กองทัพไทยยันไม่ปล่อย "เชลยศึก" จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ - นายกฯ ลั่นปฏิญญาสันติภาพ ไม่ใช่สัญญาสงบศึก

ความเคลื่อนไหวระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นที่จับตาเรื่องความชัดเจนของปราสาทตาควาย และความชัดเจนในการปล่อยตัวเชลยศึก หลังการลงนามสันติภาพ ไทย - กัมพูชา ซึ่งกองทัพไทยออกมายืนยันว่า จะไม่ปล่อยเชลยศึก จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์



กองบัญชาการกองทัพไทย ระบุถึงความชัดเจน เรื่องปล่อยตัว 18 เชลยศึกกัมพูชา ที่ไทยควบคุมตัวไว้ตามกติกาสากล โดยยืนยันว่ากองทัพไทยจะไม่ปล่อยเชลยศึก จนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ ซึ่งการสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาดำเนินการตาม เงื่อนไขหลัก 4 ข้อ คือ



- การถอนอาวุธประเภทจรวดออกจากพื้นที่ชายแดน

- การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน

- การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม

- และการบริหารจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน



ขณะที่ นายกรัฐมนตรี คุณอนุทิน ชาญวีรกูล เช้านี้ไปแสดงวิสัยทัศน์ ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ช่วงหนึ่ง พูดถึงการลงนามปฏิญญา สันติภาพ ระหว่างไทย กับ กัมพูชา ที่ผ่านมาว่า เหตุผลที่ไปลงนาม เพราะต้องการหยุดสงคราม โดยบอกว่า หน้าที่ของนายกฯต้องทำให้ประเทศสงบสุข และ มั่นใจได้เลยว่าการลงนามครั้งนี้ ประเทศไทยไม่มีวันเสียดินแดน ไม่มีวันเสียอธิปไตย อะไรที่เป็นของไทยก็ต้องเป็นของไทย ไม่มีจุดไหนที่เราจะยอมแลก และเป็นการไป เพื่อให้เห็นว่าอย่าได้คิดรุกรานประเทศไทย



นายกรัฐมนตรีย้ำด้วยว่า ปฏิญญาสันติภาพ นี้ไม่ใช่สัญญาสงบศึก แต่เป็นเพียงประตูด่านแรกที่จะนำไปสู่สันติภาพ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/a0t3I3ovBHw