โดยนัดหมายชำระกันวันที่ 1 มกราคม 2569 สำหรับยอดอีกก้อนหนึ่ง 1.3 ล้านบาท เป็นยอดที่มีความซับซ้อน แต่อยู่ในระหว่างการเจรจาตกลงและกำลังจะเจรจากันเร็วๆ นี้ ซึ่งยอด 1.3 ล้านบาทนี้ เป็นเรื่องของการลงทุน เป็นส่วนที่คุณผ้าแพรนำไปจ่ายดีลเลอร์ และมีผู้เสียหายในเคสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย

ทนายแชมป์ ยังชี้แจงถึงเคสของคุณฝ้าย ว่าได้รับชำระหนี้ไปแล้ว 2 ก้อน โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวแบบไม่ต้องผ่อนชำระ และได้มีการตกลงให้ถอนฟ้องไปแล้ว ส่วนที่คุณฝ้ายอ้างว่า ทางนักร้องหลอกให้เอาบ้านไปขายฝาก ทนายแชมป์อธิบายว่า คุณฝ้ายเป็นคนเสนอเองว่า ให้เอาบ้านเขาไปขายฝาก เพื่อจะได้มีเงินมาผลิตสินค้าส่งให้เขาได้ ไม่ได้เป็นการหลอกลวง

แต่คุณฝ้ายแย้งว่า ตนเป็นคนประกาศขายบ้านเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย แล้วนักร้องคนนี้มาขอเช่า อ้างว่าแม่ป่วย ต้องพาแม่มาอยู่บ้านหลังนี้ หลังจากเช่าแล้ว เขาก็มาเสนอถามว่า บ้านหลังนี้ขอซื้อเลยได้ไหม ซื้อเป็นเงินสด เพราะไม่อยากย้ายเข้าย้ายออก แต่เขาอ้างว่าเงินสดที่ว่านี้ รอคนที่มาซื้อบ้านเก่าของเขาที่นนทบุรี กู้ธนาคารผ่าน แล้วมาซื้อบ้านเก่าของเขา แล้วเอาเงินก้อนนี้มาซื้อบ้านของคุณฝ้าย

ต่อมา เขาก็อ้างว่า โรงงานกำลังจะมีปัญหา จะผลิตสินค้าไม่ได้ ทำให้คุณฝ้ายกังวลว่าจะไม่มีของส่งให้ลูกค้าที่จ่ายเงินมาแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่มีทุนตรงนี้ ก็เลยขอเอาโฉนดบ้านหลังนี้ของคุณฝ้าย ที่อ้างว่าตัวเองจะซื้อ เอาไปวางขายฝาก แล้วเอาเงินออกมา คุณฝ้ายบอกว่า ตนขอให้เอาเงินที่ได้มานี้ไปใช้ตามจุดประสงค์จริงๆ จะเอาไปจ่ายค่าของ ค่าสินค้า ก็ขอให้เป็นแบบนั้นจริงๆ



แต่ต่อมาก็มาทราบว่า ทางนักร้องและภรรยา ไม่เอาเงินไปชำระดอกเบี้ยขายฝาก ผิดสัญญาหลายงวด จนทำให้บ้านกำลังจะถูกยึดเดือนหน้านี้เอง

พี่หมวยถามว่า แล้วทนายแชมป์จะให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายทุกคนได้ยังไงว่า จะได้เงินคืน หรือบ้านของคุณฝ้ายจะไม่ถูกยึด ทนายบอกว่า การที่จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ได้ สำคัญที่สุดคือ นักร้องต้องผลิตสินค้าขายได้ตามปกติ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่มีเงินมาจ่ายใครเลย และสุดท้ายมันจะล้มตามๆ กันไปทั้งหมดเลย

ทนายแชมป์กล่าวว่า การที่ผู้เสียหายทุกคนกำลังออกมาทำแบบนี้ อาจจะทำให้การหาเงินของคุณนักร้องมีปัญหา สะดุดลง และอาจจะล้มกันไปทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นที่สุด

ส่วนที่ลูกความของทนายแชมป์เอาเงินไปไหนหมด เงินที่สัญญาว่าจะเอามาจ่ายโรงงาน จะเอามาจ่ายดีลเลอร์ แต่สุดท้ายไม่ได้จ่าย เงินไปไหน ทางทนายแชมป์บอกว่า เรื่องนี้ในฐานะทนายไม่สามารถไปก้าวล่วงลูกความได้ และปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามาทำหน้าที่ทนาย

สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ทนายแชมป์ขอยืนยันว่า เราผลิตสินค้าได้ ขายได้ มีออเดอร์เข้ามา เราพยายามจะขาย ใช้หนี้ อยู่ตลอดเวลา และเรามีภาระการชำระหนี้ในทุกๆ เดือน แต่เราก็ยังทำมาตลอด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ZYt1cb4rlqI

แท็กที่เกี่ยวข้อง  นักร้องAF7 ,ยืมเงิน

คุณอาจสนใจ

Related News